สั่งขยายผลจุดเชื่อมโยง “แก๊งเปรี้ยว” – นักค้ายาข้ามชาติ

กรุงเทพฯ 7 มิ.ย.-ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งขยายผลว่าผู้ต้องหาคดีฆ่าหั่นศพในจ.ขอนแก่น เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาข้ามชาติหรือไม่ ขณะที่ล่าสุดพนักงานสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 แจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับผู้ต้องหาทั้งหมดอีก 1 กระทง


ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติสั่งตำรวจภูธรภาค 4 และ ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ประสานงาน ป.ป.ส. สืบสวนขยายผล หลังผลการสืบสวนจากตำรวจภูธรภาค 4 พบว่านางสาวปรียานุช โนนวังชัย หรือ “เปรี้ยว” ผู้ต้องหาฆ่าหั่นศพพัวพันกับขบวนการค้ายา แต่เบื้องต้นยังไม่พบว่าเกี่ยวข้องถึงระดับขบวนการค้ายาข้ามชาติ ซึ่งหากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องเตรียมแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมตามกฎหมาย ร้อมสั่งขยายผลติดตามจับกุมนายธวัชชัย อ้อมชมภู หรือ”เก้า” ผู้ต้องหาหนีหมายจับคดียาเสพติดในไทยและมีส่วนเกี่ยวข้องในการพาเปรี้ยวกับพวกหลบหนี


ด้านนายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวถึงความคืบหน้าในการแลกเปลี่ยนหมายจับ 19 นักค้ายาเสพติดกับเมียนมาร์ว่า ในจำนวนดังกล่าวมี “นายเก้า” รวมอยู่ด้วย ซึ่งจากข้อมูลเชิงลึกพบหลายคนเข้าไปลงทุนทำธุรกิจในฝั่งท่าขี้เหล็ก ทั้งร้านอาหาร-คาราโอเกะ และมักลอบเข้าไทยตามช่องทางธรรมชาติ และจากการหารือกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเมียนมาร์ ในฐานะเลขาธิการ ป.ป..ส.เมียนมาร์ ก็ได้รับการตอบรับที่ดี พร้อมเร่งตรวจสอบขยายผลตรวจสอบเส้นทางการเงินของ “เปรี้ยวและพวก”      


ส่วนผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ชี้แจงภาพระหว่างที่ ตม.ควบคุมตัวผู้ต้องหาซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมว่า ให้สิทธิ์มากเกินไป โดยยืนยันเจ้าหน้าที่ไม่ได้ให้สิทธิ์พิเศษใดๆ ซึ่งภาพที่เห็นอาจส่งผลให้หลายฝ่ายเข้าใจผิด เพราะมีบางส่วนเกิดขึ้นฝั่งเมียนมาร์

ขณะที่ล่าสุด พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 เปิดเผยภายหลังประชุมพนักงานสอบสวนคดีดังกล่าวว่า ได้แจ้งข้อหาเพิ่มกับผู้ต้องหาทั้ง 5 คน อีก 1 ข้อหา คือร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 จากเดิมแจ้งข้อหาไป 4 ข้อหา คือร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย ปล้นทรัพย์และรับของโจร แต่รายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากอยู่ในสำนวน แต่ก็จะมีการเรียกบุคคลเข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนสรุปสำนวนส่งอัยการสั่งฟ้องต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก