กรมเจ้าท่าแจง พ.ร.บ.การเดินเรือฯ ไม่กระทบประชาชน

กรุงเทพฯ  2 ก.ค. – กรมเจ้าท่าแจง พ.ร.บ.การเดินเรือฉบับใหม่ ไม่กระทบชุมชนริมน้ำ-กระชังเลี้ยงสัตว์น้ำ     


ตามที่สื่อมวลชนเสนอข่าวกรณี พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2560 ส่งผลกระทบกับชาวบ้านที่อยู่ชุมชนริมน้ำ รวมถึงตลาดน้ำทั่วประเทศ กฎหมายฉบับนี้ไม่เข้าใจปัญหาหรือสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในสังคม นั้น กรมเจ้าท่าขอชี้แจงว่าเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวปรับปรุงแก้ไขเพื่อประโยชน์ในการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อให้การควบคุมการปลูกสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยกำหนดโทษรุนแรงขึ้นต่อผู้ที่ฝ่าฝืนทำการก่อสร้างก่อนได้รับอนุญาต รวมทั้งมีการกำหนดโทษเจ้าหน้าที่ที่ไม่ดำเนินการต่อสิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำ  ลำน้ำภายในกำหนดเวลา 

อย่างไรก็ตาม การมีผลใช้บังคับของ พ.ร.บ.ดังกล่าวอาจกระทบต่อวิถีชีวิตของผู้ที่อาศัยอยู่ริมลำน้ำ กรมเจ้าท่าจึงเสนอมาตรการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของผู้ได้รับผลกระทบไปยังกระทรวงคมนาคม และเมื่อวันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมา คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีมติให้ออกคำสั่งตามมาตรา 44 ลดความเดือดร้อนของผู้ได้รับผลกระทบรวม 3  ประเด็น คือ 1.ขยายระยะเวลาการแจ้งการเป็นเจ้าของหรือครอบครองสิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือได้รับอนุญาต แต่สร้างไม่เป็นตามที่ได้รับอนุญาตออกไปอีก 60 วัน เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนที่ยังไม่ได้แจ้งภายในกำหนดของ พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวสามารถแจ้งได้โดยไม่ต้องรับผิดตามโทษที่สูงขึ้น  2.ผู้ที่มาแจ้งภายในกำหนดใหม่จะไม่มีโทษย้อนหลังในเรื่องค่าปรับ  และ 3.ลดค่าตอบแทนรายปีสิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำที่ต้องจ่ายให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นลงเหลือตารางเมตรละ 5 บาท/ปี สำหรับกระชังเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำได้รับการยกเว้นไม่ต้องชำระค่าตอบแทนรายปี


ทั้งนี้ กรมเจ้าท่ามีการกำหนดมาตรการป้องกันและตรวจสอบการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ไม่ให้เจ้าหน้าที่สามารถหาประโยชน์จากการอนุญาตให้ก่อสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ ผ่านกลไกด้านกฎหมายและการออกแบบขั้นตอนการอนุญาต โดยมีการออกกฎกระทรวง ฉบับที่ 63 (พ.ศ.2537) กำหนดหลักเกณฑ์ ประเภทสิ่งปลูกสร้างที่พึงอนุญาตได้ และวิธีการในการพิจารณาอนุญาต นอกจากนี้ ยังมีคู่มือปฏิบัติงานและมีการซักซ้อมทำความเข้าใจในการปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง เพื่อจำกัดการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ผู้พิจารณา และมีการออกแบบกระบวนการพิจารณาให้มีการถ่วงดุลและ สอบทานความถูกต้อง โดยกำหนดให้เจ้าหน้าที่ผู้พิจารณาต้องเสนอความเห็นต่อผู้บังคับบัญชา ในกรณีของสิ่งล่วงล้ำลำน้ำที่มีขนาดใหญ่ อาทิ ท่าเรือ สะพานข้ามแม่น้ำ กำหนดบังคับให้ต้องผ่านการพิจารณาในรูปของคณะกรรมการหลายฝ่าย เพื่อให้มั่นใจได้ว่าในการอนุญาตมีความถูกต้องและได้มีการปฏิบัติตามที่ระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องบัญญัติไว้ครบถ้วน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้

พ่อผู้ต้องหาชนไรเดอร์ กราบขอขมาครอบครัวผู้เสียชีวิต

พ่อผู้ต้องหาชนไรเดอร์ กราบขอขมาครอบครัวผู้เสียชีวิต เปิดใจกับสื่อ ลูกชายยังอยู่ในอาการช็อก เชื่อเสียใจและอยากมาขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ จากภาคใต้ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก หารือผู้นำและภาคเอกชนชั้นนำของโลก

กทม.จำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามรถบรรทุกวิ่ง เริ่มคืนนี้!

ผู้ว่าฯ กทม. ติดตามสถานการณ์ฝุ่น กทม. คาดสุดสัปดาห์ระบายอากาศดีขึ้น พร้อมจำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามวิ่งรถบรรทุก เริ่มคืนนี้! ย้ำประชาชนช่วยสอดส่องการลอบเผา ต้นเหตุฝุ่น PM 2.5