แจ้งวัฒนะ 18 ก.ค.-โฆษก สปสช.ชี้ หากพบโรงพยาบาลย่านบางนา ปฏิเสธการรักษาผู้ป่วยที่มีภาวะตกเลือดระหว่างตั้งครรภ์จริง ถือว่ามีความผิด ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง สัปดาห์หน้าจะรู้ผล
ทันตแพทย์อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ โฆษกสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เปิดเผยกรณีชายคนหนึ่งเข้าแจ้งความ เพื่อให้ดำเนินคดีกับโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งย่านบางนา ที่กระทำการประมาททำให้เด็กแรกคลอดเสียชีวิต โดยชายดังกล่าวแจ้งว่านำภรรยาซึ่งมีอาการตกเลือดระหว่างตั้งครรภ์ไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแนะนำว่าให้ไปโรงพยาบาลที่มีขนาดใหญ่ เนื่องจากอุปกรณ์ไม่พร้อม จึงได้เดินทางไปโรงพยาบาลอื่น แต่ได้รับแจ้งว่าสิทธิประกันสุขภาพถ้วนหน้าของตนอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนย่านบางนา หากรักษาโรงพยาบาลอื่นจะมีค่าใช้จ่ายสูง จึงได้ย้อนกลับมาที่โรงพยาบาลเอกชนย่านบางนา กระทั่งโรงพยาบาลรับภรรยาเข้าห้องไอซียู
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ตัดสินใจผ่าเอาเด็กออกจากครรภ์ แต่พบว่าเด็กได้เสียชีวิตแล้วนั้น ว่าขณะนี้สำนักงานหลักประกันสุขภาพเขต 13 กทม.ได้ลงพื้นที่หาข้อเท็จจริงร่วมกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.)เพื่อหาข้อมูลหลักฐาน ว่าการดำเนินการของโรงพยาบาลดังกล่าว เป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพหรือ ไม่ โดยปรกติหากโรงพยาบาลประมาณอาการของผู้ป่วยว่า อยู่ในอาการหนัก อุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ของโรงพยาบาลไม่สามารถรักษาผู้ป่วยได้ โรงพยาบาลต้องทำการส่งตัวผู้ป่วยต่อไปยังโรงพยาบาลใหญ่ที่มีความพร้อมกว่า หากการตรวจสอบพบว่า การดำเนินการวันนั้น ไม่เป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพ จะถือว่า ผู้ดำเนินการสถานพยาบาล มีความผิดฐานไม่ควบคุมและดูแลให้ผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายเกี่ยวกับการประกอบวิชาชีพของตน ในส่วนของผู้ประกอบวิชา ชีพ สบส.จะส่งเรื่องให้สภาวิชาชีพพิจารณา ดำเนินการต่อไป และหากโรงพยาบาลเอกชนดังกล่าวมีการประเมิน และช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ป่วยฉุกเฉิน ซึ่งอยู่ในสภาพอันตรายและจำเป็นต้องได้รับการรักษาพยาบาลเพื่อให้พ้นจากอันตรายตามมาตรฐานวิชาชีพ หรือหากมีความจำเป็นจะต้องส่งต่อผู้ป่วย ทางโรงพยาบาลได้จัดให้มีการส่งต่อผู้ป่วยไปยังสถานพยาบาลอื่นอย่างเหมาะสมหรือไม่ โดยการสอบสวนจะรู้ผลภายใน 7 วัน ขณะที่คณะกรรมการชดเชยเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายจากการรักษาทางการแพทย์ของ สปสช. จะอนุมัติชดเชยความเสียหายทันที.-สำนักข่าวไทย
