ทำเนียบฯ 1 ส.ค. – ครม.เห็นชอบปรับเพิ่มภาษีสุรา-ยาสูบร้อยละ 2 พร้อมเปิดทางผู้สูงอายุมีฐานะสมัครใจงดรับเบี้ยสูงอายุ คาดว่าได้เงินตั้งกองทุนผู้สูงอายุ 8,000 ล้านบาท
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบตั้งกองทุนผู้สูงอายุด้วยการปรับเพิ่มพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตเบียร์ สุรา ยาสูบ ร้อยละ 2 เพื่อเพิ่มรายได้ภาษีเข้ากองทุนผู้สูงอายุไม่เกิน 4,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังเตรียมรณรงค์ผู้สูงอายุที่มีรายได้สูงแจ้งความจำนงแบบสมัครใจกับกระทรวงการคลัง เพื่องดรับเบี้ยยังชีพและได้รับการยกย่อง เตรียมดำเนินการเปิดโครงการรับสมัครผู้สูงอายุงดรับเบี้ยยังชีพ หลังกฎหมายสรรพสามิตผ่านความเห็นชอบสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ปลายปี คาดได้เงินเพิ่มอีก 4,000 ล้านบาท รวมเป็นเงินนำส่งเข้ากองทุนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น 8,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ เพื่อรองรับผู้สูงอายุที่ลงทะเบียนสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย 2.3 ล้านคน จากผู้สูงอายุทั้งหมด 3.5 ล้านคน รองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ จากปัจจุบันคนชราอายุ 60-69 ปี ได้รับเบี้ยยังชีพคนชรา 600 บาท อายุ 70-79 ปี ได้รับเบี้ยยังชีพคนชรา 700 บาท อายุ 80-89 ได้รับเบี้ยยังชีพคนชรา 800 บาท อายุ 90 ปีขึ้นไปได้รับเบี้ยยังชีพคนชรา 1,000 บาท และหากคนชราไม่มีผู้อุปการะเลี้ยงดูจะได้รับเงินสงเคราะห์จากกระทรวงมหาดไทยอีก 300 บาทต่อเดือน และเงินที่ได้รับเพิ่มจาก 2 ส่วนจะนำมาจัดสรรให้กับผู้สูงอายุรายได้น้อยเพิ่มอีกประมาณ 200 บาทต่อคนต่อเดือน
ปัจจุบันภาษีสรรพสามิตจัดสรรให้กับกองทุน สสส.ร้อยละ 2 ของรายได้ภาษีสรรพสามิต ประมาณ 4,271 ล้านบาท, การจัดสรรให้กับกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ สัดส่วนร้อยละ 2 ของรายได้ภาษีสรรพสามิต ประมาณ 4,271 ล้านบาท , การจัดสรรให้กับสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส สัดส่วนร้อยละ 1.5 ไม่เกิน 2,000 ล้านบาทต่อปี และได้เพิ่มเติมจัดสรรให้กับกองทุนผู้สูงอายุร้อยละ 2 ด้วยเช่นกัน โดยปี 2559 กรมสรรพสามิตจัดเก็บภาษีจากกลุ่มสุรา ยาสูบ เบียร์ได้ 213,569 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย