นายแบงก์จับตาเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง

รร.อินเตอร์คอนฯ  3 ส.ค. – นายแบงก์จับตาภาวะเศรษฐกิจครึ่งปีหลังยังอ่อนไหว ส่งผลอนุมัติสินเชื่อรายย่อยเข้มงวด



นายพงษ์อนันต์ ธณัติไตร ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจลูกค้ารายย่อยและเครือข่ายการขาย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ยังติดตามภาวะเศรษฐกิจของไทยในช่วงที่เหลือของปี เพราะแม้เศรษฐกิจไทย 6 เดือนที่ผ่านมาจะมีสัญญาณดีขึ้น แต่ยังฟื้นตัวไม่ทั่วถึง เศรษฐกิจยังมีความอ่อนไหว  ดังนั้น การปล่อยสินเชื่อรายย่อยของธนาคารยังคงเป็นไปอย่างระมัดระวัง ซึ่งธนาคารมีเกณฑ์การอนุมัติสินเชื่ออย่างรัดกุมมาหลายปีแล้ว โดยจะพิจารณาจากรายได้ของผู้ขอสินเชื่อเป็นหลัก เน้นลูกค้าที่มีรายได้สูง มีภาระการผ่อนชำระเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด เพื่อให้ได้ลูกค้าคุณภาพดี ซึ่งที่ผ่านมาอัตราการปฏิเสธสินเชื่อที่อยู่อาศัยอยู่ประมาณร้อยละ 50 ส่วนสินเชื่อส่วนบุคคลอยู่ที่ประมาณร้อยละ 30 ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) สินเชื่ออสังหาริมทรัพย์จะควบคุมไม่ให้เกินร้อยละ 2 ส่วนเอ็นพีแอลสินเชื่อส่วนบุคคลไม่เกินร้อยละ 3 


นายพงษ์อนันต์ ยังกล่าวว่า ปัจจัยที่ท้าทายธนาคารพาณิชย์ปีนี้มาจากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกกฎเกณฑ์ใหม่เพื่อดูแลสถาบันการเงินว่าจะมีผลกระทบต่อการเติบโตของสินเชื่อธนาคารพาณิชย์อย่างไรบ้าง  เช่น เกณฑ์การควบคุมสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลที่ ธปท.ประกาศออกมามีผลวันที่ 1 กันยายนนี้ คาดว่าจะกระทบต่อการเติบโตของสินเชื่อทั้ง 2 ประเภทของธนาคารกรุงศรีอยุธยาประมาณร้อยละ 2-3 

ส่วนภาพรวมการปล่อยสินเชื่อรายย่อยช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาเติบโตมากกว่าภาพรวมของตลาด โดยสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ขยายตัวร้อยละ 4-5 ทำให้มั่นว่าจะเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ร้อยละ 8 ส่วนสินเชื่อบุคคลเติบโตมากกว่าร้อยละ 1 สูงกว่าภาพรวมตลาดที่ติดลบร้อยละ 2  ทำให้มั่นใจว่าสินเชื่อส่วนบุคคลปีนี้จะเติบโตได้มากกว่าเป้าที่ตั้งไว้ร้อยละ 2

“ครึ่งปีหลัง 2560 กรุงศรีจะเน้นการสร้างความเติบโตทั้งด้านเงินฝาก การลงทุน และสินเชื่อ โดยมีการจัดตั้งสายงานกลุ่มลูกค้าธุรกิจรายย่อยขึ้นมาเพื่อดูแลและสนับสนุนลูกค้าเซ็กเม้นท์นี้ให้เติบโต พร้อมปรับปรุงขั้นตอนการอนุมัติสินเชื่อให้ยืดหยุ่นตามศักยภาพของลูกค้าโดยมีทีมพิจารณาสินเชื่อสำหรับลูกค้าในกลุ่มนี้โดยเฉพาะ” นายพงษ์อนันต์ กล่าว.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก