ดีเอสไอ ส่งรายชื่อรถหรูขบวนการนำเข้าผ่านนักเรียนตรวจสอบ

ดีเอสไอ 1 ส.ค.- ดีเอสไอ ส่งรายชื่อรถหรูขบวนการนำเข้าผ่านนักเรียนตรวจสอบแล้วเกือบ 800 คัน พบข้อมูลมีผู้นำเข้ารถมากถึง 400 ราย เบนซ์ และปอร์เช่ รถยอดฮิต


พ.ต.ท.กรวัชร์  ปานประภากร  รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีรถที่ถูกโจรกรรมจากประเทศอังกฤษ ว่า เรื่องนี้ดีเอสไอได้รับหนังสือยืนยันจากประเทศอังกฤษแล้ว  ว่า รถยนต์ตามหมายเลขตัวถังและเครื่องยนต์ที่สูญหายจากประเทศอังกฤษถูกส่งมาขายในประเทศไทย ในส่วนการดำเนินคดี ยังต้องรอการหารือในประเด็นข้อกฎหมายเนื่องจากเป็นการกระทำผิดนอกราชอาณาจักร  ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะต้องดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องกับการโจรกรรมในประเทศไทย หรือส่งไปดำเนินคดีที่ประเทศอังกฤษ


ส่วนรายชื่อรถยนต์หรูที่ส่งให้กรมศุลกากรประเมินภาษีในลอตที่ 2 เป็นรถยนต์ที่ซื้อจากประเทศอิตาลีทั้งหมด แบ่งเป็นมาเซรัตติ  45 คัน ลัมโบกินี 46 คัน ในแต่ละคันสำแดงราคาต่ำตั้งแต่ 26-36 ล้านบาท ทำให้ภาษีขาดไปจำนวนมากถึง 1,100 ล้านบาท  


นอกจากนี้ยังมีรถที่อยู่ระหว่างติดตามตรวจสอบเพื่อส่งให้ประเมินภาษีอีกจำนวนมาก ขณะนี้ดีเอสไอรอการประเมินภาษีจากกรมศุลกากรอีกหนึ่งกลุ่มที่เหลือคือ 200 คัน  และกำลังเร่งรวบรวมหลักฐานส่งไปให้ศุลกากรประเมินภาษีอีก 1 ชุด  

ส่วนการนำเข้ารถยนต์โดยนักเรียนไทย 815 คันนั้น พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวว่ากรมการค้าต่างประเทศ ส่งข้อมูลให้ตรวจสอบแล้ว 794 คัน เบื้องต้นไม่ได้หมายความว่ารถทุกคันจะนำเข้าผิดทั้งหมด  แต่พบการใช้เอกสารปลอมนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นและพบขบวนการนำเข้ารถยนต์เก่าคลาสสิค       อีกจำนวนหนึ่ง  ระหว่างการดำเนินคดี  และเรียกผู้นำเข้าแจ้งข้อกล่าวหา  ดีเอสไอจะไม่ขอระบุชื่อผู้นำเข้า เพราะถูกฟ้องร้องมาแล้วหลายคดี  ดังนั้น การดำเนินคดีจะไม่เน้นที่ผู้ครอบครอง แต่เน้นการตรวจสอบตามเอกสารรถยนต์ที่นำมาสำแดงการนำเข้า  ทั้งนี้จากข้อมูลการตรวจสอบรถยนต์ทั้งหมดพบมีผู้นำเข้ารถมากถึง 400 ราย

สำหรับข้อมูลการนำเข้ารถของนักเรียนไทยและคนไทยที่ทำงานในต่างประเทศ ซึ่งกรมการค้าต่างประเทศส่งให้ดีเอสไอตรวจสอบย้อนหลังตั้งแต่ปี 2550 รวม 794 คัน พบว่านำเข้าจากสหรัฐฯ 134 คัน อังกฤษ 421 คัน ญี่ปุ่น 80 คัน ออสเตรเลีย 53 คัน นิวซีแลนด์ 17 คัน สิงคโปร์ 12 คัน  และประเทศอื่น ๆ โดยยี่ห้อรถยนต์ที่นิยมนำเข้าสูงสุดคือเบนซ์ 188 คัน  ปอร์เช่ 180 คัน บีเอ็ม ดับเบิลยู 48 คัน โรเวอร์มินิ 35 คัน เบนลี 25 คัน เฟอร์รารี่ 23 คัน มินิคูเปอร์ 19 คัน โรลสอยด์ 18 คัน โฟคสวาเกน 15 คัน จากัวร์ 11 คัน. –สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย ขณะที่ ผบ.ตร. อาลัยตำรวจกล้า สั่งต้นสังกัดดูแลสิทธิประโยชน์ เลื่อนเงินเดือนและชั้นยศ

นักโทษกลับใจ

อดีตนักโทษกลับใจ หลังติดคุก 30 ปี โทรคุยกับพ่อทั้งน้ำตา

อดีตนักโทษชีวิตโตมาในคุก ตั้งแต่อายุ 19 จนตอนนี้ อายุ 49 ปี ร่ำไห้กับตำรวจ ขอให้ช่วยพากลับบ้านที่จากมา 30 ปี ตำรวจโทรศัพท์หาพ่อ ให้ 2 พ่อลูกคุยกันทั้งน้ำตา

ตำรวจจีนพาผู้ต้องสงสัยฉ้อโกง 200 ราย กลับจากเมียนมา

พลเมืองจีน 200 รายที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ถูกส่งตัวจากเมืองเมียวดีในเมียนมากลับจีนแล้วเมื่อวานนี้ ภายใต้การคุ้มกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจจีน

เด็ก 12 สูบบุหรี่ไฟฟ้า-ดื่มน้ำกระท่อม ทำปอดหาย

ย่าช็อก หลานวัย 12 ปี อาการวิกฤติ ปอดหายเกือบทั้งหมด ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หลังสูบบุหรี่ไฟฟ้าและดื่มน้ำกระท่อมตั้งแต่ ป.4

ข่าวแนะนำ

บ่อนดังย่านดอนเมืองปิดเงียบ ขึ้นป้ายห้ามเข้าออก

บ่อนดังย่านดอนเมืองปิดเงียบ ขึ้นป้ายพื้นที่ส่วนบุคคลห้ามเข้าออก พบปิดกิจการตั้งแต่ 16 มี.ค.63 ขณะที่มีกล้องวงจรปิดติดตั้งโดยรอบ

ฮั้วเลือก สว.67

ประธานวุฒิสภา นำทีมแถลงด่วน โต้คดีฮั้วเลือก สว.67

ประธานวุฒิสภา นำทีมแถลงด่วน โต้คดีฮั้วเลือก สว.67 เชื่อเป็นเกมการเมือง หวังเกิดวิกฤต รธน. เพื่อรื้อใหม่ทั้งฉบับ ขู่ใช้ช่องทางกฎหมายกลับ หากทำเสียหาย-บั่นทอนความเชื่อมั่น เพื่อปกป้องศักดิ์ศรี จวก “ทวี” กล่าวหาอั้งยี่ ซ่องโจรทำวุฒิเสื่อมเสีย พร้อมเปิดเวทีซักฟอก

ไทยเข้าฤดูร้อน

กรมอุตุฯ ประกาศเข้าสู่ฤดูร้อนของไทย 28 ก.พ.68

กรมอุตุนิยมวิทยา เตือน 23-25 กุมภาพันธ์นี้ ไทยตอนบนอากาศแปรปรวน ภาคใต้ฝนตกหนัก ส่วนอ่าวไทยตอนล่างคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร พร้อมประกาศประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการ 28 ก.พ.68 จนถึงกลางเดือน พ.ค.

“ไทย จีน เมียนมา” จับมือโชว์ภารกิจราบรื่น ส่งชาวจีนกลับประเทศ

“ไทย จีน เมียนมา” จับมือโชว์แสดงผลภารกิจราบรื่น ส่งชาวจีนเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับประเทศ 200 คน ปรับแผนจีนส่งเครื่องบินรับอีก 400 คน สองวันติด “ภูมิธรรม” เผยพร้อมเสนอนายกฯ เซ็นตั้ง ศปช.ส่วนหน้า ทำงานให้ชัดเจน มีกฎหมายรองรับผู้ปฏิบัติ ย้ำไทยไม่ตั้งศูนย์อพยพรองรับเหยื่อที่เหลือ แต่ประสานให้ต้นทางรับกลับทันที