รัฐบาลเร่งสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจภายใน

กรุงเทพฯ 26 มิ.ย. – กระทรวงอุตสาหกรรมย้ำเพื่อก้าวพ้นการติดกับดักรายได้ปานกลาง รัฐบาลจึงประกาศนโยบายประเทศไทย 4.0 พร้อมขับเคลื่อนสร้างความเข้มแข็งภายในประเทศทุกภาคส่วน ตั้งแต่ชุมชน เอสเอ็มอีจนถึงภาคอุตสาหกรรม 


นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวปาถกฐาพิเศษ หัวข้อ “ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย…หัวใจอยู่ที่ชุมชน” ในวาระครบรอบ 67 ปี หนังสือพิมพ์สยามรัฐรายวัน ว่า ประเทศไทยปรับโครงสร้างเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากภาคเกษตร สู่อุตสาหกรรมเบา และก้าวสู่ยุคอุตสาหกรรมหนัก ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา โดยเป็นการก้าวสู่ยุคอุตสาหกรรม 3.0 ด้านภาคการเกษตรสู่ยุคเกษตรแปรรูป แต่การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจดังกล่าวประเทศยังมีปัญหาเชิงโครงสร้างติดกับดักรายได้ปานกลาง รวมถึงเกิดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและความเหลื่อมล้ำโอกาสทางการงาน อาชีพ และขาดความสมดุลในการพัฒนาพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก หากประเทศไทยจะก้าวหน้าต่อไปได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืนได้รัฐบาลต้องพัฒนาประเทศ จึงนำเสนอนโยบายประเทศไทย 4.0 เพราะเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องให้คนไทยทุกภาคส่วนร่วมกันปฎิรูปประเทศให้ก้าวข้ามปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างมีคุณภาพและยั่งยืน เพื่อเศรษฐกิจไทยให้ก้าวหน้ายืดหยุ่นเพียงพอที่จะรับมือกับผลกระทบต่าง ๆ ได้ และเป็นระบบกระจายโอกาสให้คนไทยสามารถสร้างสรรค์สินค้าและบริการได้ดียิ่งขึ้น ตั้งแต่ระดับชุมชน และนับเป็นการสร้างนวัตกรรมสู่สินค้าและบริการ และพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นของคนไทย ซึ่งอาจจะไม่ดีที่สุดในโลก แต่เป็นการช่วยให้คนไทยมีศักยภาพเพิ่มขึ้น ชุมชนมีศักยภาพ มีการปรับและยกศักยภาพทั้งด้านสังคม การศึกษาและด้านอื่น ๆ ไปพร้อมกัน เกิดการพัฒนาอย่างทั่วถึงต่อไป

สำหรับสิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการ คือ สร้างความเข้มแข็งจากภายในหรือ LOCAL ECONOMY ทำให้สามารถส่งออกสินค้า หรือขายภายในประเทศได้เอง ไม่ได้รับผลิตสินค้าให้ต่างประเทศเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป ซึ่งในที่สุดจะช่วยเติมเต็มศักยภาพของประเทศ ให้พร้อมเติบโตตั้งแต่ฐานรากขึ้นมา ช่วยให้ประเทศพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้


ด้านเศรษฐกิจ มีแนวทางขับเคลื่อน ได้แก่ ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ทั้งที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพและโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่ใช่โครางสร้างพื้นฐานทางกายภาพ โครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพ เช่น เส้นทางคมนาคม ถนน รถไฟ และการพัฒนาท่าเรือ เป็นต้น โครงสร้างพื้นฐานที่ไม่ใช่ทางกายภาพ เช่น โครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยี เช่น การสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงระดับหมู่บ้านทั่วประเทศ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางสังคม ที่สำคัญ คือ การพัฒนาด้านศึกษาที่จะเป็นกำลังสำคัญในการสร้างสรรค์ความคิดของคนไทยต่อไป 

