วายแอลจียืนยันไม่มีการหลอกซื้อขายทองคำออนไลน์

กรุงเทพฯ 21 มิ.ย. – วายแอลจียืนยัน ไม่มีการหลอกซื้อขายเทรดทองออนไลน์ ย้ำส่งข้อมูลให้ดีเอสไอตรวจสอบตามกระบวนการยุติธรรม


นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วาย แอล จี บูลเลี่ยนอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด  กล่าวถึงกรณีที่มีนักลงทุนร้องเรียนต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ อ้างว่า บริษัท วายแอลจี หลอกลงทุนซื้อขายเทรดทองคำออนไลน์ มีมูลค่าความเสียหาย 2,000 ล้านบาท   ว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง ส่งผลกระทบทางธุรกิจและภาพลักษณ์ของบริษัท ทางบริษัทได้เข้าไปชี้แจงและได้ส่งข้อมูลให้ดีเอสไอเป็นที่เรียบร้อยแล้วในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ซึ่งดีเอสไอมีความเข้าใจเป็นอย่างดีว่าบริษัทวายแอลจี  ดำเนินการ ซื้อขายทองคำตามปกติ และดีเอสไอได้ถอนคดีดังกล่าวออกจากการเป็นคดีพิเศษและได้ยกเลิกการระงับบัญชีธนาคารของบริษัทแล้ว แต่ยอมรับว่าในช่วงสองวันที่ผ่านมา บริษัทได้รับความเสียหาย จากการถูกระงับบัญชีธนาคาร เพราะบริษัทมีเงินหมุนเวียนเข้า-ออกวันละกว่า 1,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามบริษัทมีความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม

นางพวรรณ์ กล่าวว่าลูกค้ากลุ่มที่ออกมาร้องเรียนที่มีประมาณ 10 กว่าราย ไม่ใช่ 2,000 รายตามที่กล่าวอ้าง โดยเป็นลูกค้าที่มีการฟ้องร้องกับบริษัทมาตั้งแต่ปี 2556 เนื่องจากลูกค้ากลุ่มนี้ที่ไม่ยอมรับผลขาดทุนจากราคาทองที่ตกลงอย่างมากเมื่อเดือนเมษายน ปี 2556 และผิดนัดชำระหนี้ ทำให้บริษัทเสียหาย 200 ล้านบาท ซึ่งบริษัทได้ทำการฟ้องร้องลูกค้ากลุ่มนี้ไปแล้ว รวมทั้งเรียกค่าเสียหายจากการไม่ชำระราคา ซึ่งคดีส่วนใหญ่ศาลได้พิจารณาพิพากษาให้บริษัทชนะคดี และมีการบังคับคดีบางส่วนแล้ว ยกเว้นบางคดีศาลพิพากษายกฟ้องเนื่องจากขาดพยานหลักฐานบางส่วนและคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา โดยการวินิจฉัยคดีทั้งหมดของศาล ศาลได้พิจารณาแล้วว่าธุรกรรมการซื้อขายของบริษัทเป็นการซื้อขายแบบปกติและชอบด้วยกฎหมาย ไม่ใช่การซื้อขายทองคำล่วงหน้า ไม่ใช่เป็นเรื่องของแชร์ลูกโซ่ และไม่ใช่เป็นการหลอกลวง หรือฉ้อโกงลูกค้าแต่อย่างใด  


นางพวรรณ์ย้ำว่า ปัจจุบันมีลูกค้าอยู่ประมาณ 2,000 คน ซึ่งยังคงเชื่อมั่นในการเปิดบัญชีซื้อขายทองคำกับบริษัท เพราะการดำเนินการซื้อขายทองคำแท่งระหว่างลูกค้าและบริษัท จะมีขั้นตอนการปฏิบัติงานอย่างเป็นระบบ เพื่อป้องกันข้อผิดพลาด ทั้งการยืนยันจากโทรศัพท์ การบันทึกเทปการสนทนา การยืนยันคำสั่งซื้อขายระหว่างเจ้าหน้าที่และลูกค้า ตลอดจนต้องได้รับความยินยอมในการตัดเงิน หรือการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารที่มีหลักฐานสามารถพิสูจน์ได้ทุกขั้นตอน และยืนยันว่าทุกขั้นตอนมีความโปร่งใส ซึ่งปัจจุบันมีทองเข้า-ออกบริษัท 500 กิโลกรัม -1 ตันต่อวัน

” วายแอลจี ขอยืนยันว่า ราคาทองคำถูกกำหนดตามราคาตลาดโลก ไม่มีใครสามารถการันตี หรือรับประกันกำไรจากราคาทองคำได้ เมื่อนักลงทุนกำไรก็ไม่เคยร้องเรียน แต่พอขาดทุนก็จะมีกลุ่มนักลงทุนที่ไม่ยอมรับผลขาดทุนมาร้องเรียน ทางวายแอลจี ยืนยันว่า บริษัทดำเนินธุรกิจอย่างมืออาชีพ และมีชื่อเสียงมานานถึง 14 ปีแล้ว ” นางพวรรณ์.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ลุยรื้อถอนต่อเนื่องเข้าวันที่ 24 จนท.ทำงานหนักตลอด 24 ชม.

เดินหน้ารื้อถอนอาคาร สตง. เข้าสู่วันที่ 24 แล้ว เจ้าหน้าที่ทำงานตลอด 24 ชม. เพื่อให้เสร็จตามแผน ขณะที่ภารกิจค้นหาผู้ติดค้างยังคงดำเนินต่อเนื่อง

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว