กรุงเทพฯ 6 ก.ค. – รัฐมนตรีช่วยพาณิชย์มอบนโยบายทีมปราบปรามของเถื่อน สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์พื้นที่สีแดงต้องหมดภายในสิ้นเดือนนี้ พร้อมนำคณะตรวจพื้นที่ห้างพันธุ์ทิพย์พลาซ่า หวังโชว์ให้ต่างชาติเห็นรัฐบาลเอาจริง
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ร่วมกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภาคเอกชนเจ้าของลิขสิทธิ์ เพื่อตรวจดูการจำหน่ายสินค้าทรัพย์สินทางปัญญาที่ศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์พลาซ่า ประตูน้ำ ซึ่งเป็นเป้าหมายพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังพิเศษหรือพื้นที่สีแดง ซึ่งขณะนี้แผงลอยหรือร้านค้าที่ลักลอบจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ในพื้นที่ดังกล่าวเกือบจะหมดแล้ว โดยก่อนหน้านี้มีการแจ้งว่าพบร้านค้าที่น่าสงสัยว่าจะจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ 4 ราย เจ้าหน้าที่กรมทรัพย์สินทางปัญญาพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไปตรวจสอบ แต่ไม่พบร้านค้าดังกล่าว ทั้งนี้ ผู้บริหารศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์พลาซ่าให้ความร่วมมือและยกเลิกสัญญาเช่าร้านค้าที่ต้องสงสัยดังกล่าวแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการลักลอบจำหน่ายสินค้าละเมิด และตอนนี้ห้างพันธุ์ทิพย์ถือได้ว่าไม่มีร้านขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์อีกแล้ว
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาหน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมกันกำจัดสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และผู้ละเมิด 6 พื้นที่สีแดงเป้าหมายหลัก ประกอบด้วย ศูนย์การค้ามาบุญครอง ตลาดโรงเกลือ จังหวัดสระแก้ว ศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์พลาซ่า ประตูน้ำ คลองถม บ้านหม้อ และตลาดนัดจตุจักร เพื่อไม่ให้มีการจำหน่ายสินค้าละเมิดอีก ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถกำจัดได้หมดภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้อย่างแน่นอนและยังเฝ้าติดตามและปราบปรามพื้นที่อื่นเพิ่ม เช่น พัฒพงษ์ สุขุมวิท 3-12 ห้างไอทีซิตี้ พัทยา ป่าตอง ภูเก็ต เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม จากการปราบปรามอย่างจริงจัง ทำให้ 5 เดือนแรกปีนี้สามารถจับกุมผู้ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญารวม 3,273 คดี ยึดของกลาง 1.697 ล้านชิ้น ซึ่งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา พบว่า จำนวนคดีเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.58 แต่จำนวนของกลางลดลงร้อยละ 26.56 เพราะผู้ค้านำสินค้าละเมิดจำหน่ายน้อยลงและไม่เก็บสตอกสินค้า ขณะที่การปราบปรามของกรมทรัพย์สินทางปัญญากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชน ทำให้ 6 เดือนแรกปีนี้สามารถจับกุมและตรวจยึดได้ถึง 736 คดี ยึดของกลางได้ 959,843 ชิ้น แต่ภาครัฐยังไม่นิ่งนอนใจจะเดินหน้าตรวจสอบและลงโทษผู้ที่ลักลอบจำหน่ายสินค้าละเมิดอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยดีขึ้น และจะนำผลการปราบปราบสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาเสนอให้กับทางสหรัฐ เพื่อให้เห็นถึงความจริงจังในการปราบปรามและปลดไทยออกจากบัญชีจับตามองเป็นพิเศษ หรือ PWL ต่อไป.-สำนักข่าวไทย