ขอนแก่น 9 มิ.ย.-แม่แอ๋มส่งทนายฟ้องเรียกค่าเสียหาย “เปรี้ยว และแก๊งฆ่าหั่นศพ” 10 ล้านบาท
ที่ศาลจังหวัดขอนแก่น นายนพดล สีดาทัน ทนายความซึ่งได้รับมอบอำนาจจาก นางสายรุ้ง อายุ 42 ปี มารดาของ น.ส.วริศรา หรือ แอ๋ม อายุ 22 ปี ผู้เสียชีวิตที่ถูกฆ่าหั่นศพในพื้นที่ สภ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น ได้รวบรวมเอกสารเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการยื่นฟ้องศาลจังหวัดขอนแก่น เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 10 ล้านบาท กับ 5 ผู้ต้องหา ที่ร่วมกันก่อเหตุลงมือฆ่าหั่นศพ
ทนายความ กล่าวว่า ผู้ตายเป็นกำลังหลักของครอบครัว ทำงานหาเงินส่งให้ทางบ้านและญาติ ได้ใช้จ่ายในครัวเรือน โดยส่งให้แม่เดือนละ 20,000 บาท ส่งให้ย่า เดือนละ 10,000 บาท อาจจะ ไม่ได้ส่งให้ทุกเดือน แต่ก็ยังคงดูแลและหาเงินมาจุนเจือครอบครัวมาโดยตลอด จากการคำนวณรายได้ต่อปีเฉลี่ยแล้วจะหาเงินได้ไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท การที่ผู้ต้องหาได้ร่วมกันฆาตรกรรม จึงถือเป็นการละเมิดทางอาญา จึงได้มอบหมายให้ทนายความยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดขอนแก่น เพื่อเรียกค่าเสียหายกับกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 5 คน เป็นเงิน จำนวน 10 ล้านบาท โดยขั้นตอนหลังจากนี้ไปทนายความจะดำเนินการตรวตสอบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 5 คน มีทรัพย์สินอะไรบ้าง จากนั้นจะนำมายื่นต่อศาลเพื่อขอให้พิจารณาในการออกคำสั่งอายัด ซึ่งถ้าหากศาลมีคำพิพากษา ให้ฝ่ายโจทก์ชนะคดี จะมีผลบังคับใช้ได้ถึง 10 ปี และหากในช่วงบังคับคดี ผู้ต้องหาไม่สามารถชดใช้ค่าเสียหาย ได้ หรือฝ่ายโจทก์มีหนี้สิ้นล้นพ้นตัว ฝ่ายโจทก์ในฐานะเจ้าหนี้ ก็สามารถยื่นฟ้องให้ตกเป็นผู้ล้มละลายต่อไป
นอกจากนี้ทางญาติของแอ๋มยังกล่าวถึงการแจ้งความดำเนินคดีกับพี่สาวของเปรี้ยว ที่ออกมากล่าวหาผู้ตายว่าเกี่ยวข้องกับการค้าประเวณี โดยเป็นการให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อต่างๆ จนสร้างความอับอายแก่ครอบครัวและญาติพี่น้อง ว่า ได้แจ้งความไว้ที่ สภ.บ้านเป็ด อ.เมืองขอนแก่น เมื่อวานนี้ (8 มิ.ย.60) ซึ่งต่อไปจะต้องติดตามกับทางตำรวจว่าจะมีการเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาวันไหน
นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และพลตำรวจเอก เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวภายหลังการหารือร่วมกันเกี่ยวข้อมูลในคดีเปรี้ยวฆ่าหั่นศพซึ่งที่ผ่านมาข้อมูลของตำรวจ และ ป.ป.ส ยังไม่ตรงกันในบางประเด็น
พลตำรวจเอก เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่าผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นห่วง และให้มาพูดคุยกับทาง ป.ป.ส.ถึงข้อมูลที่ออกมาไปคนละทางไม่เป็นเอกภาพ ซึ่งขณะนี้เข้าใจตรงกันแล้ว ไม่มีความขัดแย้งใดๆ ทั้งสิ้น และมีความชัดเจนตรงกันทุกประเด็น คือ ประเด็นแรก คดีเปรี้ยว ฆาตกรรมแอ๋ม มีมูลเหตุจากความแค้นส่วนตัวเท่านั้น ไม่ได้เป็นฝีมือหรือมีใบสั่งจากแก๊งค้ายาข้ามชาติแน่นอน ส่วนประเด็นว่าเปรี้ยวจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งค้ายาข้ามชาติมาก่อนหน้านี้หรือไม่ ป.ป.ส. มีข้อมูลพอสมควรที่เชื่อมโยงได้ว่าเปรี้ยวมีความเกี่ยวพันกับแก๊งค้ายาข้ามชาติแต่ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะแจ้งความเอาผิดได้
นายศิรินทร์ยา เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่าจากข้อมูลที่มีอยู่ขณะนี้ พบว่าเปรี้ยวมีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งค้ายาข้ามชาติ ซึ่งเป็นคนละแก๊งกับธวัชชัย หรือเก้า ซึ่งเป็นผู้มาใช้บริการร้านคาราโอเกะ และเป็นผู้พาเปรี้ยวหลบหนีเข้าไปในเมียนมาร์ และเป็นหนึ่งใน 18 ผู้ต้องหายาเสพติดหลบหนีหมายจับโดยเปรี้ยวเข้าไปเกี่ยวข้องกับแก๊งนี้ในส่วนของเรื่องเงิน หรืออาจเป็นผู้ดูแลเงิน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้มาก เพราะจะเสียรูปคดี ซึ่งขณะนี้กำลังตรวจสอบเส้นทางการเงินของเปรี้ยว เพื่อหาความเชื่อมโยง และได้ประสานตำรวจเมียนมาร์ในการหาหลักฐานเพิ่มเติม หากได้หลักฐานมาก็สามารถแจ้งข้อหาเพิ่มกับเปรี้ยวได้ทันที โดยส่วนตัวค่อนข้างมั่นใจว่าเปรี้ยวมีส่วนพัวพันกับแก๊งค้ายาเสพติดข้ามชาติแน่นอนแต่ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานมากพอเท่านั้น
พลตำรวจตรี เจริญวิทย์ ศรีวนิช รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ยืนยันตำรวจได้แจ้งข้อหาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนกับผู้ต้องหาเพียง 4 คนเท่านั้น ไม่ใช่ 5 คนอย่างที่เป็นข่าว ส่วนกรณีพี่สาวของเบนซ์ ไปยื่นหลักฐานต่อกระทรวงยุติธรรมยืนยันน้องสาวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการก่อเหตุ ขอให้นำหลักฐานมามอบให้กับตนที่สำนักงานตำรวจภูธรภาคสี่ได้และพร้อมจะให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่.-สำนักข่าวไทย