สนช.เห็นชอบร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วย กกต.ฉบับ กมธ.ร่วมปรับแก้

รัฐสภา 13 ก.ค.- สนช. มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วย กกต.ฉบับกรรมาธิการร่วมปรับแก้ ขณะที่ กรรมาธิการร่วม ย้ำ การการเซตซีโร่ กกต.ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ หรือหลักนิติธรรมตามที่ กกต. อ้าง


การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วันนี้ (13 ก.ค.) มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. เป็นประธานการประชุม มีวาระพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ฉบับที่คณะกรรมาธิการวิสามัญตามมาตรา 267 วรรคห้าของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หรือคณะกรรมาธิการร่วมพิจารณาเสร็จแล้ว ซึ่งกรรมาธิการเสียงข้างมากมีมติยืนตามร่างเดิมที่ผ่าน สนช.วาระ 3 

นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช.ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการร่วม ชี้แจงต่อที่ประชุม สนช.ว่า กรรมาธิการเสียงข้างมากเห็นว่า  ทั้ง 6 ประเด็นข้อโต้แย้งของ กกต. ตรงตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแล้ว 


ขณะที่ นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. ในฐานะกรรมาธิการเสียงข้างน้อย ได้สงวนความเห็นในชั้นกรรมาธิการ พร้อมชี้แจง 6 ข้อโต้แย้งต่อที่ประชุมเป็นรายประเด็น ว่า  ข้อโต้แย้งประเด็นแรก มาตรา 11 วรรคสาม การกำหนดคุณสมบัติ และลักษณะต้องห้ามของคณะกรรมการสรรหา กกต. ที่ให้มีความเป็นกลาง ซื่อสัตย์สุจริต มีความเข้าใจในภารกิจของ กกต. และไม่มีพฤติการณ์ยอมตนอยู่ใต้อาณัติของพรรคการเมืองใดๆ และ ประเด็นที่ 2 มาตรา 12 วรรคหนึ่ง เรื่องคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของ กกต. ที่กำหนดว่า ต้องไม่มีพฤติการณ์ยอมตนอยู่ในอาณัติของพรรคการเมืองใดๆ รวมตลอดทั้งมีทัศนคติที่เหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดผลสำเร็จ  เป็นการเขียนเกินกว่าที่รัฐธรรมนูญกำหนด 

ส่วนประเด็นที่ 3 มาตรา 26 เรื่องอำนาจหน้าที่ของ กกต. แต่ละคนในการสั่งระงับ เมื่อเห็นว่าการเลือกตั้งไม่สุจริต และเสนอต่อที่ประชุม กกต. เพื่อวินิจฉัยนั้น ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดอำนาจหน้าที่ของ กกต. เพียงคนเดียวสามารถสั่งระงับยับยั้ง หรือสั่งเลือกตั้งใหม่ได้   ประเด็นที่ 4 มาตรา 27 กำหนดให้ กกต.เป็นผู้ควบคุมดูแลการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น  ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ  เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดให้ กกต.มีอำนาจหน้าที่เป็นผู้จัดการเลือกตั้ง  

ประเด็นที่ 5 มาตรา 42 วรรคหนึ่ง ที่กำหนดว่า กกต. มอบอำนาจให้เลขาธิการ กกต. หรือพนักงานของสำนักงาน มีอำนาจสืบสวนสอบสวนและไต่สวน   แต่รัฐธรรมนูญกำหนดให้อำนาจ กกต. สืบสวนสอบสวนได้  และประเด็นที่ 6 มาตรา 70 ที่ให้ กกต.ชุดปัจจุบันพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ  กกต. เห็นว่า ไม่ตรงตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ เพราะขัดหลักนิติธรรม และเป็นการเลือกปฏิบัติ อีกทั้ง ยังไม่ทราบว่า ผู้ดำรงตำแหน่งองค์กรอิสระอื่นๆ จะต้องถูกเซ็ตซีโร่เหมือน กกต.หรือไม่  


“สนช.เป็นสภาศักดิ์สิทธิ์ บทบัญญัติใดขัดต่อรัฐธรรมนูญ สมาชิก สนช.ควรไต่ตรองให้ดี โดยเฉพาะทั้ง 6 ประเด็นดังกล่าวว่า เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและหลักนิติธรรมหรือไม่ เพื่อให้การออกกฎหมายองค์กรอิสระอื่นเป็นไปตามมาตรฐานเดียวกัน ไม่เป็นการเลือกปฏิบัติ” นายศุภชัย กล่าว

ด้าน กรรมาธิการร่วมเสียงข้างมาก ชี้แจงว่า คุณสมบัติ และลักษณะต้องห้ามของคณะกรรมการสรรหา กกต. รวมทั้ง คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของ กกต. ที่กำหนดในร่างดังกล่าว เป็นการขยายความบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญให้ชัดเจนมากขึ้น พร้อมทั้งเป็นหลักเกณฑ์ให้คณะกรรมการสรรหาได้พิจารณา  ถือว่า ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด 

ส่วนเรื่องอำนาจหน้าที่ของ กกต. แต่ละคนในการสั่งระงับ เมื่อเห็นว่าการเลือกตั้งไม่สุจริต และเสนอต่อที่ประชุม กกต. เพื่อวินิจฉัยนั้น  กรรมาธิการร่วมเสียงข้างมาก ยืนยันว่า อำนาจและหน้าที่ของ กกต.คนเดียวยังคงมีอยู่ แต่ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ กกต.กำหนด  ในร่างดังกล่าวเพียงแค่ขยายความเพิ่มเติมจากรัฐธรรมนูญ ซึ่ง สนช.เขียนข้อสังเกตไว้แล้วว่า ให้ กกต.ปฏิบัติหน้าที่ โดยยึดทั้งรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญด้วย ดังนั้น กกต.จึงยังมีอำนาจตามรัฐธรรมนูญทุกประการ

สำหรับมาตรา 27 ที่ กกต.โต้แย้งนั้น  กรรมาธิการน่วมเสียงข้างมาก ระบุว่า  ร่างดังกล่าวบัญญัติว่า ให้อำนาจ กกต.สามารถมอบหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือหน่วยงานอื่น ดำเนินการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นได้ แต่ไม่ได้บังคับว่า กกต.จะต้องมอบอำนาจ ดังนั้น กกต.จะไม่มอบอำนาจให้หน่วยงานอื่นก็ได้ หาก กกต.สามารถดำเนินการจัดได้เอง 

ขณะที่ อำนาจสืบสวนสอบสวนและไต่สวนของ กกต.นั้น กรรมาธิการร่วมเสียงข้างมาก ย้ำว่า กกต.ยังมีอำนาจการสืบสวนสอบสวนอยู่ เพียงแต่เพิ่มการมอบอำนาจให้เลขาธิการ กกต. หรือพนักงานของสำนักงานได้ เพื่อความสะดวกในการทำงาน 

ส่วนประเด็นการเซ็ตซีโร่ กกต.  กรรมาธิการร่วมเสียงข้างมาก ย้ำว่า ได้พิจารณาด้วยจิตใจที่สะอาด สว่าง สงบ ปราศจากอคติ รวมทั้งพิจารณาจากโครงสร้าง และอำนาจหน้าที่ของ กกต. เป็นหลัก ไม่ได้ดูที่ตัวบุคคล  และรัฐธรรมนูญไม่ได้บัญญัติให้ กกต.ชุดปัจจุบันดำรงตำแหน่งต่อไป ดังนั้น การเซ็ตซีโร่ กกต.จึงไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ หรือขัดต่อหลักนิติธรรมตามที่ กกต. อ้าง

จากนั้น ที่ประชุม สนช.มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วย กกต.ตามที่คณะกรรมาธิการร่วมพิจารณาเสร็จแล้ว ด้วยคะแนน 194 เสียง งดออกเสียง 7 เสียง โดยขั้นตอนต่อไป สนช.จะส่งร่างกฎหมายฉบับนี้ให้นายกรัฐมนตรี เพื่อเตรียมนำขึ้นทูลเกล้าฯ ก่อนประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป  .- สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังข้อเท็จจริง​ปมทุ่นระเบิดช่องบก

กองทัพบก 22 ก.ค.- ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร​ 47 ประเทศ​ รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​-กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ พบ เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​วางใหม่​ โดยมีหลายชาติ สนใจรับฟังขณะ​ พลจัตวา​ ฮอม​ คิม ผู้ช่วยทูตทหารดัมพูชา ร่วมด้วย กองบัญชาการ​กองทัพ​บก​ เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย​ รับฟังการชี้แจงสถานการณ์​ชายแดนไทย​-กัมพูชา​ ถึงข้อเท็จจริงกรณีไทยโดนรุกล้ำอธิปไตย​ และมีการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​ ทำให้ทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย​ และมีการตรวจสอบว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่​ ที่วางในเขตไทย​ ซึ่งขัดต่ออนุสัญญา​ออตตาวา​ ที่ทั้งไทยและกัมพูชาเป็นประเทศภาคี​ที่ให้สัตยาบัน​​ บรรดาทูต​ทหาร​ ทยอยเดินทางมายังห้อง ศรีสิทธิสงคราม​ ภายในกองทัพบก ตั้งแต่เวลา​ 13.20 น.​ อาทิทูตทหารจากเวียดนาม เมียนมา อินเดีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อังกฤษ บูรไน ออสเตเรีย สหรัฐอเมริกา อินโดนิเซีย จีน กัมพูชา เยอรมันนี แคนนาดา […]

พายุวิภากระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านอาหารถล่ม

จันทบุรี 22 ก.ค. – พายุกระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านข้าวมันไก่ถล่ม กระแทกหลังแม่เจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่ภูเก็ตพายุถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต หลังคาร้านข้าวมันไก่ บริเวณตลาดศิริการ อ.เมือง จ.จันทบุรี ถูกพายุพัดร่วงลงมาทั้งแผง ท่ามกลางความตื่นตระหนกของลูกค้าและพนักงานในร้าน เหตุดังกล่าวเกิดช่วงเที่ยงพอดี จึงมีลูกค้ามานั่งกินข้าวเต็มร้าน กระทั่งมีฝนเทลงมา ทางร้านและลูกค้าจึงช่วยกันขนย้ายโต๊ะเก้าอี้เข้าข้างในเพื่อหลบฝน ก่อนพายุจะซัดเข้ามาอย่างรุนแรง จนหลังคาถล่ม เบื้องต้นไม่มีลูกค้าได้รับบาดเจ็บ มีเพียงแม่เจ้าของร้านข้าวมันไก่อีกร้าน ที่อยู่ติดกัน ถูกหลังคากระแทกหลังได้รับบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลแล้ว พนักงานร้านข้าวมันไก่ บอกว่า ปกติบริเวณนี้มีฝนตกบ่อย หลังคาแข็งแรงดี ไม่ได้ชำรุดอะไร แต่วันนี้ ลมแรงมาก มาแบบวูบเดียว พัดหลังคาลอยขึ้นก่อนพังลงมา ทั้งนี้ลมพายุได้พัดหลังคาของตึกที่อยู่ในละแวกร้านข้าวมันไก่พังเสียหายจำนวน 15 คูหา เบื้องต้นกำลังทหารและตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบ พร้อมให้การช่วยเหลือ ขนย้ายเศษซากหลังคาเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว พายุโซนร้อนวิภาถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต ที่หน้าหาดเกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ หอบข้าวของวิ่งหนีลมพายุ จังหวะนั้นต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกลมพัดโค่นลงมา ในคลิปจะได้ยินเสียงคนพูดว่า “เห็นไหม คน ๆ อยู่ใต้นั้น” หลังเหตุการณ์สงบ […]

รถบรรทุกพุ่งชน จยย.พ่วงข้างรับส่ง นร. ตาย 3 เจ็บ 6

พระนครศรีอยุธยา 22 ก.ค. – สลด รถบรรทุก 6 ล้อ พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 6 คน เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียนพระนครศรีอยุธยา พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน โรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ ก่อนตกลงไปในร่องน้ำ บนถนนชนบทเลียบคลองระพีพัฒน์ หมู่ 5 ตำบลวังน้อย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอัดกับรั้วบ้านจนรถพังยับ มีผู้ติดอยู่ในรถ 2 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คนออกมา แต่ผู้โดยสารเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนขับบาดเจ็บสาหัส ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง สภาพรถเสียหายยับเยิน คนบนรถ 7 คน เป็นนักเรียนโรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ 6 คน ผู้ปกครอง 1 คน บาดเจ็บทั้งหมด เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลวังน้อย และมีนักเรียน 2 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ จุดกิตติวังน้อย […]

