นักวิชาการด้านน้ำ ชี้หลังพายุเซินกายังไม่มีแน้วโน้มมีพายุเข้าไทย

สำนักข่าวไทย 28 ก.ค.-นักวิชาการด้านน้ำ ชี้พายุเซินกาในไทย จะเริ่มอ่อนกำลังลงช่วง 29 ก.ค.แต่พื้นที่น่าห่วง คือ จ.ตากและจ.เพชรบูรณ์ ยืนยันไทย ยังไม่มีแน้วโน้มมีพายุเข้าหลังจากนี้ แต่เป็นเพียงฝนหนัก ช่วง12 ส.ค.แถบ เหนือ-อีสาน  


นายชวลิต จันทรรัตน์  วิศกรแหล่งน้ำและประธานเจ้าหน้าที่บริหารทีมกรุ๊ป ผู้เชี่ยวชาญระบบจัดการน้ำภายในประเทศ กล่าวว่า หลังจากพายุโซนร้อนเซินกาเข้ามาเวียดนามเมื่อ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา และลดระดับเป็นความกดอากาศต่ำค่อนข้างเร็ว ความแรงจะไม่สูงมาก เข้าสู่ประเทศไทย แถบ จ.อุบลราชธานี จ.อำนาจเจริญ จ.ยโสธร จ.ร้อยเอ็ด จ.มหาสารคาม จ.ขอนแก่นและจ.ชัยภูมิ  ส่งผลให้มีฝนมาก  อยู่ที่ปริมาณ 100-150 มิลลิเมตร แม้ฝนจะมาก แต่ความเสียหายไม่มาก เนื่องจากพาดผ่านเร็วและฝนไม่ตกซ้ำที่เดิม  ถือว่าพายุลูกนี้ทำให้มีปริมาณน้ำไปเติมเข้าเขื่อนๆต่างได้อย่างดี เช่น เขื่อนสิริธร จ.อุบล เขื่อนน้ำอูน เขื่อนน้ำพุง จ.สกลนคร  หลังน้ำไม่เต็มมา 3ปีแล้ว  ซึ่ง2เขื่อนแม้จะอยู่ในภาวะที่น้ำในเขื่อนใกล้เต็ม แต่ก็ไม่น่าห่วง  และช่วง 28-29 ก.ค.ฝนจะเคลื่อนเข้าสู่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์  แม่สอด จ.ตาก อุทัยธานี  ทำให้มีฝนมาก  แต่ไม่น่าห่วง เพราะไม่มีพายุตามมาอีก ที่บอกว่า 3-4 ลูก  ไม่ได้เข้าประเทศไทย เข้าเฉพาะเซินกา ลูกเดียว  


ทั้งนี้ กรมชลประทานมีการระบายน้ำออกจากเขื่อนเจ้าพระยาเพื่อพร่องน้ำไว้รองรับน้ำใหม่ไว้แล้ว หลังจากวันที่29-30 น้ำจะเริ่มลงมาสะลมหน้าเขื่อนเจ้าพระยาจังหวัดชัยนาทมากขึ้น  มีบางพื้นที่ที่ท่วม คือพื้นที่ลุ่มต่ำ อย่าง อ.อินบุรี จ.สิงบุรี  อ.โผลงเผง อ.บางบาล อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา  พื้นที่นอกคันกั้นน้ำ อาจจะท่วมประมาณ3วัน  ส่วนจ.ปทุมธานี จ.นนทบุรี และกรุงเทพมหานคร ไม่ต้องกังวล ถึงแม้น้ำทะเลหนุนสูงบ้าง แต่มวลน้ำที่ไหลมาจากจ.ชัยนาทจะไหลผ่านได้อย่างสบาย 


นายชวลิต กล่าวยืนยันว่า พายุเข้าไทยในช่วงนี้ มีแค่ พายุเซินกา  และจะอยู่เพียงระยะสั้นๆ  ส่วนอีก3 ลูก คือ พายุโรคี จะขึ้นที่ฮ่องกง และอีก2 ลูกยังอยู่กลางทะเล คือ พายุโนรู และพายุกุหลาบ  อยู่แถบมหาสมุทรปซิฟิก ซึ่งจะขึ้นแถบญี่ปุ่น ไม่มีแน้วโน้มเข้าไทย  ยืนยันว่า พายุเซินกา จะอยู่ที่ไทย 26-29 ก.ค. โดยวันที่ 29 ก.ค.ก็จะเริ่มจางลงไป  แต่จะเหลือ 2 หย่อม คือ อ.แม่สอด จ.ตาก กับอ.หล่มสัก  อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ จะเดือนร้อนกว่าที่อ่น  ช่วง 28 จะมีน้ำท่วมล้นตลิ่ง 

สำหรับพายุลูกต่อไป คือพายุ เนสาด ยังไม่มีทีท่าว่าจะเข้าไทย แต่มีทิศทางจะขึ้นฝั่งใต้หวัน ช่วง 29ก.ค.-2ส.ค. จะนิ่งอยู่ที่ใต้หวัน และเข้าสู่ จีน 3-5 ส.ค.ต่อไป    หลังพายุลูกนี้ผ่านไป ในช่วง 10 วันหลังจากนี้  ไม่มีแนวโน้มพายุเข้า  แต่จะมีฝนตกมากตามปกติ  ช่วง วันที่ 12 สิงหาคม แถบภาคเหนือ และอีสาน  

อย่างไรก็ตามไม่อยากให้ประชาชนกังวล ยืนยันว่า สถานการณ์น้ำปีนี้ ค่อนไปทางน้อย ฝนมีค่าเฉลี่ยน้อย จากปรากฏการณ์เอลนีโญ ควรเตรียมน้ำไว้ใช้มากกว่า  และห่างไกลจากปี2554 ที่น้ำท่วมใหญ่ เนื่องจากเมื่อปี 54 พายุเข้า 3ลูก คือ ไถ่ถาง เนสาด นาแก แต่สำหรับปีนี้ พายุเข้าเพียง2 ลูกเท่านั้น  ถือว่ามีช่วยเติมน้ำได้ดี แม้จะท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำแต่ไม่ขังนาน ท่วมเพียง3วัน ก็จะระบายได้ดี  .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” ปรากฏตัวแล้ว บอกไม่สบายใจมี ตร.เฝ้าหน้าบ้าน

ปรากฏตัวแล้ว “ทนายตั้ม” พบตำรวจเหตุมีเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าที่บ้าน พร้อมแจงปมเงิน 39 ล้านบาท ค่าศิลปินจีน ที่แท้เป็นมิจฉาชีพหลอก “เจ๊อ้อย” ปฏิเสธพบคู่กรณี บอกยังไม่พร้อมคุย

เกาะกูด

“ภูมิธรรม” ย้ำจะรักษาผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

“ภูมิธรรม” มอง MOU44 คือกลไกที่ดีที่สุด ก่อนย้อนกลุ่มการเมือง พปชร.ไปถามหัวหน้าพรรคตัวเอง เพราะเป็นคนนำเจรจาในปี 57 ยันไม่เคยยกเลิกในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ย้ำรัฐบาลจะรักษาดินแดน-ผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

US election

ทรัมป์-แฮร์ริส หาเสียงวันสุดท้าย ก่อนหย่อนบัตรวันนี้

ขณะนี้เหลือไม่ถึง 24 ชั่วโมงก็จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 5 พฤศจิกายน ผลสำรวจความเห็นประชาชนต่างชี้ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ และนางคอมมาลา แฮร์ริส