สนช.ผ่านกม.ลูกพรรคการเมืองวาระ 3


 รัฐสภา 15 มิ.ย.-ที่ประชุมสนช.เห็นชอบร่างพ.ร.บ.ประกอบรธน.ว่าด้วยพรรคการเมือง วาระ 3เพิ่มเลขาธิการพรรคเป็นกก.บริหารพรรค กำหนดให้พรรคจ่ายเงินทุนประเดิมจัดตั้งพรรคไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท วิธีคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส.ยึดหลักการมีส่วนร่วมของสมาชิก

  การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วันนี้ (15 มิ.ย.) มีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสนช.คนที่หนึ่งเป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ที่คณะกรรมาธิการฯ (กมธ.)พิจารณาเสร็จแล้ว มี 142 มาตรา


 พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ประธานคณะกรรมาธิการฯ กล่าวว่า ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฉบับนี้ มุ่งหวังให้พรรคการเมืองเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง จึงเพิ่มเนื้อหาเรื่องการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ และเพิ่มมาตรการส่งเสริมให้พรรคการเมืองมีโครงสร้างที่เข้มแข็งถาวร สามารถดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้อย่างเข้มแข็ง ด้วยการนำสาขาพรรคการเมืองมาเป็นเงือนไขในการจัดกองทุนพัฒนาการเมือง

 “สำหรับประเด็นเรื่องทุนประเดิมพรรคเป็นเรื่องจำเป็น เพื่อมีส่วนร่วมในการตั้งพรรคการเมือง และป้องกันนายทุนเข้ามาครอบงำพรรค จึงกำหนดไว้ว่าพรรคการเมืองที่จะส่งผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง จะต้องมีทุนประเดิมไม่น้อยกว่าค่าใช้จ่ายในการลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งครั้งนี้ 1.5 ล้านบาท มีผู้ร่วมก่อตั้ง 500 คน วงเงินตั้งแต่ 1,000-50,000 บาท เพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมมาก เพราะการกำหนดเพดานเงินขั้นสูง ส่วนเงินค่าสมาชิกพรรคการเมือง ตามร่างกำหนดให้จัดเก็บคนละ 100 บาทต่อปี แต่ในปีแรกก่อนเลือกตั้งนี้ อนุโลมลดให้เหลือ 50 บาท ซึ่งทางกมธ.เห็นว่าไม่เป็นอุปสรรคขวางกั้นการเข้ามาร่วมกิจกรรมทางการเมือง จึงเห็นด้วย แต่ต้องมีมาตรการอำนวยความสะดวกการจัดเก็บค่าบำรุง ซึ่งกมธ.เชิญผู้แทนธนาคารแห่งประเทศไทยและธนาคารรัฐมาหารือ จึงเพิ่มวรรคท้ายให้อำนวยความสะดวกในการจัดเก็บค่าสมาชิกผ่านธนาคารของรัฐได้” พล.อ.

สมเจตน์ กล่าว


พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า มาตรา 9 เรื่องทุนประเดิมพรรคการเมือง ได้มีการถกเถียงกันค่อนข้างมาก โดยกรรมาธิการเสียงข้างน้อยเสนอให้ปรับแก้กลับไปใช้ทุนประเดิมที่ 1 ล้านบาท ไม่ใช่ปรับเปลี่ยนตามค่าใช้จ่ายของผู้สมัครส.ส.ตามที่คณะกรรมาธิการฯแก้  และให้ลงเงินได้คนละ 1,000 บาท แต่ไม่เกิน 50,000 บาท ซึ่งที่ประชุมก็มีมติเห็นชอบตามกรรมาธิการฯ เสียงข้างน้อยในวาระที่ 2 ด้วยคะแนน 109 ต่อ 95 เสียง งดออกเสียง 11 เสียง

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมสนช.มีมติเห็นชอบการปรับแก้ของกรรมาธิการในมาตราอื่น ๆ ทุกมาตรา อาทิ การห้ามกรรมการบริหารพรรคยินยอมให้บุคคลภายนอกที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเข้าควบคุม ครอบงำ ชี้นำการดำเนินกิจการของพรรค หากฝ่าฝืนจะมีโทษทั้งปรับและจำคุก รวมถึงเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ขณะเดียวกันยังเห็นชอบปรับแก้วิธีการคัดเลือกผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบแบ่งเขต ที่ยึดหลักว่าสมาชิกพรรคจะมีส่วนร่วมในการเสนอชื่อผู้สมัคร โดยจะกำหนดให้ประกาศรับสมัครผู้มีคุณสมบัติ แล้วจะส่งรายชื่อไปยังสาขาพรรคหรือตัวแทนจังหวัด เพื่อให้สมาชิกคัดเลือกจนได้ชื่อ 2 ลำดับแรกในแต่ละเขต ก่อนส่งให้คณะกรรมการสรรหา

จากนั้นคณะกรรมการสรรหาจะส่งให้คณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณา ซึ่งหากคณะกรรมการบริหารพรรคไม่ได้เลือกชื่อลำดับแรกต้องชี้แจงเหตุผล แต่หากคณะกรรมการบริหารพรรคไม่เลือกทั้ง 2 ลำดับจะต้องกลับไปเริ่มกระบวนการใหม่ตั้งแต่ต้น เช่นเดียวกับการเลือก ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อที่จะประกาศรับสมัครสมาชิกที่มีคุณสมบัติ จากนั้นคณะกรรมการสรรหาจะต้องจัดทำรายชื่อ 150 คน โดยชื่อแรกจะต้องเป็นหัวหน้าพรรคเท่านั้น แล้วพรรคจะต้องส่งชื่อทั้ง 150 คน ให้สาขาพรรคและตัวแทนจังหวัดคัดเลือกด้วยวิธีการลงคะแนน โดยสมาชิก 1 คน สามารถลงคะแนนให้ได้ 15 รายชื่อ เมื่อสมาชิกได้ลงคะแนนแล้ว จะส่งกลับมาให้คณะกรรมการสรรหาจัดลำดับชื่อตามคะแนนที่ได้รับจากสมาชิก

 ทั้งนี้ กรณีที่ผู้สมัครคนใดได้รับคะแนนเท่ากัน ให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการบริหารพรรคในการพิจารณา ซึ่งวิธีดังกล่าวจะแก้ปัญหาเรื่องนายทุนส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ได้ นอกจากนี้ที่ประชุมเห็นชอบการปรับสัดส่วนของกรรมการบริหารพรรค โดยเพิ่มให้มีเลขาธิการพรรค เป็นกรรมการบริหารพรรคด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ประชุมสนช.ใช้เวลาพิจารณากว่า 6 ชั่วโมง จึงมีมติเอกฉันท์เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองวาระ 3 ด้วยคะแนน 180 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 1 เสียง

 สำหรับขั้นตอนต่อไป ประธานสนช.จะส่งร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ ให้กรธ. กรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) และศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาว่าตรงตามเจตนารมณ์หรือไม่ ซึ่งกกต.และกรธ.จะต้องมีความเห็นกลับมายังสนช. ภายใน 10 วัน หากไม่มีองค์กรใดโต้แย้ง  สนช.จะส่งร่างกฎหมายให้นายกรัฐมนตรี เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ บังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป แต่หากองค์กรใดโต้แย้ง จะต้องตั้งคณะกรรมาธิการร่วมชุดหนึ่งจำนวน 11 คน โดยมีสัดส่วนจากประธาน กกต. 1 คน สนช. และกรธ. ฝ่ายละ 5 คนเพื่อพิจารณาใหม่ให้แล้วเสร็จภายใน 15 วันก่อนส่งให้ สนช.พิจารณาอีกครั้ง หากสนช.มีมติเสียงไม่เห็นชอบเกิน 2 ใน 3 จะถือว่าร่างกฎหมายฉบับนี้เป็นอันตกไป และจะต้องเริ่มกระบวนการยกร่างใหม่.-สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]

บ้านดอนตัน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังจมน้ำ

น่าน 18 ก.ค. – “บ้านดอนตัน” จ.น่าน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังคงจมน้ำ น้ำใจหลั่งไหลเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งเยาวชนฝีพายเรือแข่งอำเภอท่าวังผา ขนน้ำดื่มลงเรือแจกจ่ายช่วยชาวบ้าน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.น่าน ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะที่บ้านดอนตัน หมู่ 4 ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา ชาวบ้านกว่าร้อยหลังคาเรือนยังอาศัยอยู่ท่ามกลางน้ำท่วมขัง ระดับน้ำในพื้นที่สูงกว่า 1 เมตร ประชาชนต้องย้ายสิ่งของขึ้นชั้น 2 เพื่อความปลอดภัย ส่วนผู้อาศัยอยู่ในบ้านชั้นเดียว ต้องอพยพไปพักอยู่กับญาติในพื้นที่ใกล้เคียง หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนและจิตอาสา ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยจัดส่งอาหาร น้ำดื่มและสิ่งของจำเป็น โดยเฉพาะเยาวชนฝีพายเรือแข่งจากบ้านสบหนอง อำเภอท่าวังผา นำเรือออกให้ความช่วยเหลือในการขนส่งน้ำดื่มและอาหารไปยังบ้านที่ถูกน้ำล้อม เพื่อส่งต่อถึงผู้ประสบภัยที่ยังติดอยู่ในบ้าน ผู้ใหญ่บ้านดอนตัน เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มทรงตัวและ มีแนวโน้มลดลง แต่บริเวณท้ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและอยู่ติดแม่น้ำยังคงมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะในพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งไร่ข้าวโพดและลำไย รวมกว่า 2,000 ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ขณะที่หมู่บ้านใกล้เคียงในพื้นที่ ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา ได้แก่ […]