สภาผู้ส่งออกคงเป้าส่งออกปีนี้โตร้อยละ 3.5

กรุงเทพฯ  30 มิ.ย. – สภาผู้ส่งออกคงเป้าส่งออกปีนี้โตร้อยละ 3.5 หลังส่งออก 5 เดือนแรกโตร้อยละ 7.21 เสนอรัฐเลื่อนการบังคับใช้ พ.ร.ก.แรงงานต่างด้าว และเร่งแก้ปัญหาเงินบาทแข็งค่า 


นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สภาผู้ส่งออก)  เปิดเผยว่า สถานการณ์การส่งออกเดือนพฤษภาคม 2560 มีมูลค่า 19,944 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 13.21 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน  ขณะที่การส่งออกในรูปเงินบาทเท่ากับ 680,125 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 11.2 ส่งผลให้การส่งออก 5 เดือนแรกของปี 2560 มีมูลค่า 93,265 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโตร้อยละ 7.21  

นายวิศิษฐ์ กล่าวว่า สภาผู้ส่งออกยังคงคาดการณ์การส่งออกของไทยปีนี้เติบโตร้อยละ 3.5 โดยคาดว่าจะมีมูลค่าการส่งออกเฉลี่ยในช่วง 7 เดือนหลังประมาณ 18,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน เนื่องจากทิศทางการค้าโลกและเศรษฐกิจโลกดีขึ้น ซึ่งกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดเศรษฐกิจโลกขยายตัวเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 0.1 เป็นร้อยละ 3.6 


อย่างไรก็ตาม การส่งออกของไทยมีโอกาสขยายตัวถึงร้อยละ 5  ซึ่งสภาผู้ส่งออกมีข้อเสนอแนะเพื่อผลักดันการส่งออกไทยครึ่งปีหลังให้เติบโตตามเป้าหมาย คือ การดูแลปัญหาเงินบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับคู่แข่งสำคัญ ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาเงินบาทแข็งค่าขึ้นร้อยละ 5.16 และค่อนข้างผันผวน  ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อต้นทุนและขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ส่งออก ดังนั้น ต้องสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีของไทย ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนมากขึ้น  เช่น การลดค่าธรรมเนียม การเพิ่มวงเงินสำหรับการใช้ป้องกันความเสี่ยง รวมทั้งการผลักดันให้มีการใช้เงินสกุลท้องถิ่นในการซื้อขายสินค้ากับประเทศคู่ค้าและเพื่อนบ้าน

นอกจากนี้ เสนอให้รัฐบาลเลื่อนการใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 ออกไปก่อน เพราะระยะเวลาการบังคับใช้ พ.ร.ก.กระชั้นชิด และอาจจะมีผลกระทบต่อการผลิตและการส่งออกสินค้า  ซึ่งทางคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ได้ทำหนังสือไปที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อให้ทบทวน พ.ร.ก.แรงงานต่างด้าวและเลื่อนการบังคับใช้ไปก่อนจนกว่าจะมีความพร้อมและสอดคล้องกับการปฏิบัติจริงในภาคอุตสาหกรรม เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อภาคธุรกิจ .- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี

ตัดไฟ 5 จุดชายแดนเมียนมา วันแรก กระทบชาวบ้านหลายหมื่นคน

หลังทางการไทยตัดไฟฟ้าที่เชื่อมโยงไปยังเมืองเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ส่งผลชาวบ้านแห่กักตุนน้ำมัน โรงพยาบาลเมียวดีได้รับผลกระทบในการเก็บเวชภัณฑ์ที่ต้องใช้ตู้แช่

ตร.ปัตตานีเร่งล่า 6 คนร้ายควงปืนปล้นร้านสะดวกซื้อ

อุกอาจ 6 คนร้าย พร้อมอาวุธมีด-ปืน ยกพวกปล้นร้านสะดวกซื้อใน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินไป 4,492 บาท ตำรวจเร่งไล่กล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่คนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี

นายกฯ​ ยกคณะเยือนจีน หารือความร่วมมือรอบด้าน

นายกรัฐมนตรี​ ยกคณะเยือนจีนอย่างเป็นทางการ หารือความร่วมมือรอบด้าน แก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำไทยปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี สานต่อ​รถไฟความเร็วสูง-แลนด์บริดจ์ ขณะที่เตรียมรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่​ และจะไปให้กำลังใจนักกีฬาไทยแข่งเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว