กรุงเทพฯ 20 ก.ค. – บมจ.บางจากฯ- บมจ.น้ำตาลขอนแก่น (KSL) ควบรวมกิจการชีวภาพทั้งเอทานอล- ไบโอดีเซล กลายเป็นรายใหญ่สุดในประเทศและจะกระจายหุ้นไตรมาส 4/2561
บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ (19 ก.ค.) อนุมัติการควบรวมบริษัท (Amalgamation) ระหว่างบริษัท บีบีพี โฮลดิ้ง จำกัด (BBH) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยทำธุรกิจชีวภาพกับบริษัท เคเอสแอลจีไอ จำกัด (KSLGI) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ บมจ.น้ำตาลขอนแก่น (KSL) จะจัดตั้งขึ้นใหม่เพื่อรับโอน และเข้าถือหุ้นร้อยละ 99.99 ใน บมจ.เคเอสแอล กรีน อินโนเวชั่น ซึ่งทำธุรกิจเอทานอล
สำหรับการควบรวม ทำให้เกิดบริษัทใหม่ ภายใต้ชื่อบริษัท บีบีจีไอ จำกัด (BBGI) ซึ่ง BCP จะถือหุ้นในบริษัทใหม่ร้อยละ 60 และ KSL ถือหุ้นร้อยละ 40 คาดว่าการดำเนินการจะเสร็จเดือนตุลาคม 2560 ก่อนผลักดันเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งคาดว่าอาจจะดำเนินการได้ช่วงไตรมาส 4/2561 บริษัทใหม่จะเป็นบริษัทหลัก (flagship company) ที่ BCP และ KSL ประสงค์จะให้ประกอบธุรกิจหลักในการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชีวภาพ (Bio Based) ได้แก่ เอทานอลและไบโอดีเซล (B100) โดยการควบรวมดังกล่าวคาดว่าจะส่งผลดีต่อ BCP และผู้ถือหุ้นในระยะยาวในด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชีวภาพ และเป็นการสร้างศักยภาพและความได้เปรียบทางธุรกิจ ตลอดจนเพิ่มโอกาสการขยายธุรกิจดังกล่าวในอนาคตผ่านบริษัทใหม่
สำหรับ BBH ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ชีวภาพ 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท บางจากไบโอเอทานอล (ฉะเชิงเทรา) จำกัด (BBE) ซึ่ง BBH ถือหุ้นร้อยละ 84.99, บริษัท บางจากไบโอฟูเอล จำกัด (BBF) ถือหุ้น ร้อยละ 70 และบริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (UBE) ถือหุ้นร้อยละ 21.28
ขณะที่ KSLGI เมื่อรับโอนหุ้นจาก บมจ.เคเอสแอล กรีน อินโนเวชั่น แล้ว ทำให้เป็นผู้ผลิตเอทานอลทั้งหมดของ KSL ซึ่ง ณ วันควบรวมบริษัทใหม่จะทำให้เป็นผู้ผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ ซึ่งได้แก่ เอทานอล และ B100 ขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศ ด้วยกำลังการผลิตรวม 1.71 ล้านลิตร/วัน แบ่งเป็น กำลังการผลิตเอทานอล 9 แสนลิตร/วัน และ B100 จำนวน 810,000 ลิตร/วัน
KSL และ BCP ตกลงร่วมกันในหลักการว่าภายหลังจากการดำเนินการควบรวมบริษัทแล้วเสร็จ ในกรณีที่บริษัทใหม่ดำเนินการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) เพื่อนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตามกฎหมายและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องของไทยนั้น หากมีการพิจารณาจัดสรรหุ้นส่วนหนึ่งเพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นของคู่สัญญาทั้งสองฝ่าย จะเป็นการจัดสรรตามสัดส่วนการถือหุ้นที่แต่ละฝ่ายถือในบริษัทใหม่ในวันควบบริษัท (Pre-emptive right)
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ BCP กล่าวว่า การควบรวมดังกล่าวประมาณเดือนตุลาคมนี้ ก็จะใช้ชื่อบริษัทใหม่ว่าบริษัท บีบีจีไอ จำกัด (BBGI) มีทุนจดทะเบียน 2,530 ล้านบาท.- สำนักข่าวไทย