11 มิ.ย. – เมื่อวานนี้สำนักข่าวไทยเปิดปมทุจริตเงินอุดหนุนวัด โดย ปปป.ให้ข้อมูลว่ามีวัดมากถึง 12 วัดเกี่ยวข้อง มูลค่าความเสียหายกว่า 60 ล้านบาท ล่าสุดวันนี้ ผอ.สำนักพุทธ เตรียมตั้งกรรมการสอบวินัยข้าราชการที่เกี่ยวข้องคู่ขนานกับการสอบสวนของตำรวจ
พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือ พศ.เปิดเผยกับสำนักข่าวไทยเกี่ยวกับปมทุจริตเงินอุดหนุนวัด หรือ ที่เรียกกันว่า “เงินทอน” ซึ่ง ปปป.ระบุว่า มีประชาชน อดีตข้าราชการ และข้าราชการระดับสูงเกี่ยวข้องหลายคนว่า ขณะนี้ พศ.กำลังรวบรวมข้อมูลส่งให้นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแล พศ.และหากปปป.มีการแจ้งข้อหาและตำรวจชี้มูลความผิด พศ.จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยกับข้าราชการที่เกี่ยวข้องตามระเบียบคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ส่วนผู้ที่เกษียนอายุราชการ ประชาชน และวัด ตำรวจจะดำเนินการสอบสวนทางอาญา หากมีข้อมูลความผิด และก่อความเสียหาย จะใช้ พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิด ดำเนินคดีทางแพ่ง นอกจากนี้ ยังเตรียมปรับแก้กระบวน การตรวจสอบการโอนหรือจ่ายเงินให้กับวัดให้รัดกุมมากขึ้น เนื่องจากการเรียกรับเงินอุดหนุนวัด หรือ เงินทอน เป็นเรื่องที่ไม่ควรได้รับการยอมรับ เพราะเป็นค่านิยมที่ “เลว” และสามารถแก้ได้ด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง
สำหรับ 12 วัดที่เข้าข่ายทุจริตเงินอุดหนุนบูรณะปฏิสังขรณ์วัด ประกอบด้วย วัดพนัญเชิงวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา วัดพระพุทธบาทตากผ้า จ.ลำพูน วัดห้วยตะแกละ จ.เพชรบุรี วัดราชบุรณะ (วัดนอก) จ.ชุมพร วัดโพธิ์ศรี, วัดโคกเพลาะ ,วัดพระศรีเจริญ จ.อำนาจเจริญ และวัดวัฒนาราม, วัดหาดปู่ด้าย, วัดทุ่งต๋ำ ,วัดบ้านอ้อ, วัดอุมลอง จ.ลำปาง โดยวัดที่มีข้อมูลยอดเงินทุจริตมากที่สุดคือ วัดพนัญเชิงวรวิหาร มูลค่า 13 ล้านบาท รองลงมาคือ วัดห้วยตาแกละ 11 ล้านบาท
ส่วนการตรวจสอบเบื้องต้นพบผู้กระทำผิดแล้ว 8 ราย แบ่งเป็นอดีตข้าราชการระดับผู้อำนวยการ พศ. ข้าราชการระดับรองผู้อำนวยการ พศ. และระดับปฎิบัติการ รวมทั้งข้าราชการระดับประชาชนทั่วไป โดยมีการแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว 4 ราย ที่เหลือกำลังเร่งตามหาตัว ซึ่ง ปปป.เปิดเผยว่า เร็ว ๆ นี้จะเปิดยุทธการปราบโกงวัด ครั้งที่ 2 อีกครั้ง หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ตรวจสอบไปแล้ว 3 พื้นที่. -สำนักข่าวไทย