กรุงเทพฯ 21 ธ.ค. – เอสเอ็มอีแบงก์ออกมาตรการเยียวยาลูกค้า 4 จังหวัดภาคใต้ประสบอุทกภัย พักหนี้-เติมทุนใช้หมุนเวียนฟื้นฟูกิจการ ยื่นกู้ได้ตลอด 24 ชม.
นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่เกษตรและพื้นที่ชุมชนใน 4 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ ตรัง พัทลุง สงขลา และนครศรีธรรมราช ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบธุรกิจได้รับความเสียหายทั้งทางตรงและทางอ้อม ธนาคารได้ออก 2 มาตรการช่วยเหลือลูกค้าธนาคารที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ ไม่ว่าจะเป็นอุทกภัย วาตภัย โคลนถล่ม แผ่นดินไหว เป็นต้น ได้แก่ มาตรการพักชำระหนี้ สำหรับเงินกู้ยืมแบบมีระยะเวลา พักชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยเป็นระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน ส่วนสัญญาเบิกเงินทุนหมุนเวียนประเภทตั๋วสัญญาใช้เงิน ออกมาตรการช่วยเหลือพักชำระดอกเบี้ยเป็นเวลาไม่เกิน 6 เดือน
และมาตรการวงเงินสินเชื่อฉุกเฉินเพื่อฟื้นฟูกิจการ เพื่อให้ลูกค้าธนาคารที่ได้รับความเสียหาย มีเงินทุน นำไปฟื้นฟูและหมุนเวียนในกิจการ ซึ่งมีระยะเวลากู้สูงสุดไม่เกิน 5 ปี ปลอดชำระคืนเงินต้นไม่เกิน 1 ปี คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.415 ต่อเดือน ตลอดอายุสัญญา วงเงินสินเชื่อสูงสุดต่อราย ลูกหนี้ที่มีวงเงินอนุมัติรวมไม่เกิน 1 ล้านบาท ให้วงเงินกู้ไม่เกิน 500,000 บาท ลูกหนี้ที่มีวงเงินอนุมัติรวมมากกว่า 1 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 5 ล้านบาท ให้กู้สูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาท และลูกหนี้ที่มีวงเงินอนุมัติมากกว่า 5 ล้านบาท ให้กู้สูงสุดไม่เกิน 2 ล้านบาท ทั้งนี้ รวมวงเงินเดิมไม่เกิน 15 ล้านบาท ส่วนหลักประกันให้พิจารณาหลักประกันเดิมก่อน และสามารถใช้หลักประกัน บสย.ค้ำประกัน เฉพาะมาตรการที่เพิ่มไม่เกิน 2 ล้านบาท
สำหรับเอสเอ็มอีที่ต้องการเงินทุนเพื่อเสริมศักยภาพธุรกิจหลังภัยพิบัติผ่านไปแล้ว ธนาคารเตรียมสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษไว้รองรับ สำหรับใช้ลงทุน ขยาย ปรับปรุงกิจการ และหมุนเวียน เช่น สินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชนครอบคลุมสนับสนุนกลุ่มเกษตรแปรรูป ธุรกิจท่องเที่ยว/ท่องเที่ยวชุมชน ผู้ประกอบการใหม่ มีนวัตกรรม กลุ่มค้าส่งค้าปลีก ร้านโชห่วย ร้านค้าชุมชน ร้านธงฟ้า ผู้ประกอบการค้าสินค้าเกษตร เป็นต้น คิดอัตราดอกเบี้ยพิเศษ บุคคลธรรมดาปีที่ 1-3 เพียงร้อยละ 0.42 ต่อเดือน และนิติบุคคลจะมีอัตราดอกเบี้ยถูกลงไปอีก ปีที่ 1-3 เพียงร้อยละ 0.25 ต่อเดือน ธนาคารพร้อมให้บริการผ่านแพลตฟอร์ม “SME D Bank” แอพพลิเคชัน สามารถยื่นขอสินเชื่อได้ทุกเวลา ทุกสถานที่ ภายใต้รหัส 24×7 หมายถึง ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้ง 7 วัน ทำงานควบคู่กับหน่วยบริการเคลื่อนที่รถม้าเติมทุน ส่งเสริม เอสเอ็มอีไทย ฉับไว ไปถึงถิ่น เมื่อผู้ประกอบการยื่นขอสินเชื่อผ่านออนไลน์ จากนั้นภายใน 3 วัน เจ้าหน้าที่ธนาคารติดต่อกลับ เพื่อนัดหมายให้หน่วยรถม้าเติมทุนฯ เข้าไปพบ เพื่อขอดูข้อมูลเชิงประจักษ์การดำเนินธุรกิจจริง สามารถรู้ผลการพิจารณาสินเชื่อได้ใน 7 วัน ขณะเดียวกันพนักงานของธนาคารทำงานภายใต้รหัส 8-8-7 หมายถึง 8 โมงเช้าถึง 2 ทุ่ม (8:00-20:00 น.) ตลอด 7 วัน อีกทั้งเปิดศูนย์บริหารรถม้าเติมทุน ทำหน้าที่ติดตามการทำงานของหน่วยรถม้าเติมทุนฯ ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดตามเป้าหมายที่วางไว้
นอกจากนี้ สั่งการให้เจ้าหน้าที่สาขาในพื้นที่เข้าเยี่ยมและสำรวจความเสียหาย เพื่อช่วยเหลือได้ทันท่วงที และเปิด Call Center หมายเลข 1357 ไว้คอยรับแจ้งขอความช่วยเหลือ ดังนั้น ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติครั้งนี้ มั่นใจได้ว่าจะได้รับความช่วยเหลือจากธนาคารอย่างทั่วถึงและทันท่วงที.-สำนักข่าวไทย