นนทบุรี 18 มิ.ย. – พาณิชย์เดินหน้าสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานรากภาคใต้ฝั่งอันดามัน ชูตลาดต้องชม หวังสร้างรายได้ให้ชุมชนและเชื่อมโยงการค้ากับการท่องเที่ยวเข้าด้วยกัน
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้มอบหมายให้พาณิชย์ภาคและพาณิชย์จังหวัดขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก โดยสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจท้องถิ่นเชื่อมโยงการผลิต การตลาด การท่องเที่ยว เพื่อให้เกษตรกร ผู้ผลิตสินค้า ผลิตภัณฑ์ชุมชนที่มีจำหน่ายสินค้า เป็นการเพิ่มช่องทางการค้า และขยายโอกาสด้านการท่องเที่ยวให้มีความหลากหลายมากขึ้น ทำให้ประชาชนในพื้นที่มีรายได้เพิ่มขึ้น
สำหรับกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ประกอบด้วย ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ และตรัง มีวัฒนธรรมที่โดดเด่น มีทรัพยากรธรรมชาติด้านการท่องเที่ยว ทั้งทางบกและทางทะเล มีพืชเศรษฐกิจที่สำคัญทั้งยางพารา ปาล์มน้ำมัน กาแฟ รวมทั้งการทำประมง โดยที่ประชากรมีทั้งประกอบอาชีพด้านการผลิต และการแปรรูปสินค้าเกษตร การประมง ธุรกิจด้านการท่องเที่ยวและธุรกิจบริการต่อเนื่อง ได้แก่ โรงแรม ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ธุรกิจบริการด้านสุขภาพ การให้บริการด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ ธุรกิจบันเทิง และกีฬา เป็นต้น ส่งผลให้รายได้เฉลี่ยของประชากรในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ด้านอันดามัน จึงมีความแตกต่างกันค่อนข้างมาก คือ อยู่ระหว่าง 67,000-134,000 บาท/คน/ปี จึงจำเป็นต้องพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเข้มแข็ง เกษตรกร ผู้ประกอบการ ประชาชนในพื้นที่มีรายได้เพิ่มขึ้น นักท่องเที่ยว มีแหล่งท่องเที่ยวชมวัฒนธรรมท้องถิ่นและจับจ่ายใช้สอย เลือกซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค รวมทั้งบริการด้านต่าง ๆ เกิดการหมุนเวียนของเศรษฐกิจในพื้นที่
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จึงจัดให้มีตลาดต้องชมและตลาดเฉพาะสินค้าขึ้นในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ตลาดเทศบาลตำบลหงาว อำเภอเมือง จังหวัดระนอง ตลาดนัดบางเนียง อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ตลาดนัดวัดเทพ อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ตลาดหนองทะเล อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ ถนนคนเดินกระบี่ อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ ตลาดนาปด อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง ถนนคนเดินกันตัง อำเภอกันตัง จังหวัดสตูล
“ตลาดต้องชมเป็นแหล่งวัฒนธรรมและเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นที่แตกต่างกันเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนในท้องถิ่นได้มีสถานที่จำหน่ายทั้งผลผลิตทางการเกษตร ผลิตภัณฑ์ชุมชน อาหารที่มีชื่อเสียงของท้องถิ่น นักท่องเที่ยวและผู้บริโภคได้สัมผัส บรรยากาศเฉพาะถิ่น เป็นการสร้างงานสร้างรายได้ให้กับชุมชนอีกทางหนึ่ง” นางอภิรดี กล่าว.-สำนักข่าวไทย