กระบี่ 21 ก.ค.-สำนักข่าวไทย อสมท เกาะติดปฏิบัติการส่งมอบผู้ต้องหาคดีสังหารผู้ใหญ่บ้านวรยุทธ และครอบครัวเสียชีวิต 8 คน บาดเจ็บ 3 คน จากการควบคุมตัวของทหารให้ตำรวจ วันนี้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ช่วง 11.00 น. มีกำลังคุมเข้มทุกขั้นตอน โดยใช้เวลาดำเนินการต่างๆ นานเกือบ 5 ชั่วโมง ก่อนที่ตำรวจจะควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปฝากขังต่อที่เรือนจำจังหวัดกระบี่ผัดแรกเป็นเวลา 12 วัน
นี่เป็นวินาทีที่ทหาร นำโดย พ.อ.ธนายุทธ ส่วนกุล ผู้บังคับการกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 พร้อมด้วยกำลังทหารและตำรวจจำนวนมาก คุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 8 คน เดินทางมาถึงยังกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ โดยแยกคุมผู้ต้องหาด้วยรถ 2 คัน คันละ 4 คน ทันทีที่รถจอดสนิท เจ้าหน้าที่ก็ทยอยคุมตัวผู้ต้องหา ซึ่งในขณะนั้นมีการสวมหมวกปิดบังใบหน้า สวมเสื้อเกราะกันกระสุน และผูกผ้าพันคอสีเหลือง เดินลงจากรถทีละคน เข้าไปภายในห้องประชุมพิทักษ์กระบี่ มีเจ้าหน้าที่ประกบตัวผู้ต้องหาทั้งซ้ายและขวา โดยในระหว่างนี้ทางเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้สื่อเข้ามาบันทึกภาพในจุดที่รถของผู้ต้องหาจอดอยู่ ทำให้ยังไม่เห็นใบหน้าของผู้ต้องหาว่าใครเป็นใครบ้าง
อย่างไรก็ตาม หลังจากผู้ต้องหาทั้งหมดเข้าสู่ห้องที่เจ้าหน้าที่เตรียมไว้ เจ้าหน้าที่ก็อนุญาตให้สื่อบันทึกภาพในห้องประชุมผ่านทางกระจกหน้าต่าง ซึ่งในเวลานี้ทำให้ได้เห็นใบหน้าของผู้ต้องหาทั้งหมดได้อย่างชัดเจนทั้ง 8 คน เริ่มจากนายซูริก์ฟัต บ้านนบวงศ์สกุล หรือบังฟัต ตัวการสำคัญของคดีนี้ โดยสีหน้าของบังฟัตนั้น ยังคงเรียบเฉย ไม่มีอาการตื่นตกใจ หรืออิดโรยแต่อย่างใด
ส่วนพวกของบังฟัตอีก 7 คน หลายคนนั่งก้มหน้าตลอดเวลา ประกอบด้วย นายคมสรรค์ เวียงนนท์ นายอรุณ ทองคำ นายประจักษ์ บุญทอย นายอับดุลเลาะ ดอเลาะ นายธวัชชัย จำนอง นายธนชัย บุญคง และคนสุดท้ายเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในคดีนี้ คือ นางชลิดา สังขโชติ ซึ่งผลการสอบสวนของตำรวจระบุว่า นางชลิดา เป็นภรรยาคนที่ 2 ของบังฟัต ซึ่งแม้เธอจะไม่ได้อยู่ร่วมในเหตุการณ์วันที่มีการยิงผู้ใหญ่วรยุทธ และครอบครัว เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 10 กรกฎาคม แต่ตำรวจระบุว่า เธอเป็นผู้ทำหน้าที่จัดหาชุดลายพรางทหาร และรถฟอร์จูนเนอร์ ให้ผู้ต้องหาอีก 7 คนใช้ก่อเหตุ และยังเคยอยู่ร่วมในการพยายามอุ้มผู้ใหญ่วรยุทธ ไปสังหารมาแล้วถึง 2 ครั้ง
หลังจากผู้ต้องหาทั้ง 8 คน พิมพ์ลายนิ้วมือ ตรวจสุขภาพ และบันทึกประวัติเสร็จเรียบร้อยแล้ว พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และพนักงานสอบสวนก็ได้แจ้งข้อกล่าวหา ให้ผู้ต้องหาทั้งหมดและทนายความที่มาด้วยรับทราบ ก่อนจะสวมกุญแจมือผู้ต้องหาทั้ง 8 ราย และแยกไปคุมตัวอีกจุด เพื่อให้สื่อมวลชนได้เข้าไปภายในเพื่อซักถาม ผบ.ตร. และดูของกลางที่ตรวจยึดได้ทั้งหมด ทั้งอาวุธปืนของผู้ใหญ่บ้านวรยุทธ ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุยิงผู้ใหญ่วรยุทธและสมาชิกในบ้านทั้ง 11 คน รวมถึงอาวุธปืนปลอม บีบีกันของบังฟัต และของกลางอื่นๆ รวมทั้งหมด 57 รายการ ตำรวจตรวจยึดไว้ได้ ก่อนหน้านี้
โดยในช่วงที่มีการแถลงข่าว ผบ.ตร.ยืนยันว่า ปมสังหารยกครัวนี้ยังเป็นเรื่องของความขัดแย้งจากการขายฝากที่ดิน ที่ผู้ใหญ่วรยุทธ นำไปขายฝากให้บังฟัต จำนวนเงิน 750,000 บาท ซึ่งขณะนั้นบังฟัต ได้ให้ผู้ใหญ่วรยุทธ โอนที่ดินขาดให้เป็นกรรมสิทธิ์ของบังฟัต โดยมีการทำสัญญาใจกันว่าจะคืนโฉนดที่ดินกลับให้ผู้ใหญ่วรยุทธ เมื่อนำเงินมาไถ่ถอนคืน แต่สุดท้ายบังฟัต ก็นำโฉนดดังกล่าวไปจำนองต่อกับธนาคารเป็นเงินราว 4 ล้านเศษ จนเป็นเหตุให้เกิดความขัดแย้ง จนนำมาสู่การสังหารยกครัว
นอกจากนั้น ผบ.ตร.ยังย้ำด้วยว่า ไม่มีผู้บงการอื่นที่ใหญ่กว่าบังฟัต เข้ามาเกี่ยวข้องแล้ว พร้อมกับเตรียมเรียกอดีตนายตำรวจที่ถูกให้ออกจากราชการมาสอบปากคำ หลังมีการปล่อยข่าวถึง “เจ๊ชุมพร” ว่าเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังบังฟัต
ตำรวจยังได้ใช้ห้องประชุมพิทักษ์กระบี่จำลองให้เป็นบ้านหลังเกิดเหตุของผู้ใหญ่วรยุทธ เพื่อให้ผู้ต้องหาทั้ง 8 คน ได้ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ แทนการไปทำแผนที่บ้านหลังเกิดเหตุ โดยในช่วงนี้เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปภายใน ต่อจากนั้นในเวลาราว 16.20 น. ทหารก็ทยอยควบคุมตัวผู้ต้องหาออกจากห้องประชุมพิทักษ์กระบี่ เพื่อเดินทางต่อไปที่ศาลจังหวัด โดยบังฟัต เป็นคนแรกที่ถูกควบคุมตัวออกมา ตามด้วย นายอรุณ ทองคำ นายอับดุลเลาะ ดอเลาะ และนางชลิดา สังขโชติ ขึ้นรถคันเดียวกันส่วนอีก 4 คนที่เหลือ คือ นายประจักษ์ บุญทอย นายคมสรรค์ เวียงนนท์ นายธวัชชัย จำนอง และนายธนชัย บุญคง ถูกควบคุมตัวขึ้นรถอีกคัน โดยการส่งมอบตัวในวันนี้ เจ้าหน้าที่ใช้เวลารวมทั้งหมดกว่า 5 ชั่วโมง
ทั้งนี้ ตลอดการส่งมอบตัวผู้ต้องหาจากการควบคุมตัวของทหารให้ตำรวจต่อเนื่องกันนานหลายชั่วโมงนี้ ไม่ปรากฏว่ามีญาติและครอบครัวของผู้ใหญ่บ้านวรยุทธ ญาติของบังฟัตและพวก ตลอดจนประชาชนที่ทราบข่าว เดินทางมาดูการส่งมอบตัวตามที่มีการคาดการณ์ไว้ในตอนแรก เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้จัดกำลังตำรวจคุมเข้ม กันพื้นที่รอบบริเวณกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ เพื่อไม่ให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาภายในพื้นที่การส่งมอบตัว.-สำนักข่าวไทย