เอสเอ็มอีแบงก์เดินหน้าหนุนรายย่อยเข้าถึงสินเชื่อ

เอสเอ็มอีแบงก์ 7 มี.ค. – “มงคล” หนุนคนตัวเล็ก ฝากเอสเอ็มอีแบงก์หนุนรายย่อยเข้าถึงสินเชื่อ  5.2 หมื่นราย วงเงิน 1.44 แสนล้านบาท เพิ่มการจ้างงาน 5.2 แสนคน 


นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) เปิดเผยในการอำลาตำแหน่งว่า  หลังจากเอสเอ็มอีแบงก์ออกจากแผนฟื้นฟู  เพื่อให้เอสเอ็มอีรายย่อยเข้าถึงแหล่งเงินทุนมากขึ้น จึงเน้นปรับแผนการปล่อยสินเชื่อ จากการสำรวจพบว่าผู้ประกอบการรายย่อยถึงร้อยละ 80 มองว่าไม่มีศักยภาพกู้เงิน ร้อยละ 50 ไม่มีสินทรัพย์ค้ำประกัน ไม่มีการเดินบัญชีเงินฝาก ไม่มีหลักฐานรับเงินรายได้ เอสเอ็มอีแบงก์จึงต้องใช้กลยุทธ์ส่งหน่วยเคลื่อนที่ลงทุนไปยังพื้นที่ชุมชน เพื่อเน้นการปล่อยสินเชื่อรายย่อยไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อบัญชี เพิ่มจุดบริการไปยังปั๊ม ปตท.ชุมชน ไปรษณีย์ไทย เทศบาล โดยเฉพาะการใช้รถม้าเติมทุน เพื่อให้เข้าถึงทุกจุดในชุมชน เพราะรถม้าเติมทุนมีเจ้าหน้าที่พิจารณาสินเชื่อ 2 คน อนุมัติสินเชื่อได้ถึง 4 ล้านบาทต่อคัน หรือประมาณ 10 ล้านบาทต่อเดือน 


นายมงคล กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปี 2558 ถึงมกราคม 2562 ธนาคารปล่อยสินเชื่อกว่า 52,000 ราย วงเงินกว่า 144,000  ล้านบาท เกิดการจ้างงาน  520,000 คน สร้างผู้ประกอบการใหม่นับ 1,000 ราย สร้างทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 720,000 ล้านบาท สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ 250,000 ล้านบาท มียอดหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) จากสินเชื่อใหม่ถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2561 เพียงร้อยละ 3.6  ยอดปล่อยสินเชื่อใหม่เฉพาะปี 2561  จำนวน 17,666 ราย  วงเงิน  36,714 ล้านบาท    

ส่วนเป้าหมายปี 2562 ปรับแผนการปล่อยสินเชื่อผ่านสาขา 35,000 ล้านบาท และรถม้าเติมทุน 22,200 ล้านบาท รวมยอดสินเชื่อเป้าหมายปีนี้ 57,200 ล้านบาท นับว่าตั้งแต่ปี 2558 ปล่อยสินเชื่อเพิ่มถึง 30,000 ล้านบาทต่อปี ยอดสินเชื่อคงค้างถึงปีนี้วงเงิน 100,000 ล้านบาท จึงเตรียมขายหนี้เสียไตรมาส 1จำนวน  3,000 ล้านบาท และช่วงต่อไปขายหนี้ออกไปจากกรมบังคับคดีเพิ่ม 5,000 ล้านบาท ทำให้ยอดหนี้เอ็นพีแอลทั้งระบบลดเหลือไม่เกินร้อยละ 10 ภายในปีนี้จะกลับแข็งแรงเป็นปกติ 