โฆษก ทบ. เผยนานาชาติเข้าใจไทยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด

กองทัพบก 22 ก.ค.- โฆษก ทบ. เผยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด นานาชาติเข้าใจไทย ขณะผู้ช่วยทูตทหารกัมพูชานั่งนิ่งไม่โต้แย้ง – ให้กองทัพภาคที่ 2 ประเมินสถานการณ์หลังคนไทยนัดรวมตัวปราสาทตาเมือนธม ปลายเดือนนี้ พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวภายหลังการเชิญผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​- กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ ว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ส่วนใหญ่เป็นการรับฟังและมีคำถามบ้าง ถือว่าน้อย เนื่องจากทุกท่านอาจจะได้รับข่าวสารจากช่องทางอื่นมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ที่พยายามบอกกล่าวและชี้แจงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในเรื่องข้อเท็จจริง พลตรีวินธัย เปิดเผยว่า ทูตทหารของกัมพูชา ไม่ได้ชี้แจงหรือมีคำถามอะไร คำถามส่วนใหญ่มาจากท่านอื่นมากกว่า ที่ถามเรื่องของความมั่นใจและยืนยันใช่หรือไม่ ซึ่งทางเรา ก็ให้เหตุผลไป และจะให้เอกสารชี้แจง ส่วนท่าทีของประเทศมหาอำนาจ ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งการเชิญมาในวันนี้เราก็ทำตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก คือทำให้เป็นทางการ ส่วนการหารือได้ชี้แจงเรื่องของการละเมิด บูรณภาพดินแดน และเอ็มโอยู 2543 และอนุสัญญาออตตาวา ด้วยหรือไม่ พลตรีวินธัย ระบุว่า มีการพูดถึงประเด็นดังกล่าว และได้อธิบายตามหลักอนุสัญญา ที่ทั้งสองประเทศเป็นสมาชิก และเล่าถึงกลไกการแก้ไขปัญหา […]

ข่าวแนะนำ

กองทัพบกประณามกัมพูชา โจมตีเป้าหมายพลเรือนในเขตไทย

กทม. 24 ก.ค.-กองทัพบก ประณามการกระทำของฝ่ายกัมพูชา กรณีใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายพลเรือนในเขตแดนไทย กองทัพบกขอประณามการกระทำอันรุนแรงและไร้มนุษยธรรมของฝ่ายกัมพูชา จากกรณีที่มีการใช้อาวุธจรวด BM-21 จำนวน 2 นัด ยิงเข้ามาในพื้นที่ชุมชนภายในศูนย์พัฒนาพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อเวลา 09.40 น. วันนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ราษฎรได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ซึ่งฝ่ายไทยได้ดำเนินการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่โดยทันที เพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังเฝ้าติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเตรียมมาตรการรองรับอย่างรอบด้าน ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติม จะได้รายงานให้ทราบต่อไปโดยเร็วที่สุด.-313.-สำนักข่าวไทย

น่าน จมมาบาดาลเกือบทั้งเมืองแล้ว

น่าน 24 ก.ค.-น้ำท่วมตัวเมืองน่านวิกฤติหนัก หลังน้ำยังเพิ่มสูงบางจุดท่วมมิดชั้น 2 แล้ว และขยายวงกว้างออกไปในรัศมีเกือบ 10 กม. รวมทั้ง รพ.น่าน ที่ต้องย้ายผู้ป่วยไปที่สนามบิน น้ำท่วมตัวเมืองน่านเรียกว่าสาหัสสากรรจ์จริงๆ ตอนนี้เมืองน่านจมมาบาดาลเกือบทั้งเมืองแล้ว จากที่ประเมินเท่ากับน้ำท่วมใหญ่ปี 49 ซึ่งเป็นน้ำท่วมใหญ่รอบร้อยปี แต่ตอนนี้น่าจะหนักเกินแล้ว น้ำท่วมถึงชุมชนสวนตาล ซึ่งอยู่ห่างจากริมน้ำน่าน 4 กิโลเมตร แม้จะเห็นว่าระดับไม่สูง แต่ด้านในสูงถึงคอแล้ว การเข้าออกต้องใช้เรือเพียงอย่างเดียว และน้ำยังเพิ่มขึ้น ชาวบ้านยังเร่งอพยพข้าวของออกมา เขตเศรษฐกิจเมืองน่านไม่ต้องพูดถึงจมน้ำสูงกว่า 1 เมตร วัดวาอารามหลายแห่งถูกน้ำท่วม และยิ่งชุมชนใกล้น้ำน่านบ้านเรือนหลายพันหลังถูกน้ำท่วมสูง บางจุดน้ำท่วมถึงชั้น 2 ของบ้าน อย่างเจ้าของบ้านรายนี้ถ่ายภาพจากชั้น 2 ของบ้านย่านชุมชนบ้านพระเกิด ไม่ไกลจากโรงพยาบาลน่าน ส่งมาให้ทีมข่าว จะเห็นว่าน้ำท่วมสูงเกินรั้วบ้านและกำลังจะขึ้นชั้นสอง และมีชาวบ้านที่ติดอยู่ในบ้านกลางน้ำท่วมสูงอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่พยายามจะเข้าไปช่วยแต่เรือมีจำกัดและน้ำยังไหลเชี่ยว ทำให้บางจุดยังไม่สามารถเข้าไปได้ ชาวบ้านบางส่วนต้องเดินฝ่าน้ำท่วมสูงถึงคอออกมาด้านนอก เพื่อหาอาหารและน้ำดื่ม รวมทั้งโรงพยาบาลน่านที่ถูกน้ำท่วมตั้งแต่เมื่อคืน เจ้าหน้าที่เพิ่งออกมาจากโรงพยาบาลบอกว่า ตอนนี้น้ำท่วมสูงมาก ตึกอาคารเก่าน้ำท่วมถึงหน้าอก แต่ผู้ป่วยในราว 3 ร้อยคนอยู่บนตึกใหม่ตั้งแต่ชั้น 2 ปลอดภัยดี […]

เปิดแผน “จักรพงษ์ภูวนารถ” ป้องกันประเทศจากภัยคุกคาม

กทม. 24 ก.ค.-เปิดแผน “จักรพงษ์ภูวนารถ” ป้องกันประเทศจากภัยคุกคามฝ่ายตรงข้าม โฆษก ทบ. ชี้ชัดเจนแล้ว กัมพูชา เป็นฝ่ายที่บีบบังคับเรา ซัดเราคงไม่ปล่อยให้ใครเอาเปรียบ หรือลอบทำร้าย จากนี้จำเป็นต้องทำในสิ่งที่พยายามหลีกเลี่ยงมาตลอด ลั่นขณะนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้! ขอให้พี่น้องคนไทย เชื่อมั่นในศักยภาพของกองทัพไทย พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุถึงแผนจักรพงษ์ภูวนารถ ที่เราเปิดปฏิบัติการ ว่าคือ แผนป้องกันประเทศ ที่กำหนดหน้าที่ของแต่ละหน่วย และกำลังทางทหาร และให้เตรียมความพร้อม เมื่อมีคำสั่ง เป็นแผนที่ได้ถูกกลั่นกรอง โดยประเมินจากสถานการณ์ และสภาพแวดล้อมในกิจการป้องกันประเทศ ในกรอบของกองทัพบก ที่ผ่านมา ในศึกเขาพระวิหาร ที่ใช้แผนนี้ ปัจจุบันขีดความสามารถกำลังรบเราเป็นอย่างไร โฆษก ทบ. ระบุพัฒนามาตามลำดับ และพิจารณาให้เหมาะสมกับภัยคุกคาม และขีดความสามารถของฝ่ายตรงข้าม ป้องกันภัยคุกคามจากฝ่ายตรงข้าม ส่วนแผนหลักๆ เป็นการป้องกัน หรือรุกคืบ โฆษก ทบ. ระบุ อาจจะพูดไม่ได้ แต่โดยปกติ อันดับแรกต้องครอบคลุมอธิปไตยของเราก่อน ส่วนเป็นการซีลชายแดนหรือไม่ โฆษก ทบ. ระบุพูดง่ายๆ แผนนี้ […]

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย