กรุงเทพฯ 3 ก.ค. – จับตาประชุม กบง. 5 ก.ค.พิจารณาปล่อยลอยตัวราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) เข้าสู่แผน 2 เปิดเสรีทั้งระบบ หลังราคาตลาดโลกเดือน ก.ค.ดิ่งลงตามราคาน้ำมัน ลดฮวบ 30-40 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน เหลือ 345 ดอลลาร์ต่อตัน ปตท.-โรงกลั่นน้ำมันเตรียมเฮปลดภาระอุดหนุน
หลังจากรัฐบาลเห็นชอบแผนเปิดเสรีธุรกิจแอลพีจี เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม 2560 ตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) วันที่ 8 ธันวาคม 2559 โดยแบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านก่อนจะเปิดเสรีทั้งระบบ : ควบคุมราคาโรงกลั่นและโรงแยกก๊าซฯ แต่จะเปิดเสรีเฉพาะในส่วนการนำเข้า โดยให้ยกเลิกระบบโควตาการนำเข้าและสามารถส่งออกเนื้อก๊าซที่ผลิตในประเทศได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของกรมธุรกิจพลังงาน และระยะที่ 2 เปิดเสรีทั้งระบบ : ยกเลิกการควบคุมราคาและปริมาณของทุกแหล่งผลิตและจัดหา รวมถึงยกเลิกการประกาศราคา ณ โรงกลั่นและราคาขายส่ง ณ คลังก๊าซ ภายหลังจาก พ.ร.บ.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ… มีผลบังคับใช้
แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงานระบุว่าวันที่ 5 กรกฎาคมนี้ คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มี พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน จะพิจารณาว่าขณะนี้ควรจะพิจารณาปล่อยลอยตัวตามระยะที่ 2 หรือไม่ เนื่องจากขณะนี้ราคาแอลพีจีลดลงเหลือประมาณ 345 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน หากลอยตัวประชาชนจะไม่ได้รับผลกระทบและการยกเลิกก็ทำให้โรงกลั่นน้ำมันและโรงแยกก๊าซธรรมชาติไม่ต้องมีภาระในการเข้าอุดหนุนชดเชยราคาแต่อย่างใด ขณะเดียวกันแผนการเปิดเสรีนำเข้าแอลพีจีในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา นับว่ามีผู้นำเข้ารายใหม่นำมาแข่งขันกับ บมจ.ปตท. เช่น สยามแก๊ส มิตซูบิชิ ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค
“ราคาแอลพีจีตลาดโลกที่ลดลง กบง.คงตัดสินใจว่าจะลดราคาขายปลีกหรือไม่ จากราคาปัจจุบัน 20.49 บาท/กก. หรือจะคงราคาไว้เท่าเดิม เพื่อเตรียมพร้อมไว้รองรับการลอยตัวราคาแอลพีจี กรณีในอนาคต ราคาจะผันผวนหรือไม่ โดยบัญชีกองทุนน้ำมัน ก๊าซแอลพีจีต้นเดือนมิถุนายนอยู่ที่ 6,430 ล้านบาท และกองทุนน้ำมันฯ บัญชีแอลพีจี ยังชดเชยราคาขายปลีกอยู่ 1.5469 บาท/กิโลกรัม” รายงานข่าว ระบุ
นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ รองผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) กล่าวว่า ราคาแอลพีจี ตลาดโลกเดือนกรกฎาคมนี้ปรับลดลงจากเดือนมิถุนายนประมาณ 30 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน ซึ่งเป็นไปตามสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลง เนื่องการผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (เชลออยล์) ในสหรัฐมีกำลังการผลิตสูงขึ้น ขณะที่หลายประเทศอาหรับประกาศตัดสัมพันธ์ทางการฑูตกับการ์ตาอาจส่งผลให้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ไม่สามารถยืดระยะเวลาลดกำลังการผลิตน้ำมันต่อเนื่องออกไปได้ ส่งให้ราคาน้ำมันดิบลดลงและราคาแอลพีจี และเอ็นจีวีปรับลดลงตาม ส่วนราคาแอลพีจีขายปลีกจะลดลงหรือไม่ขึ้นกับที่ประชุม กบง. -สำนักข่าวไทย
“ตามหลักการลอยตัวแอลพีจี จะดำเนินการต่อเมื่อราคาแอลพีจีตลาดโลกต่ำมาก และผู้บริโภคจะไม่เดือนร้อน หากไม่มีเงินชดเชยจากผู้ประกอบการโรงกลั่น และโรงแยกก๊าซ ที่จ่ายผ่านกองทุน 2 ” นายประเสริฐ กล่าว