นายมงคล กล่าวต่อว่า สิ่งที่ได้วางแผนไว้และจะส่งมอบภารกิจให้แก่ผู้บริหาร ตลอดจนพนักงานธนาคาร ได้ยึดถือต่อไป คือ การมุ่งมั่นยึดบทบาทสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อย “จุลเอสเอ็มอี” หรือที่เรียกว่า “คนตัวเล็ก” ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้ค้า-แผงค้าในตลาด  กลุ่มรถจำหน่ายอาหารเคลื่อนที่ FoodTruck + รถพุ่มพวง โชห่วย และผู้ประกอบอาชีพอิสระ เป็นต้น ซึ่งมีกว่า 3 ล้านรายทั่วประเทศ เนื่องจากผู้ประกอบการกลุ่มนี้ความสามารถทางธุรกิจต่ำมาก  เพราะเข้าไม่ถึงความช่วยเหลือจากภาครัฐ เมื่อต้องการเงินทุนในระบบสถาบันการเงินแทบเป็นไปไม่ได้เลย เพราะไม่เคยมีประวัติการเงินหลายรายชักหน้าไม่ถึงหลังต้องหันไปพึ่งเงินกู้นอกระบบกลายเป็นว่าคนตัวเล็กอ่อนแอที่สุด กลับเข้าไม่ถึงมาตรการช่วยเหลือภาครัฐ  ส่วนรายระดับกลางที่ปรับตัวได้ดีสามารถเข้าถึงมาตรการสนับสนุนภาครัฐได้ด้วยช่วยให้มีศักยภาพเพิ่มสูงขึ้นไปอีก ทำให้ช่องว่างความเหลื่อมล้ำไปถูกฉีกกว้างมากขึ้น  

นอกจากนี้ ด้วยโครงสร้างเศรษฐกิจปัจจุบันเข้าสู่ยุคดิจิทัลหลายธุรกิจถูกเทคโนโลยีบีบให้เปลี่ยนแปลง จำเป็นต้องลดคนงาน  มีคนล้มกำลังมองหาอาชีพใหม่ เช่น ธุรกิจสื่อ สถาบันการเงิน เป็นต้น อีกทั้ง ผู้เกษียณอายุเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ  หนุ่มสาวที่ไม่ได้เรียนจบในสาขาที่ตลาดต้องการ จะหางานประจำยากขึ้น  ผลักให้ต้องก้าวมาเป็นผู้ประกอบการหน้าใหม่กระจายมากมายทั่วประเทศ รวมถึงต้องสร้างโอกาสให้แก่สตาร์ทอัพ ดังนั้น ธนาคารจึงกำหนดบทบาทที่จะดูแลสนับสนุนและเพิ่มความแข็งแกร่งให้รายย่อยอย่างใกล้ชิดและทั่วถึง เพื่อให้ผู้ประกอบการอยู่รอด ขยายตลาด และประสบความสำเร็จ  เพราะความสำเร็จของผู้ประกอบการ คือ ความสำเร็จของเอสเอ็มอีแบงก์

ทั้งนี้ แนวทางการสนับสนุนให้เกิดผลสำเร็จอย่างยั่งยืนนั้น ต้องครบทั้งความรู้ การเงิน และคุณภาพชีวิต มาพร้อมยกระดับการทำงานสู่ดิจิทัลแบงก์กิ้งสมบูรณ์แบบ  นำเทคโนโลยีทันสมัยสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเข้าถึงบริการของธนาคารได้ง่าย สะดวก และรวดเร็ว ขอแค่มีสมองกับสองมือ สามารถดำเนินธุรกิจได้ ธนาคารจึงกำหนดยุทธศาสตร์การทำงานด้วยการมอบ “3เติม”ผ่านกระบวนการ “3D” กล่าวคือ 3 เติม ได้แก่ 1.เติมทักษะให้ความรู้เพิ่มขีดความสามารถธุรกิจ  2.เติมทุนด้วยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งธนาคารได้รับมอบหมายจากรัฐบาล เช่น สินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน บุคคลธรรมดาปีที่ 1-3  เพียงร้อยละ 0.42 ต่อเดือน และนิติบุคคล  อัตราดอกเบี้ย ปีที่ 1-3 เพียงร้อยละ 0.25 ต่อเดือน  และสินเชื่อเถ้าแก่ 4.0 จากกระทรวงอุตสาหกรรม สำหรับนิติบุคคล อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 1 ต่อปี เป็นต้น และ 3.เติมคุณภาพชีวิต พาเข้าถึงสิทธิ์ประโยชน์และสวัสดิการภาครัฐ สร้างความมั่นคงในอาชีพ ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้กำกับโจ้เสียชีวิต

