วิกฤตน้ำท่วมสกลนครหนักสุดในรอบ 30 ปี

สกลนคร 28 ก.ค.-วิกฤตน้ำท่วม “สกลนคร” หนักสุดในรอบ 30 ปี จมบาดาลทั้งเมือง ประชาชนเดือดร้อนหนักเร่งอพยพคน บางส่วนแห่กักตุนอาหาร


พิษพายุเซินกา ฝนตกหนักตลอด 2 วันที่ผ่านมา ทำให้ปริมาณน้ำในหนองหารไม่สามารถรองรับน้ำ เนื่องจากมีปริมาณเกินความจุเก็บกัก บวกกับน้ำป่าจากเทือกเขาภูพาน น้ำจากเขื่อนห้วยเดียก ได้ไหลมาสมทบ ทำให้พื้นที่ลุ่ม ในเขตพื้นที่ อ.เมืองสกลนคร ได้รับผลกระทบอย่างหนัก อีกทั้งน้ำหนองหาน ไม่สามารถไหลระบายลงสู่น้ำโขงได้ เนื่องจากระดับน้ำโขงเพิ่มสูงใกล้จุดวิกฤติ ส่งผลให้เกิดน้ำเอ่อท่วมอย่างรวดเร็ว


โดยเฉพาะในเขตเทศบาลเมืองนครพนม ระดับน้ำท่วมถึงจุดวิกฤติ สร้างวามเดือดร้อนให้กับประชาชน ต้องเร่งขนย้ายสิ่งของออกจากบ้านเรือนขึ้นที่สูง รวมถึงรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ถูกน้ำท่วมขัง ได้รับความเสียหายจำนวนมาก เนื่องจากบางจุดในใจกลางเมืองสกลนคร มีระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร ส่งผลกระทบทั้งความเป็นอยู่ รวมถึงการสัญจรไปมาต้องถูกตัดขนาด ถนนเส้นทางจากตัวเมืองสกลนคร มุ่งหน้าไปยัง จ.อุดรธานี ไม่สามารถใช้รถสัญจรไปมาได้ เพราะระดับน้ำลึกกว่า 1 เมตร รวมถึงร้านค้าย่านเศรษฐกิจสำคัญหลายจุดถูกน้ำท่วมขัง 

มีรายงานว่าภายในโรงแรม HOP INN จ.สกลนคร พบผู้ติดค้าง 69 คน เร่งประสานหน่วยงานเข้าช่วยเหลือออกมา นอกจากนั้นยังได้รับแจ้งว่าหอพักกรชนก เลขที่ 57/1 ม.11 ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร มีเด็กติดอยู่บนหอพักกว่า 20 คน วอนเจ้าหน้าที่เร่งเข้ามาช่วยเหลือโดยด่วน เพราะน้ำขึ้นสูงเรื่อยๆ และตอนนี้ขาดทั้งอาหารและน้ำดื่ม


ล่าสุดได้รับรายงานจากผู้อำนวยการโรงพยาบาลสกลนครว่า จังหวัดสกลนครประสบภัยน้ำท่วมทั้งจังหวัด โดยผู้ว่าราชการจังหวัดได้เปิดวอร์รูม เพื่อช่วยเหลือและเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ในส่วนของโรงพยาบาลสกลนคร มีน้ำท่วมบริเวณรอบนอกโรงพยาบาล แต่ยังไม่เข้าในตัวอาคาร โรงพยาบาลยังเปิดบริการได้ตามปกติ โดยดำเนินการ ดังนี้

1.เคลื่อนย้ายผู้ป่วยเด็ก ผู้ป่วยไอซียู อุปกรณ์ทางการแพทย์ ระบบสำรองไฟฟ้า เครื่องใช้สำนักงานที่สำคัญขึ้นไปยังตึกสูง 2.ประสานเตรียมการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลใกล้เคียง กรณีเปิดบริการไม่ได้ 3. ประสานโรงพยาบาลชุมชน ให้ส่งผู้ป่วยวิกฤต/ฉุกเฉินไปยังโรงพยาบาลจังหวัดใกล้เคียงคือ อุดรธานี ขอนแก่น มุกดาหาร นครพนม 3.จัดบริการนอกสถานที่ โดยจัดหน่วยแพทย์บริการประชาชนที่ศาลากลางจังหวัดสกลนคร เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนในการรับการตรวจรักษา เนื่องจากเส้นทางไปโรงพยาบาลมีน้ำท่วมสูง

ขณะที่ประชาชนต่างแห่เข้าร้านสะดวกซื้อเพื่อกักตุนเสบียงอาหารจนหมดร้าน เนื่องจากระดับน้ำในเขตเทศบาลนครสกลนคร ชุมชนหนองสนม ย่านการค้า ถนนสุขเกษม ถนนรัฐพัฒนา ระดับน้ำสูงเกือบ 2 เมตร โดยมีน้ำไหลลงมาจากเทือกเขาภูพานอย่างต่อเนื่อง มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เสียหายแล้วกว่า 1,000 หลังคาเรือน จนท.กู้ภัย ทหาร ตำรวจ อาสาสมัคร ต่างเร่งอพยพผู้ที่ติดอยู่ที่อาศัยในบ้านนำ ไปสถานที่พักพิงชั่วคราวโรงยิมศูนย์ศาลากลางจังหวัดสกลนคร

น้ำท่วมครั้งนี้ ถือเป็นความเดือดร้อนอย่างหนัก ในพื้นที่ อ.เมืองสกลนคร ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ในรอบกว่า 30 ปี นายวิทยา จันทร์ฉลอง ผู้ว่าฯ สกลนคร กล่าวว่า สาเหตุมาจากระดับน้ำสะสมต่อเนื่องมาอย่างยาวนาน จนเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ต่างๆ ขณะนี้ได้ประกาศภัยพิบัติแล้วที่ อ.เมืองสกลนคร ขณะนี้ยังอยู่ขั้นวิกฤต ได้ส่ง จนท.ทหาร มทบ.29 และจากกองทัพภาคที่ 2 เข้าช่วยเหลือประชาชนแล้ว โดยอพยพให้ออกจากที่อาศัยมาอยู่ที่สูงก่อนเนื่องจากระดับน้ำยังไม่น่าไว้วางใจ ทั้งนี้กำลังประเมินสถานการณ์กันอย่างต่อเนื่อง ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัยและดินถล่ม จังหวัดสกลนคร มีสำนักงาน ปภ.สกลนคร เป็นหน่วยประสานงาน โดยมีโทรศัพท์ ดังนี้ 042711771 , 042715232  มือถือ 0899696760 ในระหว่างวันที่  27 – 28 กรกฎาคม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]

เพื่อไทยโพสต์พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน

กรุงเทพฯ 5 ก.ย.- พรรคเพื่อไทย พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ขอบคุณทุกแรงใจ ระบุ นโยบายหลายเรื่องค้างไว้ รอวันกลับมาสานต่อ ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติ 311 เสียง เห็นชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ว่า “พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตามครรลองของรัฐสภา ยึดมั่นหลักการประชาธิปไตย ขอขอบคุณทุกแรงใจ นโยบายหลายเรื่องที่ยังค้างไว้ เราจะรอวันกลับมาสานต่อให้สำเร็จ เพื่อคนไทยทุกคน…ตลอดไป” .-316 -สำนักข่าวไทย