คาดเงินบาทมีโอกาสหลุด 33 บาท/ดอลลาร์ฯ

กรุงเทพฯ 6 มิ.ย. – ธนาคารกรุงศรีฯ มองเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง มีโอกาสหลุด 33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ  


นายตรรก บุนนาค ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านโกลบอลมาร์เก็ตส์  ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า เงินบาทยังมีแนวโน้มแข็งค่าเคลื่อนไหวสอดคล้องกับเงินสกุลภูมิภาค แต่คาดว่าระยะสั้นไม่หลุดแนวรับ 33.90 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้ามาดูแล เพื่อไม่ให้แข็งค่าจนเกินไปและมีผลกระทบต่อผู้ส่งออก โดยยังเชื่อว่าหากเงินบาทเคลื่อนไหวระดับ 34 บาท ผู้ส่งออกยังสามารถปรับตัวได้ เพราะมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไว้แล้ว 

ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปี 2560 เงินบาทแข็งค่าขึ้นร้อยละ 5.1 อยู่ในระดับกลาง ๆ หากเทียบกับเงินสกุลเพื่อนบ้าน โดยเงินวอนเกาหลีใต้แข็งค่าสุดร้อยละ 7.9 รองลงมา คือ เงินไต้หวันดอลลาร์แข็งค่าร้อยละ 7.2 และแนวโน้มค่าเงินบาทเฉลี่ยช่วงสิ้นปีนี้คาดอยู่ที่ระดับ 34.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งแข็งค่าขึ้นจากการประมาณการณ์ครั้งก่อนที่ 35.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มอ่อนค่า หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ปรับขึ้นดอกเบี้ย 2 ครั้ง ตามที่ตลาดคาดหมาย ปัจจัยสนับสนุนเงินดอลลาร์สหรัฐจะหมดลง ตลาดจะกลับมามีความกังวลเกี่ยวกับสภาวะทางการเมืองระหว่างสหรัฐ และประเทศมหาอำนาจอื่น ๆ ยังไม่ชัดเจน และนโยบายเศรษฐกิจรัฐบาลนายโดนัลด์ ทรัมป์ สร้างผลเชิงลบต่อเงินดอลลาร์สหรัฐต่อเนื่องจนถึงครึ่งแรกปี 2561 ส่งผลให้เงินบาทมีโอกาสแข็งค่าขึ้นทะลุ 33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และมีโอกาสแข็งค่าสุดที่ 32.75 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในช่วงไตรมาส 2 ปี 2561 


ทั้งนี้ ต้องติดตามวันที่ 8 มิถุนายนนี้ ที่สำนักสอบสวนกลางสหรัฐ หรือเอฟบีไอ ที่จะสอบสวนความสัมพันธ์ระหว่างนายโดนัล ทรัมป์ กับรัสเซียที่จะกระทบต่อตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ

ส่วนแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง.จะคงดอกเบี้ยร้อยละ 1.50 จนถึงสิ้นปีนี้ เพื่อเป็นการเก็บกระสุนไว้ใช้ในยามจำเป็น แต่มีโอกาสที่ กนง.จะขยับดอกเบี้ยขึ้นปี 2561 จะส่งผลให้ดอกเบี้ยนโยบายไทยเท่ากับดอกเบี้ยสหรัฐ เพราะคาดว่าเฟดจะปรับดอกเบี้ยขึ้นอีก 2 ครั้ง ประมาณร้อยละ 0.50 มาอยู่ที่ร้อยละ 1.25-1.50 ท่ามกลางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐและเงินเฟ้อที่จะสูงขึ้น ทั้งนี้ คาดว่ากระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้าไทยยังมีต่อเนื่อง เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มดีขึ้น ทั้งจากการส่งออก การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐที่จะช่วยหนุนการลงทุนภาคเอกชนให้ขยายตัวดีขึ้น การท่องเที่ยวและการบริโภคที่ฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป และการเกินดุลบัญชีเงินสะพัดของไทยยังสูง  ซึ่งคาดว่า ธปท.จะต้องมีมาตรการดูแลกระแสเงินทุนไหลเข้าระยะสั้น .- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

บิ๊กอ๊อดรอดคุก

“บิ๊กอ๊อด” รอดคุก คดี “บอส อยู่วิทยา” อัยการเนตร คุก 3 ปี

“บิ๊กอ๊อด-ตร.” ทำคดี “บอส” รอดคุก ศาลยกฟ้อง ส่วน “อัยการเนตร” ศาลสั่งจำคุก 3 ปี และ “อัยการชัยณรงค์” จำคุก 2 ปี

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

สป.สายไหม

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐานร้องสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนัน

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐาน ร้องตรวจสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนันออนไลน์ ยินดีให้ตำรวจตรวจสอบกลับ มั่นใจประวัติขาวสะอาด ย้ำ “ลูกพีช” ควรขอโทษอย่างจริงใจ

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยประเทศไทยอากาศร้อน-ใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีอากาศร้อนโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคกลาง ส่วนภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด

นายกฯ เตรียมเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชา

นายกรัฐมนตรี มีกำหนดเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ในโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-กัมพูชา และการส่งเสริมความร่วมมือในการแก้ปัญหาและการพัฒนาของสองประเทศ โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยรายงาน

9 ทันโลก : เตรียมเริ่มกระบวนการเลือกโป๊ปองค์ใหม่

หลังจากสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ประมุขแห่งศาสนจักรสิ้นพระชนม์ รายงาน 9 ทันโลกวันนี้จะพาไปรำลึกถึงพระองค์และติดตามกระบวนการเลือกพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่

พิพากษาแก๊งช่วยแก้ความเร็วรถ “บอส”

วันนี้คดีทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต กลับมาถูกพูดถึงอีกครั้ง เมื่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตัดสินจำคุกอดีตรองอัยการสูงสุด และอดีตอัยการอีก 1 คน ฐานความผิดแก้ความเร็วรถคันเกิดเหตุ หวังช่วยผู้ต้องหา