ราชทัณฑ์ แจงชัดเหตุ “ผู้กำกับโจ้” เสียชีวิตในเรือนจำ

ราชทัณฑ์ ออกเอกสารชี้แจงกรณี “ผู้กำกับโจ้” เสียชีวิตในเรือนจำกลางคลองเปรม ด้าน จนท.พิสูจน์หลักฐาน เตรียมเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ธ.ก.ส. ออก “สินเชื่อเกษตรวิวัฒน์” หนุนคนใกล้เกษียณทำเกษตร

กรุงเทพฯ 6 มี.ค.- ธ.ก.ส. เปิดตัว “สินเชื่อเกษตรวิวัฒน์” ให้กู้เพื่อซื้อที่ดินทำการเกษตรคู่ขนาน รองรับการเข้าสู่ Aging Society สูงสุด 8 ล้านบาท ธ.ก.ส. จัดสินเชื่อเกษตรวิวัฒน์ ส่งเสริมการดึงคนกลับเข้าสู่ภาคการเกษตร กรอบวงเงินรวม 3.75 หมื่นล้านบาท สานฝันบุคลากรภาครัฐและเอกชนที่มีรายได้ประจำอายุ 50 – 59 ปี สร้างรายได้คู่ขนานจากการทำการเกษตร และกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่อง รวมถึงการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาพัฒนาสินค้าเกษตรไปสู่เกษตร มูลค่าสูง วงเงินกู้สูงสุดรายละไม่เกิน 8 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยต่ำ 5 ปีแรก MRR – 2 และปีที่ 6 เป็นต้นไป เท่ากับ MRR แจ้งความประสงค์ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ผู้มีรายได้ประจำเป็นรายเดือน สามารถวางแผนการสร้างรายได้คู่ขนานจากการประกอบอาชีพเกษตรกรรม หรืออาชีพที่เกี่ยวกับการเกษตรในวัยก่อนและหลังเกษียณ รองรับการก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) เพิ่มการเกษตรที่มีการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม […]

ข่าวแนะนำ

ราชทัณฑ์เปิดภาพผ้าเช็ดตัว-ผังห้องขังหมายเลข 50

กรมราชทัณฑ์ เปิดภาพและขนาดผ้าเช็ดตัวที่จัดสรรแจกให้ผู้ต้องขังชาย-หญิง ในเรือนจำ พร้อมข้อมูลแดน 5 และผังห้องขังหมายเลข 50

ชายแดนตึงเครียด ทหารเมียนมา-KNLA ยังปะทะเดือด

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ยังตึงเครียด ทหารเมียนมากับกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ ยิงปะทะดุเดือด ขณะที่ชาวเมียนมา อพยพเข้าไทยอีกครั้งแล้วหลายร้อยคน

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก คาดฝีมือ นายอับดุลเลาะ บูละ แกนนำระดับสั่งการ ฝึกรบจากต่างประเทศ พบบางส่วนหนีขึ้นเขาตะเว บางส่วนข้ามชายแดนแล้ว

“หมอพรทิพย์” เผย แผลศพบอกได้ ฆาตกรรม หรือ ฆ่าตัวตาย

“หมอพรทิพย์” อดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เผยบาดแผลที่ศพ “ผกก.โจ้” จะบ่งชี้ได้ว่า ถูกฆาตกรรม หรือฆ่าตัวตาย