“สมคิด”เร่งสร้างสตาร์ทอัพรองรับกองทุนเอกชน

ตลท. 31 ก.ค. – รัฐบาลดึงหลายหน่วยงานตั้งกองทุนขนาดใหญ่ร่วมลงทุนสร้างสตาร์ทอัพเกิดใหม่จำนวนมาก รองรับกองทุนเอกชนเข้าร่วมลงทุน  ขณะที่มหาวิทยาลัยระบุนักศึกษาแนวคิดใหม่รอรับการสนับสนุนจากหลายหน่วยงาน  ขณะที่ ตลท.พร้อมเจียดเงินตั้งกองทุน 1 พันล้านบาท เริ่มลงทุนต้นปีหน้า  


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมรัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมกระทรวงอุตสาหกรรม ประชุมร่วมกับผู้บริหารกระทรวงการคลัง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)  สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)  สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) มหาวิทยาลัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากรัฐบาลต้องการสร้างผู้ประกอบการสตาร์ทอัพริเริ่มใหม่ของเมืองไทยสร้างโดยคนไทย เพื่อบ่มเพาะผู้ประกอบการให้โอกาสได้เติมทุน  จึงต้องการตั้งกองทุนขนาดใหญ่ นำโดย ตลท.และหน่วยงานอื่น เพื่อปั้นผู้ประกอบการสตาร์ทอัพขึ้นมา เพื่อให้มีผู้ประกอบการสตาร์ทอัพให้เพียงพอต่อการคัดเลือกจากกองทุนของภาคเอกชนให้เข้ามาลงทุน ยอมรับขณะนี้มีผู้ประกอบการสตาร์ทอัพจำนวนน้อยมากยังไม่พอให้กองทุนเอกชนคัดเลือกลงทุน จึงเชิญภาคเอกชนมาสะท้อนปัญหา เพื่อหาแนวทางในการส่งเสริม 

เพราะบริษัทเอกชนเมื่อต้องการร่วมลงทุนกับผู้มีศักยภาพเท่านั้น จึงเน้นไปลงทุนกับต่างชาติ  จึงต้องการดึงมหาวิทยาลัยปั้นนักศึกษาหลายด้านไม่ใช่เฉพาะด้านไอที วิทยาศาสตร์ เพื่อร่วมวิจัยให้เกิดการลงทุน มองว่าเมืองไทยมีศักยภาพหลายอย่างที่ส่งเสริมให้สร้างขึ้นมาได้ นายกรัฐมนตรีพร้อมสนับสนุนสร้างบริษัทในมหาวิทยาลัย เพื่อส่งเสริมสตาร์ทอัพเกิดขึ้นในสังคมไทย  กระทรวงอุตสาหกรรมร่วมกันสร้างผู้ประกอบการเฟส 2 เพราะเฟสแรกเริ่มตั้งตัวแล้ว  ด้วยการส่งเสริมกองทุนกล้าเสี่ยงเข้าไปลงทุน (Angel VC) เป็นหัวหอกเริ่มต้นเข้าร่วมลงทุนกับผู้มีแนวคิด และนำมาบ่มเพาะให้มีความรู้เพิ่ม  โดยกระทรวงดิจิทัลฯ พร้อมแก้ปัญหาอุปสรรคให้เสร็จก่อนการจัดงานประชุมเชิงปฏิบัติการใหญ่  “ดิจิทัลเวนเจอร์” ในช่วงเดือนกันยายนนี้  และมอบหมายให้กระทรวงการคลังศึกษาแนวทางการเพิ่มแรงจูงใจด้านภาษี เพื่อลดภาระให้กับผู้ประกอบการ 


รัฐบาลต้องการส่งเสริมให้เกิดผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ 10,000  ราย หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนตั้งกองทุนร่วมลงทุน VC เพื่อลงทุนกับผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศ คาดว่า 3-4 ปีข้างหน้าจะร่วมลงทุนกับผู้ประกอบการสตาร์ทอัพได้รับพันราย ขณะนี้กองทุนของรัฐบาลและเอกชนต้องการส่งเสริมการร่วมทุนกับผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ รายเล็กต้องการเงินทุน 10-20 ล้านบาท รายใหญ่ต้องการ 40-50 ล้านบาท เฉลี่ย 30 ล้านบาทต่อราย ยอมรับว่าผู้ประกอบการสตาร์ทอัพมีศักยภาพผ่านการคัดเลือกเพียงร้อยละ 10  ปัจจุบันร่วมทุนไปแล้ว 28,338 ล้านบาท นับว่าแบงก์รัฐตั้งกองทุน VC ทั้งธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย เอสเอ็มอีแบงก์ ตลท. ขณะที่ภาคเอกชนตั้งกองทุน CVC เช่น กลุ่มทรู ไทยพาณิชย์ กรุงศรีอยุธยา ภาคอสังหาฯ ประกันชีวิต บีทีเอส ล็อกซ์เล่ย์ 

นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานกรรมการบริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า ปัจจุบันตั้งกองทุนร่วมลงทุนกับผู้ประกอบการสตาร์ทอัพที่มีแนวคิดนวัตกรรมและบริหารจัดการที่ดีเฉลี่ยวงเงิน 1-2 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อราย เพื่อสนับสนุนเด็กรุ่นใหม่ที่มีแนวคิดดีทั้งด้านดิจิทัลมิเดียร์ วาดคอมเตอร์กราฟฟิก รวมทั้งกองทุนของทรูวงเงินประมาณ 1,000 ล้านบาท จึงต้องเพิ่มทุนอีก 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  ขยายไปร่วมทุนกับ สตาร์ทอัพของต่างชาติเพิ่ม หากดึงกองทุนสตาร์ทอัพจากทั่วโลกมาได้จะเพิ่มศักยภาพอย่างมาก  ยอมรับว่าสิงคโปร์กองทุน CVC เติบโตอย่างมาก เพราะอำนวยความสะดวกและมีแรงดึงดูดการลงทุน  ดังนั้น ไทยควรเพิ่มแรงจูงใจด้านภาษีเพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญมาลงทุนด้านสตาร์ทอัพมากขึ้น 

นายธนพงษ์ ณ ระนอง นายกสมาคมไทยเวนเจอร์แคปปิตอล กล่าวว่า หากมีระบบบัญชีถูกต้องจะดึงดูดให้เกิดสตาร์ทอัพมากขึ้น สมาชิกของสมาคมฯ มีเงินลงทุน 3,000 ล้านบาท แต่ยังลงทุนน้อยมาก เพราะมีความเสี่ยงค่อนข้างสูง จึงต้องการลงทุนกับเอกชนที่ดำเนินการมาแล้วระยะหนึ่งและมีผลดำเนินการดี ขณะนี้ได้ตั้งกลุ่มพรีเมียร์ลีกของไทย เพื่อหันมาเน้นช่วยเหลือกลุ่มหลักและดึงดูดให้สตาร์ทอัพรายอื่นเข้า  ขณะที่ผู้บริการไทยพาณิชย์ แจ้งว่าตั้งกองทุน CVC ต้องการออกไปลงทุนกับสตาร์ทอัพหลายพื้นที่ทั่วโลก ทุก 6 เดือนจะออกแบบการร่วมลงทุน เพื่อเปิดให้สตาร์ทอัพเสนอเข้ามาให้ร่วมลงทุน ยอมรับว่าผู้ประกอบการของไทยยังน้อยมากเพราะขาดแรงจูงใจ  


ตัวแทนจากธนาคารกรุงเทพ เผยว่า ได้ออกไปลงทุนหลายประเทศทั่วโลก ด้านอุตสาหกรรม, E-Commerce,Tradding,Fintech และหากขาดความรู้ความเข้าใจพร้อมดึงต่างชาติเข้ามาเสริมความรู้  ในส่วนของเอสซีจี ตั้งกองทุนมาแล้ว 3 ปี ขนาดกองทุทน 3,000 ล้านบาท มองว่าการร่วมลงทุนกับสตาร์ทอัพ  ต้องมีลูกค้า มีแผนธุรกิจชัดเจน ยอมรับว่าในยุโรปสนใจมางทุนในอาเซียน ตัวแทนกองทุนสิริ ได้รวมกลุ่มตั้งกองทุนร่วมลงทุนกับผู้ประกอบการสตาร์ทอัพช่วงแรก ๆ 3 ปีก่อน  ต้องสร้างผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ  สำหรับบทบาทของมหาวิทยาลัย  มองว่าศักยภาพของนักศึกษาไทยสร้างให้เป็นสตาร์ทอัพได้แน่นอน จึงมีแผนตั้งเมืองนวัตกรรมแห่งสยามผ่านการส่งเสริมจากจุฬาฯ ขณะที่มหาลัยหลายแห่ง ยอมรับว่านักศึกษาที่มีศักยภาพได้บ่มเพาะรอการสนับสนุนจากภาครัฐและหน่วยงานอื่น เมื่อมองเห็นช่องทางการร่วมทุน นับเป็นจุดเริ่มที่ดีในการนำฝันของนักศึกษาออกมาเปิดเวทีแข่งขันกับต่างชาติ โดยเฉพาะกองทุนจาก ตลท. หากเข้ามาช่วยเหลือจะสร้างฝันของนักศึกษา. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

“ทวี” แจง “ดีเจแมน-ใบเตย” ได้เยียวยา แต่ต้องรอคดีถึงที่สุด

“ทวี” แจง “ดีเจแมน-ใบเตย” ได้รับค่าเยียวยา หลังศาลชั้นต้นยกฟ้อง แต่ต้องรอให้คดีถึงที่สุด บอกหากไม่ได้รับความยุติธรรม ฟ้องรัฐได้

หมอชิต 2 เริ่มคึกคัก คาดวันนี้จะมีผู้โดยสารหนาแน่นที่สุด

สถานีขนส่งหมอชิต 2 มีประชาชนบางส่วนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาแล้ว แต่ยังไม่หนาแน่นนัก ด้าน บขส. คาดตลอดทั้งวันนี้จะมีผู้โดยสารหนาแน่นที่สุดถึง 120,000 คน

นายกฯ มอบคำขวัญวันเด็กประจำปี 2568

“แพทองธาร” นายกฯ มอบคำขวัญวันเด็ก ประจำปี 2568 “ทุกโอกาส คือ การเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง” ระบุรัฐบาลเห็นคุณค่าในตัวเด็กๆ ทุกคน ขอให้ปรับตัวเรียนรู้ ให้เข้ากับสถานการณ์

การจราจรมุ่งหน้าภาคอีสานเริ่มหนาแน่นตั้งแต่เช้า

คนแห่เดินทางกลับฉลองปีใหม่ เส้นทางมุ่งหน้าภาคอีสานเริ่มหนาแน่นตั้งแต่เช้า แต่ยังเคลื่อนตัวได้ ยังไม่เปิดช่องทางพิเศษ