สำนักข่าวไทย18 มิ.ย.-นักโภชนาการ ยอมรับวิธีสังเกตน้ำผึ้งแท้-ปลอม ทำได้ยาก เหตุเลียนแบบเหมือนมาก ทดสอบต่อหน้าผู้ขายก็ยาก แนะควรซื้อจากแหล่งผลิตน่าเชื่อถือมีเครื่องหมายรับรอง ส่วนวิธีทดสอบน้ำผึ้งแท้ ให้นำไปหยดบนแผ่นทิชชู-ใส่แก้วน้ำเย็น หากเกาะตัวเป็นก้อนไม่ละลายของแท้ แต่ถ้าละลายปลอม พร้อมแนะการทานน้ำผึ้ง ไม่ควรเกิน 2 ช้อนชาต่อวัน มากเกินไปจะทำให้อ้วน
นายสง่า ดามาพงษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการและที่ปรึกษากรมอนามัย กล่าวถึงกรณีที่ตำรวจทหารสามารถจับแหล่งผลิตน้ำผึ้งปลอม ผสมแบะแซและน้ำตาลทรายที่จ.ลำพูน ทำหลอกขายชาวบ้านในหลายพื้นที่ภาคเหนือ ว่า การซื้อน้ำผึ้งเพื่อมาบริโภคในชีวิตประจำวัน ไม่สามารถรู้ได้ว่า น้ำผึ้งที่วางขายอยู่ โดยเฉพาะริมทางหรือตามถนน เป็นน้ำผึ้งแท้ หรือน้ำผึ้งปลอม เนื่องจากไม่สามารถไปทดสอบต่อหน้าคนขายได้ ดังนั้น หากต้องการบริโภคน้ำผึ้งให้ถูกหลักและบริโภคอย่างปลอดภัย ไม่ปลอมและเป็นน้ำผึ้งแท้ แนะนำให้ซื้อจากแหล่งที่มั่นใจ เป็นร้านค้า มีเครื่องหมาย มียี่ห้อ มีเครื่องหมาย อย.รับรองอยู่
‘ตัดสินใจจะซื้อน้ำผึ้งมาบริโภคที่บ้านนั้น สิ่งแรกเลย ถ้าซื้อน้ำผึ้งตามริมถนน อยู่ในป่า แล้วไม่มีเครื่องหมายใดรองรับ และเขียนว่าเป็นน้ำผึ้งแท้และชาวบ้านมาขายเองนั้น เราบอกไม่ได้เลยว่า เป็นปลอมหรือแท้ เพราะสีไม่ต่างกันเลย ต่างกันน้อยมาก ดมก็ยังมีหัวน้ำผึ้งอยู่เพราะทำเลียนแบบได้เนียนมาก แต่สิ่งสำคัญที่สุด แนะนำให้ซื้อจากแหล่งที่เราค่อนข้างมั่นใจ ร้าน หรือเครื่องหมาย หรือเป็นยี่ห้อที่เรามั่นใจได้ และมีเครื่องหมาย อย.รับรองอยู่ มั่นใจว่าเราได้น้ำผึ้งแท้แน่นอน’ นักโภชนาการ กล่าว
ส่วนวิธีทดสอบน้ำผึ้งแท้หรือปลอม มีหลายวิธี เช่นนำน้ำผึ้งหยดลงบนกระดาษทิชชู่ ถ้ายังเกาะตัวเป็นก้อนไม่ขยายวง และละลายออกเป็นแผ่นกว้างเป็นน้ำผึ้งแท้ แต่ถ้าหยดลงไปไม่ถึงนาทีแผ่เป็นวงกว้างเป็นน้ำผึ้งปลอมเพราะมีส่วนผสมของน้ำและน้ำตาล อีกวิธีที่นิยมใช้ คือหยดน้ำผึ้งลงไปในน้ำเย็นใส่ในแก้ว ถ้ายังเกาะเป็นก้อน สักพักลอยตัวมาบนผิวน้ำ แสดงว่าเป็นของแท้ แต่ถ้าหยดไปแล้วละลายทันทีเพราะเปอร์เซนต์น้ำสูง ไม่เกาะตัวกัน เป็นของปลอม หรือวิธี เอาหัวไม้ขีดไปจุ่มน้ำผึ้ง แช่ไว้สักครู่ แล้วเอามาจุด ถ้าไม้ขีดจุดติดเป็นน้ำผึ้งแท้ แต่ถ้าปลอมจุดไม่ติดแน่นอน
นักโภชนาการ ยังกล่าวถึงการทานน้ำผึ้งด้วย ว่า ยังมีความเข้าใจผิดว่า น้ำผึ้ง คือความหวานที่กินเข้าไปแล้วไม่ทำให้อ้วนเหมือนน้ำตาลหรือเข้าใจว่าน้ำผึ้งเป็นแหล่งอาหารที่มีสมุนไพร มีคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก กินเข้าไปแล้วเป็นยาโด๊บ แต่ในทางวิทยาศาสตร์ น้ำผึ้งคือน้ำตาลชนิดหนึ่ง ที่ตัวแม่ผึ้งไปเอามาจากเกสรดอกไม้และเกสรมีน้ำตาลหลากหลายประเภทตุนอยู่ น้ำตาลพวกนี้ กินเข้าไป ร่างกายสามารถย่อยและดูดซึมและเอาไปใช้ประโยชน์ให้พลังงาน มีสารอาหารวิตามินแร่ธาตุเกิดประโยชน์ในระดับหนึ่ง แต่ไม่ได้หมายความว่ากินน้ำผึ้งแล้วสุขภาพจะแข็งแรง เป็นยาอายุ วัฒนะร้อยปี ซึ่งตรงนี้ยังไม่มีงานวิจัยรับรอง แต่ถ้ากินปริมาณเยอะ จนน้ำตาลเกินวันละ 6 ช้อนชา น้ำผึ้งที่มีน้ำตาลผสมอยู่จะเปลี่ยนน้ำมันและเก็บในรูปไขมัน ทำให้อ้วนได้ คำแนะนำ คือกินวันละ ไม่เกิน 2 ช้อนชามีประโยชน์ไม่ทำให้อ้วน .-สำนักข่าวไทย