ด้านภาคอุตสาหกรรม รัฐบาลกำหนดอุตสาหกรรมเป้าหมายที่จะพัฒนาต่อยอดให้สอดรับการพัฒนาของประเทศตามนโยบายประเทศไทย 4.0 ได้แก่ อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร อุตสาหกรรมรถยนต์ อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ ยานยนต์แห่งอนาคต เช่น รถไฟฟ้า (EV) อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง อุตสาหกรรมท่องเที่ยว ที่จะต่อยอดเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมของไทย เช่น รถยนต์จะมีชิ้นส่วนบางอย่างที่ไทยผลิตได้ ด้านการเกษตรพัฒนาจากเกษตรขั้นต้น สู่การแปรรูปและพัฒนาสู่การแปรรูปขั้นสูงต่อไป แต่จะต้องมีการจัดการอย่าเหมาะสม เป็นต้น 

ส่วนอุตสาหกรรมใหม่ก็มีการส่งเสริมให้เกิดขึ้นเช่นกัน เช่น อุตสาหกรรมเศรษฐกิจชีวภาพหรือไบโออีโคโนมี ที่มีวัตถุดิบในประเทศสามารถนำมาต่อยอด เช่น จากข้าว ปาล์ม มันสำปะหลัง และอ้อย โดยนำไปผลิตเป็นสินค้า อาหารผู้สูงอายุ อาหารสำหรับนักกีฬา และนักเรียน รวมถึงการผลิตบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและผลิตเครื่องสำอางค์ เป็นต้น รวมถึงอุตสาหกรรมหุ่นยนต์สำหรับใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมที่คนไทยมีศักยภาพ และรัฐบาลกำลังสนับสนุนอุตสาหกรรมเป้าหมายเหล่านี้ ผ่านกลไกกลุ่มประชารัฐที่ประกอบด้วย ตัวแทนภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชน ภาคการศึกษา เพื่อที่จะมาช่วยการสร้างและยกระดับอุตสาหกรรมเหล่านี้ พร้อมพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอี ไมโครเอสเอ็มอี กลุ่มสตาร์ทอัพ กลุ่มเหล่านี้จะเป็นพลังความคิดค้นสร้างเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพราะเป็นกลุ่มที่มีแนวความคิดใหม่  เกิดขึ้นรวดเร็วมาก ซึ่งในต่างประเทศเช่นกันขณะนี้บริษัทขนาดใหญ่หันมาขอใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่กลุ่มเหล่านี้คิดค้นขึ้นมาได้ สุดท้าย คือ พัฒนาคนไทยให้เท่าทัน มีความรู้ในเทคโนโลยี 


นายอุตตม กล่าวว่า การพัฒนาให้มีความเข้มแข็งจากภายในประเทศนั้น รัฐบาลจะเน้นการพัฒนาเชิงพื้นให้มาก เป็นการเจริญใหม่ แต่ไม่ใช่ว่าของเดิมไม่ดีทั้งหมด แต่ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจะนำซึ่งโอกาสให้พื้นที่ชุมชนสร้างความเจริญใหม่ ๆ โดยภาครัฐจะทำงานสนับสนุนให้กับชุมชนทั่วประเทศ ทั้งนี้ ไทยไม่ใช่เพียงกรุงเทพฯ หรือเมืองใหญ่เท่านั้น กิจการต่าง ๆ ก็ไม่เพียงแต่เฉพาะกิจการขนาดใหญ่เท่านั้น ยังรวมถึงผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และคนตัวเล็กที่กระจายทั่วประเทศถึงประมาณ 3 ล้านรายอีกด้วย เพื่อพัฒนายกระดับให้มีศักยภาพในการพัฒนาและสร้างสรรค์ได้อีกมาก และยังมีภาคเกษตรกรอีกนับ 10 ล้านราย ที่มีวิถีชีวิตของตัวเองจะหาทางช่วยดึงศักยภาพในการพัฒนาออกมาให้ได้มากที่สุด  ที่สำคัญยังน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงขอพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่มุ่งรักษาสมดุลการพัฒนา ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยเริ่มที่ชุมชน ความสุขของชุมชน คือ การแก้ไขปัญหาปัจจุบัน และสร้างโอกาสที่ชุมชนจะเข้าถึงโอกาสให้ได้ เหล่านี้เป็นเรื่องของการสร้างความเข็มแข็งและพัฒนาต่อยอดสู่สังคมภายนอกต่อไป 

สำหรับโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) นายกรัฐมนตรีมีนโยบายให้ทุกโครงการต้องชุมชนมีส่วนร่วม โดยต้องชัดเจนว่าสร้างแล้วชุมชนได้ประโยชน์อย่างไร โครงการนี้จะเป็นฐานการสร้างความเจริญใหม่ที่คนไทยทั่วประเทศได้ประโยชน์ร่วมกันไม่เพียงเฉพาะ 3 จังหวัด คือ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และจังหวัดระยองเท่านั้น 

ด้านกระทรวงอุตสาหกรรมได้รับผิดชอบประสานงานกับภาครัฐและเอกชน ภาคการศึกษาที่เกี่ยวข้อง ในการสนับสนุนการพัฒนายกระดับภาคอุตสาหกรรมไทยภายใต้นโยบายประเทศไทย 4.0 โดยได้รับการสนับสนุนจัดสรรงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินและจำเป็น เพื่อสร้างความเข้มแข็งภายในประเทศ โดยอยู่ในรูปกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวทางประชารัฐ วงเงิน 20,000 ล้านบาท และยังมีสินเชื่อของธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย หรือเอสเอ็มอีแบงก์ วงเงิน 15,000 ล้านบาท กองทุนพลิกฟื้นของสำนักงานพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือ สสว. วงเงิน 2,000 ล้านบาท รวมวงเงินช่วยเหลือ 37,000 ล้านบาท. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้โดยสารรถทัวร์สยอง นั่งร่วมกับศพจากโคราชถึงลำปาง

ลำปาง 17 มิ.ย. – ไม่รู้นั่งมากับศพทั้งคืน ผู้โดยสารรถทัวร์สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ ถึงขนส่งลำปาง ผวาทั้งคัน หลังรถเข้าจอดชานชาลาพบหนุ่มวัย 38 ปี เสียชีวิต ตรวจสอบเบื้องต้นพบขามีรอยช้ำ เลือดไหล แพทย์คาดเสียชีวิตจากโรคประจำตัว ช่วง 05.30 น. วานนี้ (16 มิ.ย.) ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลลำปาง เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างลำปาง รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตบนรถทัวร์โดยสาร สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ จอดอยู่บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดลำปาง เทศบาลนครลำปาง ผู้เสียชีวิตเป็นชายอายุ 38 ปี ชาว ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง นั่งมากับรถทัวร์โดยสารปรับอากาศ 2 ชั้น ผู้เสียชีวิตนั่งอยู่ชั้น 2 ฝั่งซ้ายโซนด้านหลัง ซึ่งเป็นที่นั่งเดียว ขึ้นรถต้นทางจาก จ.นครราชสีมา ปลายทาง จ.ลำปาง โดยรถเข้าจอดที่ชานชาลา เจ้าหน้าที่ของบริษัททัวร์ได้เชิญผู้โดยสารทั้งหมดลงมาจากรถ จากนั้นแพทย์เวรโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่กู้ภัย ร่วมชันสูตรศพ ทำเอาผู้โดยสารที่นั่งมาในรถคันเดียวกัน โดยเฉพาะผู้ที่นั่งด้านหน้าและหลัง ถึงกับสยอง […]

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย

ครูสาวเขียนจดหมายระบายความอัดอั้น ก่อนคิดสั้น-ศธ.สั่งสอบข้อเท็จจริง

บุรีรัมย์ 17 มิ.ย. – ครูสาวโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ เขียนจดหมายระบายความอัดอั้น “งานครูหนักและเครียดมากจนทนไม่ไหว” ก่อนตัดสินใจคิดสั้น ด้าน ศธ. สั่งสอบข้อเท็จจริง ยอมรับครูรับภาระหนัก ตำรวจพร้อมกู้ภัยได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตในบ้านหลังหนึ่ง อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ พบร่างของครูมัท วัย 39 ปี ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ โดยครูตัดสินใจลาโลกด้วยตัวเอง ข้างร่างของครูมีจดหมายลาที่เขียนถึง 5 หน้ากระดาษ หน้าซองจดหมายเขียนไว้ว่า “จดหมายส่วนตัวถึงครอบครัวของฉัน” เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยหน้าที่ 1-4 ผู้ตายเขียนถึงพี่สาวซึ่งเป็นข้าราชการครู ลูกสาววัย 10 ขวบ และพ่อแม่ ส่วนหน้าที่ 5 เขียนถึงการทำงาน ถึงสาเหตุที่ลาโลกใบนี้ เพราะไม่สบายกายและไม่สบายใจ มีปัญหาเรื่องการทำงาน การเงิน การบัญชี ซึ่งพอกพูนจนแก้ไขได้ยาก ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเพราะครูมัทเพียงคนเดียว เกิดจากกระบวนการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพภายในโรงเรียน ทำงานไม่เป็นระบบ ให้เบิกเงินก่อนเคลียร์เอกสารทีหลัง สุดท้ายนิ่งเฉย ไม่มีใครมาเคลียร์ให้ อันไหนเคลียร์เองได้ก็ดีไป แต่อันไหนเคลียร์ไม่ได้ก็ต้องมานั่งเครียดเองจนหัวจะระเบิด เป็นไมเกรนแทบทุกวัน […]

สาวโพสต์ถูกไฟดูดจากตู้กดบัตรจอดรถอัตโนมัติห้างดัง

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – สาวโพสต์ถูกไฟตู้กดบัตรจอดรถอัตโนมัติห้างดังดูดมือ ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลหลายวัน ทำงานไม่ได้ กินข้าวไม่ได้ ชีวิตพัง ห้างโยนภาระให้เดินเอกสารเบิกกับโรงพยาบาลเอง สาวโพสต์ภาพพร้อมเล่าเรื่องราวเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา กำลังขับรถเข้าลานจอดรถห้างฯ แห่งหนึ่ง แล้วลดกระจกเอามือโบกระบบเซ็นเซอร์เพื่อรับบัตรจอด ปรากฏว่าถูกไฟดูดทั้งที่มือไม่ได้แตะโดนเครื่อง เพราะระบบเซ็นเซอร์ไม่ต้องสัมผัสโดน แค่โบกหน้าเครื่อง ตนเองรู้สึกไฟดูด แขนชา จี๊ดขึ้นหัว และชาลงไปถึงขา บัตรก็ไหลออกมาจากเครื่อง แต่ไม้กั้นรถไม่เปิด คาดว่าไฟฟ้าในเครื่องน่าจะขัดข้อง และไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่บริเวณนั้นเลย จะกดปุ่ม SOS ขอความช่วยเหลือที่ตัวเครื่องก็ไม่กล้า เพราะกลัวถูกไฟดูดรอบ 2 จึงพยายามบีบแตรเรียกหลายครั้งกว่าจะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาหา พอเจ้าหน้าที่มาตนก็บอกว่าถูกไฟดูด แต่เจ้าหน้าที่มาเปิดไม้กั้นให้และไม่พูดอะไรต่อ เลยรีบเอารถเข้าไปในลานจอด จากนั้นรีบเดินไปที่จุดบริการลูกค้า เพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะตอนนั้นชาไปครึ่งตัว เจ้าหน้าที่พาไปห้องพยาบาล เอาเจลเย็นมาประคบอยู่นานก็ไม่รู้สึกดีขึ้น แขนเริ่มไม่มีแรงยก เจ้าหน้าที่เห็นอาการหนักเลยพาไปโรงพยาบาลที่มีสัญญากับห้าง หมอตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจกับตรวจเลือดแล้วค่าปกติดี หมอสั่งยาและให้กลับบ้าน ทั้งที่ยังไม่หายชา ถึงขนาดแขนไม่มีแรงแม้แต่จะเซ็นเอกสาร หมอบอกว่าคุณไม่เคยข้อศอกกระแทกโต๊ะเหรอ ชาๆ เหมือนกัน เดี๋ยวก็หายเอง ตนเองจึงตั้งคำถามว่าจะหายเองจริงเหรอ เพราะยังทำอะไรไม่ได้เลย ตอนกลางคืนลองยกแขนนิ้วยังสั่นอยู่เลย กินยาคลายกล้ามเนื้อก็ไม่มีอะไรดีขึ้น […]

ข่าวแนะนำ

ชายแดนช่องจอมลุ้นนำเข้าผัก-ผลไม้ไทยปกติ

สุรินทร์ 17 มิ.ย. – ชายแดนช่องจอม จ.สุรินทร์ ขณะนี้แม้จะยังไม่มีสัญญาณจากทางการไทยว่าจะกลับมาเปิดด่านชายแดนตามปกติ แต่บรรดาผู้ค้าตลาดชายแดนยังหวังทั้งสองฝ่ายจะไม่มีมาตการกีดกันการค้าเพิ่ม ซ้ำเติมผลกระทบที่หนักอยู่แล้วในปัจจุบัน ประตูจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ถูกปิดเป็นระยะแบบนี้ตามมาตรการกดดันกัมพูชา ครบ 1 สัปดาห์แล้ว หลังทางการไทยลดจำนวนวันและเวลาเปิดด่านเหลือเพียง 3 วันต่อสัปดาห์ คือ วันจันทร์ พุธ และศุกร์ วันละ 7 ชั่วโมง จากเดิมเปิดทุกวัน วันละ 16 ชั่วโมง ตั้งแต่ 6 โมงเช้า ถึง 4 ทุ่ม ส่งผลให้เศรษฐกิจการค้าช่องจอมได้รับผลกระทบอย่างหนัก ล่าสุดต้องลุ้นหนักขึ้นไปอีก หลังวานนี้ (16 มิ.ย.) สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ขู่ว่าจะห้ามนำเข้าผัก-ผลไม้ไทย หากไทยไม่กลับมาเปิดด่านตามปกติ ทำให้ผู้ค้าผัก-ผลไม้ในตลาดชายแดนช่องจอม วิตกอย่างหนัก อย่างแม่ค้าชาวจันทบุรีคนนี้ปักหลักค้าขายผลไม้ที่ช่องจอมมา 12 ปี การลดจำนวนวันและเวลาเปิดด่าน ยอดขายวันละ 40,000 บาท […]

ด่านคลองลึก จ.สระแก้ว ยังคึกคัก-กัมพูชาเปิดด่านปกติ

สระแก้ว 17 มิ.ย. – ด่านคลองลึก จ.สระแก้ว ยังคึกคัก ฝั่งกัมพูชาเปิดด่านปกติ ขณะที่ไทยเพิ่มความเข้มงวดอย่างยิ่งยวด ใครอยู่ฝั่งปอยเปตให้รีบกลับ ส่วนคนไทยที่จะข้ามไปกัมพูชา หากไม่จำเป็นขอให้งดการเดินทาง เริ่มตั้งแต่เวลา 06.00 น. ฝั่งไทยได้มาเปิดประตูตั้งแต่เวลา 06.00 น. ตามปกติ ตามมาตรการผ่อนคลายที่ให้นักเรียนสามารถข้ามไปมาได้ จากนั้นเวลา 08.00 น. เจ้าหน้าที่ทหารและกรมศุลกากร เปิดประตูใหญ่ให้ประชาชนสัญจรทั่วไปได้ตามเวลาที่กองกำลังบูรพากำหนดในขณะนี้คือ ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. อย่างไรก็ตาม สื่อมวลชนและทางฝั่งไทยจับตาดูฝั่งกัมพูชาว่าในเวลา 09.00 น. จะมีการเปิดด่านหรือไม่ หลังก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าฝั่งกัมพูชาอาจมีการปิดด่าน แต่เมื่อถึงเวลา 09.00 น. ปรากฏว่าด่านเปิดตามปกติและภาพที่เห็นขณะนี้คือมีประชาชนชาวกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ข้ามมาฝั่งไทย เพื่อติดต่อค้าขายและทำการค้าตามปกติ อีกส่วนหนึ่งที่มีการจับตาในวันนี้คือ หลังกองกำลังบูรพาออกคำสั่งเมื่อค่ำวานนี้ และมีผลตั้งแต่ 08.00 น. วันนี้ ในการรักษาความปลอดภัยสูงสุดของคนไทย ที่จะข้ามแดนไปยังราชอาณาจักรกัมพูชา คือเพิ่มความเข้มงวดคนไทยที่เป็นพนักงานทุกประเภทของบ่อนการพนันกาสิโนและสถานบันเทิงทุกชนิดในปอยเปต ออกนอกราชอาณาจักร ทุกจุดผ่านแดนในจังหวัดสระแก้ว พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว เปิดเผยว่า ได้รับคำสั่งจากกองกำลังบูรพาตั้งแต่ค่ำวานนี้ […]

นายกฯ เปิดทำเนียบต้อนรับ “โอปอล สุชาตา” Miss World 2025

ทำเนียบ 17 มิ.ย.- “นายกฯ แพทองธาร” เปิดทำเนียบต้อนรับ “โอปอล สุชาตา Miss World 2025″ พร้อมสานต่อโครงการฯ ให้กำลังใจนายกฯ Women to Women ขณะข้าราชการ-สื่อ แห่ถ่ายรูปคึกคัก ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ (17 มิ.ย.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับ นางสาวสุชาตา ช่วงศรี หรือ โอปอล Miss World 2025 คนที่ 72 หลังคว้ามงกุฎฟ้า มงแรกให้กับประเทศไทย พร้อมด้วยนางจูเลีย มอลีย์ ประธานองค์กรมิสเวิลด์ พร้อมด้วย แม่ปุ้ย นางปิยาภรณ์ แสนโกศิก ในฐานะประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทีพีเอ็น โกลบอล โดยมีบรรดารัฐมนตรีร่วมต้อนรับและถ่ายรูปแสดงความยินดีด้วย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยินดีสนับสนุนโครงการ Opal for her […]

ผู้โดยสารรถทัวร์สยอง นั่งร่วมกับศพจากโคราชถึงลำปาง

ลำปาง 17 มิ.ย. – ไม่รู้นั่งมากับศพทั้งคืน ผู้โดยสารรถทัวร์สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ ถึงขนส่งลำปาง ผวาทั้งคัน หลังรถเข้าจอดชานชาลาพบหนุ่มวัย 38 ปี เสียชีวิต ตรวจสอบเบื้องต้นพบขามีรอยช้ำ เลือดไหล แพทย์คาดเสียชีวิตจากโรคประจำตัว ช่วง 05.30 น. วานนี้ (16 มิ.ย.) ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลลำปาง เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างลำปาง รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตบนรถทัวร์โดยสาร สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ จอดอยู่บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดลำปาง เทศบาลนครลำปาง ผู้เสียชีวิตเป็นชายอายุ 38 ปี ชาว ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง นั่งมากับรถทัวร์โดยสารปรับอากาศ 2 ชั้น ผู้เสียชีวิตนั่งอยู่ชั้น 2 ฝั่งซ้ายโซนด้านหลัง ซึ่งเป็นที่นั่งเดียว ขึ้นรถต้นทางจาก จ.นครราชสีมา ปลายทาง จ.ลำปาง โดยรถเข้าจอดที่ชานชาลา เจ้าหน้าที่ของบริษัททัวร์ได้เชิญผู้โดยสารทั้งหมดลงมาจากรถ จากนั้นแพทย์เวรโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่กู้ภัย ร่วมชันสูตรศพ ทำเอาผู้โดยสารที่นั่งมาในรถคันเดียวกัน โดยเฉพาะผู้ที่นั่งด้านหน้าและหลัง ถึงกับสยอง […]