กลับประเทศแล้ว! หญิงไทย 10 คนถูกหลอกไปทำงานนวดแผนโบราณที่จีน

สนามบินสุวรรณภูมิ 15 มิ.ย. – หญิงไทย 10 คน ที่ถูกหลอกไปทำงานนวดแผนโบราณ ที่จีนกลับถึงไทยแล้วกลางดึก 


เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. วานนี้ (14 มิ.ย.) หญิงไทย 10 คน จากจังหวัดต่าง ๆ ทั้งภาคเหนือ และอีสาน ที่ถูกหลอกไปทำงานนวดแผนโบราณในประเทศจีน เดินทางกลับถึงประเทศไทยแล้ว โดยเที่ยวบิน ทีจี 615 เมื่อเวลา 21.15 น. หลังได้ร้องขอความช่วยเหลือมายังรัฐบาลไทยให้ช่วยเหลือ เนื่องจากถูกหลอกไปทำงานนวดแผนโบราณที่ประเทศจีน โดยเสียค่าใช้จ่ายให้กับนายหน้าคนไทยและคนจีน รวมค่าประกันสัญญา 60,000 บาทต่อคน แต่กลับถูกบริษัทลอยแพ และเบี้ยวค่าจ้าง ต้องอยู่อย่างหวาดกลัว

หนึ่งในผู้เสียหายชาวลำปาง เล่าว่า เพื่อนชักชวนให้ไปทำงานนวดแผนโบราณที่เมืองเทียนจิน ได้ค่าจ้างเดือนละ 6,000 หยวน โดยอ้างว่านายจ้างจะดำเนินการทำใบอนุญาตทำงาน หรือ work permit ให้ จึงหลงเชื่อ เพราะเห็นว่าเป็นคนไทยด้วยกัน แต่เมื่อไปเริ่มงานเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว นายจ้างได้ยึดหนังสือเดินทางไว้ และบ่ายเบี่ยงตลอดเมื่อขอคืน อ้างว่านำไปทำเรื่องขอใบอนุญาตทำงานให้ จนกระทั่งปลายเดือนที่แล้ว ได้คืนแล้ว และบอกเลิกจ้าง จึงรู้ว่าถูกหลอก ต้องอยู่อย่างหวาดกลัว เพราะวีซ่าหมดอายุ จึงติดต่อญาติให้ประสานกระทรวงต่างประเทศช่วยเหลือ


ด้านนายโอวาท ทองบ่อมะกรูด ผู้อำนวยการกองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน กรมการจัดหางาน เตือนคนไทยหากต้องการไปทำงานที่ต่างประเทศ ต้องไปอย่างถูกกฎหมาย 5 วิธี เช่น กรมการจัดหางานจัดส่งไป หรือไปกับบริษัทที่ขึ้นทะเบียนกับกรมการจัดหางาน เพราะจะได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย และควรตรวจสอบตำแหน่งงาน บริษัทจัดหางานหรือบริษัทที่รับสมัครงานโดยตรงกับสำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด หรือสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือโทรสายด่วน กรมการจัดหางาน 1694 ซึ่งในปีนี้มีแรงงานไทยได้รับอนุญาตให้ไปทำงานในประเทศจีน 158 คน ส่วนใหญ่ไปทำงานเป็นช่างคุมเตาหลอมแก้วเตาเผาเครื่องดินเผา รวมทั้ง วิศวกร ในจำนวนนี้มีพนักงานนวดแผนโบราณเพียง 5 คน 

อย่างไร กรมการจัดหางานเตรียมเชิญบริษัทที่เกี่ยวข้องหารือเพื่อแก้ปัญหาคนไทยลักลอบไปทำงานที่ต่างประเทศโดยผิดกฎหมาย โดยเฉพาะไปประเทศเกาหลีและไต้หวัน 

หลังจากนั้นตำรวจปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (ปคม.) ได้นำตัวแรงงาน ทั้ง 10 คน ไปสอบสวนร่วมกับสหวิชาชีพ เพื่อขยายผลว่าทั้งหมดเข้าข่ายการตกเป็นผู้เสียหายจากการถูกหลอกไปค้ามนุษย์หรือไม่ รวมทั้งจะเร่งติดตามดำเนินคดีกับนายหน้าคนไทยและคนจีนมาดำเนินคดี. – สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย

ผบช.สตม. ลั่น ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย เพิกถอนใบอนุญาต ผลักดันออกนอกประเทศทันที

ตรวจสอบ The Park เขาหลัก งบก่อสร้าง 140 ล้าน คุ้มค่าหรือไม่?

สำนักข่าวไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านให้ช่วยเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างโครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา หรือ The Park เขาหลัก ริมหาดบางเนียง หลังมีข้อมูลว่าเป็นโครงการที่ก่อสร้างด้วยงบกว่าร้อยล้านบาท แต่ปัจจุบันกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ และถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพรกร้าง

ลูกสาวสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ดับคากระท่อม

ลูกสาวเปิดปากสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ปี เสียชีวิตในกระท่อม ข้างลานรับซื้อข้าวเปลือก ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

ข่าวแนะนำ

ตัดไฟเมียนมา

ตัดแขนขาเมียนมา ราคาน้ำมันพุ่ง-จำกัดการซื้อ

เข้าสู่วันที่ 3 สำหรับการตัดไฟฟ้า สัญญาณอินเทอร์เน็ต และระงับการส่งน้ำมัน จากฝั่งแม่สอดของไทยไปเมืองเมียวดีของเมียนมา ซึ่งส่งผลกระทบชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการขาดแคลนน้ำมันในฝั่งเมียวดี

หมายจับ สส.ปูอัด

“สส.ปูอัด” เงียบหาย หลังถูกออกหมายจับข่มขืนสาวไต้หวัน

“สส.ปูอัด” เงียบหาย ไม่รับสายสื่อ หลังถูกออกหมายจับข่มขืนสาวไต้หวัน ด้าน “เลขาสภาฯ” เผยเรื่องยังไม่ถึงสภา หากมาแล้วต้องบรรจุวาระขอสมาชิกให้อนุญาตดำเนินคดี

มือถือแตงโม

ดีเอสไอรับมอบมือถือแตงโม ส่งสถาบันนิติวิทย์ฯ ตรวจดีเอ็นเอ เช้านี้

โทรศัพท์มือถือ “แตงโม ภัทรธิดา” ถึงมือดีเอสไอ เก็บเข้าห้องมั่นคงลับสูงสุดตลอดคืน เช้านี้นำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เข้าห้องแล็บตรวจหาหลักฐาน