จ.นครปฐม 31 ก.ค.-สมเด็จพระสังฆราช ทรงห่วงใยพระสงฆ์ สามเณร และประชาชน ที่ประสบภัยน้ำท่วม รับสั่ง มส.ดูแลบรรเทาความเดือดร้อน เรื่องอาหารอย่างใกล้ชิด ก่อนสำรวจวัดที่เสียหายช่วยหาทุนบูรณะ ขณะที่ผอ.พศ.ไม่เข้าร่วมประชุม ระบุติดปฏิบัติราชการสำคัญ
พระพรหมเมธี โฆษกมหาเถรสมาคม นายบุญเชิด กิตติธรางกูร ผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม และนายประดับ โพธิกาญจนวัตร โฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ร่วมแถลงภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคม(มส.) ที่ พุทธมณฑล จ.นครปฐม โดยมีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เป็นประธานการประชุม
พระพรหมเมธี กล่าวว่า สมเด็จพระสังฆราชทรงห่วงใยพระสงฆ์และประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในหลายจังหวัด ทั้งภาคอีสานและภาคเหนือ โดยมอบหมายให้กรรมการ มส.ดูแลช่วยบรรเทาความเดือดร้อนอย่างใกล้ชิด แบ่งเป็น 2 ระยะ คือช่วยเหตุเฉพาะหน้า ดูความเป็นอยู่ของพระสงฆ์ หรือแม้แต่ประชาชนที่ต้องการมาพึ่งวัด ส่วนระยะถัดไป คือการสำรวจความเสียหายเพื่อหาทุนไปช่วยบูรณะปฏิสังขรณ์ต่อไป โดย พศ.ยังได้ประสานไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด สำรวจความเสียหายของวัดต่าง ๆ เพื่อจัดสรรงบในการบูรณะ แต่เบื้องต้นที่ประชุมมอบให้ฝ่ายศาสนาสงเคราะห์ ลงพื้นที่ดูแลและอำนวยความสะดวกแก่พระเณรก่อนเบื้องต้น โดยมีจุดรับบริจาคอยู่ที่วัดยานนาวา
พระพรหมเมธี กล่าวต่อว่า สมเด็จพระพุฒาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก ได้แจ้งต่อที่ประชุม กรณีการแต่งตั้งเจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา ยืนยันว่าเป็นไปตามระเบียบของ มส. ไม่ได้ข้ามขั้นตอนหรือมีการซื้อขายตำแหน่งตามที่สังคมสงสัยหรือบางกลุ่มกล่าวหา โดยที่ประชุมมส.วันนี้ได้รับรองมติการแต่งตั้ง พระเทพปริยัติสุนทร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวราราม เป็นเจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา
ขณะเดียวกันกรณีที่สังคมสงสัยว่าเป็นการแต่งตั้งโดยมิชอบ ขณะที่สมเด็จพระสังฆราช ไม่ได้ร่วมประชุมนั้น ชี้แจงว่าการประชุมมส.ครั้งที่แล้ว สมเด็จพระสังฆราช ทรงมอบให้สมเด็จพระวันรัต กรรมการ มส.ทำหน้าที่แทน และสามารถรับรองมติ มส.ได้ จึงถือว่าเป็นเรื่องปกติ และการเสนอแต่งตั้งเจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นการเสนอเรื่องตามลำดับ ไม่ได้เป็นวาระจรหรือเร่งด่วนตามที่เป็นข่าว โดยการแต่งตั้ง พระเทพปริยัติสุนทร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวราราม ตรงตามระเบียบทุกประการ คือ เป็นพระสังฆาธิการ ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าคณะอำเภอมาไม่ต่ำกว่า4 ปีมีสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะตั้งแต่ชั้นสามัญขึ้นไป
ส่วนข้อสังเกตว่า พระเทพปริยัติสุนทร เคยมีอธิกรณ์ หรือโทษทางสงฆ์ จนถูกสั่งพักตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาส ไปช่วงหนึ่ง แต่ปี 2557 เจ้าอาวาสวัดโสธร ขณะนั้น ได้เสนอเรื่องถึง มส.ผลการสอบสวน และสั่งให้พระเทพปริยัติสุนทร พ้นมลทิน กลับมารับตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาสเช่นเดิม
นอกจากนี้ยังสร้างคุณูปการด้านการศึกษา จึงสมควรต่อการแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะจังหวัด ยืนยันไม่มีผลประโยชน์ใดๆทั้งสิ้นในการแต่งตั้ง อย่างไรก็ตามในการประชุมครั้งนี้ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการ พศ.ในฐานะเลขาธิการมส.ไม่ได้เข้าร่วมประชุม มอบหมายให้รองผู้อำนวยการ พศ.ทำหน้าที่แทน โดยแจ้งว่าติดภารกิจสำคัญไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้ ซึ่งผู้อำนวยการ พศ.ไม่ได้เข้าร่วมประชุม 2 ครั้งแล้ว
ส่วนประเด็นที่ มส.อยากพูดคุยกับ ผอ.พศ.หลายเรื่องโดยเฉพาะ เงินทอนวัดและงบโรงเรียนพระปริยัติธรรมที่สร้างความไม่สบายใจให้กับคณะสงฆ์ พระพรหมเมธี กล่าวว่า เพียงอยากพูดคุยทำความเข้าใจให้ตรง กัน และทำความจริงให้กระจ่าง แต่เมื่อ ผู้อำนวยการ พศ.ติดราชการ ก็บ่นถึงท่านเป็นเรื่องปกติ มองว่า มส.และ ผอ.พศ.ต่างทำงานร่วมกัน แต่เมื่อกระแสสังคมมองว่า ต่างคนต่างทำ เลยอยากจะนัดหารือกันให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งได้ฝากไปทางรองผู้อำนวยการ พศ. ให้นำเรียนต่อผู้อำนวยการ พศ.ในการหาโอกาสพูดสอบถามในประเด็นต่าง ๆ
ส่วนกระแสที่ว่าคณะสงฆ์และกรรมการ มส. ไม่พอใจและต่อว่าการทำงานของผู้อำนวยการ พศ.ชี้แจงว่าอาจเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนของพระที่ไม่ได้อยู่ใน มส.ใกล้ชิดกับ พศ. ซึ่ง มส.ไม่เคยมีปัญหาในทำงานร่วมกัน เพราะผู้อำนวยการ พศ.เป็นเลขาธิการ มส.ต้องรับสนองงาน มส.และทำตามนโยบายนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างชอบธรรม
ทั้งนี้ ที่ประชุมมส.ไม่ได้นำเรื่องกรณีเงินทอนเข้าที่ประชุม เพราะปล่อยให้เป็นไปกลไกล และการตรวจสอบของภาครัฐที่มีหน้าที่ดูแลในเรื่องนี้ .-สำนักข่าวไทย