ชาติไทยพัฒนา 21 มิ.ย.- แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา ค้าน ระบบไพรมารี่ โหวต ชี้ ทำให้ระบบการเมืองและการเลือกตั้งล้มเหลว ระบุ หากเกิดปัญหารุนแรง ใครจะรับผิดชอบ
นายนิกร จำนง สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา แสดงความไม่เห็นด้วยกับการใช้ระบบไพรมารี่ โหวตในการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ทั้งแบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อ เพราะไม่เหมาะกับประเทศไทย ซึ่งแตกต่างจากสหรัฐฯ ที่มีองค์ประกอบของการเมืองเป็นระบบ 2 พรรคอย่างชัดเจน และยังเป็นสหพันธรัฐที่มีองค์ประกอบหลายๆ รัฐ จึงมีต้องใช้หลักการอิเล็กทอรัลโหวต หรือ ไพรมารี่ โหวต เพื่อประคองความต่างของแต่ละรัฐ
“ไทยเป็นรัฐเดียว ระบบนี้จึงไม่ตอบสนองต่อพื้นที่ ลักษณะของประเทศ โครงสร้างทางการเมือง และวิธีการเลือกตั้งของไทย หากนำมาใช้ ปัญหาจะเกิดขึ้น หากพิจารณาแค่จุดเล็กจุดเดียวว่า มีการเสนอชื่อในพื้นที่แล้วก็เลือกผู้สมัคร ก็จะดูเหมือนว่าเป็นหลักการที่ดี แต่ในความเป็นจริงต้องดูองค์ประกอบต่างๆ ก่อนที่จะเดินมาถึงจุดนี้ด้วย” นายนิกร กล่าว
นายนิกร กล่าวว่า ไพรมารี่ โหวตเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ ขณะนี้ทุกอย่างเป็นเรื่องใหม่ พรรคการเมืองก็ต้องทำใหม่ ทั้งเรื่องสมาชิกพรรค นโยบายพรรค คณะกรรมการบริหารพรรค พรรคการเมืองขนาดเล็ก ที่ยังไม่มีอะไรเลย ก็จะยืนไม่ได้ พรรคขนาดกลางก็ยากลำบาก เหลือแต่พรรคขนาดใหญ่ ที่ต้องมีความพร้อมเท่านั้น เป็นการผลักพรรคการเมืองไปหานายทุน เพราะต้องการใช้เงิน เพื่อจะมีสาขาพรรคขึ้นมา การเมืองจะเข้าสู่ระบบ Money Politics ทั้งที่การเมืองควรจะเรียนรู้และเติบโตไปตามระบบ
“เหมือนเรากำลังฉีดฮอร์โมนเข้าระบบการเมือง เหมือนเป็นการเร่ง การเมือง อยากปฏิรูปเร็วๆ และแรงๆ การเมืองจะได้รับผลทั้งระบบ และสุดท้ายมันจะไปไม่ได้ พอไปไม่ได้ ประชาชนก็คาดหวังไม่ได้ เมื่อการเมืองไปไม่ได้ ก็กลับสู่ระบบเดิม มีการยึดอำนาจ มันมีเรื่องเกี่ยวเนื่องเยอะ ไม่ใช่มองเพียงจุดเดียว คำถามคือ ใครจะรับผิดชอบ ผมเข้าใจความความปรารถนาดีของ สนช.แต่ต้องมองอย่างรอบด้าน ไม่เช่นนั้น จะเป็นการสร้างบาปบริสุทธิ์ ระบบการเมืองและการเลือกตั้งจะล้ม” นายนิกร กล่าว
นายนิกร กล่าวว่า วิธีการที่เหมาะสม คือ วิธีการที่กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เขียนไว้ ส่วนตัวเชื่อว่า หากเดินหน้าใช้ระบบดังกล่าวจริง ปัญหาระหว่างพรรคคงมีไม่มาก เพราะพรรคต่างๆ จะร่วมมือหาทางเดินหน้าไปให้ได้มากกว่า แต่ที่จะเกิดปัญหาคือ เรื่องภายในพรรคการเมืองนั้น และเกิดปัญหาในระบบการเลือกตั้งอย่างรุนแรง สุดท้ายการเลือกตั้งที่เราคาดหวัง จะล้มเหลวทั้งหมด และก็ไม่สามารถรู้ได้ว่า ในวันเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร รู้แต่ว่าจะเกิดปัญหาตามมามาก .- สำนักข่าวไทย