สำนักข่าวไทย 2 มิ.ย.-“บอย ยูนิตี้” เตรียมฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายดีเอสไอ หลังโดนอายัดรถหรู 34คัน เตรียมแถลงอีกครั้งพร้อมโชว์หลักฐาน ยืนยันความบริสุทธิ์วันจันทร์นี้
นายอินทระศักดิ์ เตชธีรสิริ หรือ “บอย ยูนิตี้” กรรมการบริษัท เอสทีที ออโต้คาร์ เซอร์วิส จำกัด ย่านรัชดาภิเษก และสุขุมวิท 63 เปิดเผยกับสำนักข่าวไทยถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) อายัดรถหรูในโชว์รูม จำนวน 34คัน ว่า ขณะนี้ได้ประสานทนายความจากประเทศอังกฤษเตรียมเอกสารการจดทะเบียน การส่งออก รายละเอียดต่างๆ ที่ยืนยันว่า รถยนต์หรูที่เป็นผู้ประกอบการนำเข้าอิสระ มาจัดจำหน่ายในประเทศไทย ไม่ใช่รถยนต์ที่ทางดีเอสไอกล่าวหาว่าเป็นรถที่ถูกโจรกรรมมาจากประเทศอังกฤษ ซึ่งขณะนี้ได้มอบหมายให้ทนายความดำเนินคดีทางแพ่งฟ้องเรียกค่าเสียหายกับดีเอสไอ 50ล้านบาท และจ่ายรายเป็นเดือนอีก เดือนละ 10ล้านบาท เนื่องจากการกระทำของดีเอสไอ ส่งผลเสียต่อธุรกิจ ทำให้บริษัทขาดความน่าเชื่อถือ และถูกปิดมาแล้ว 3สัปดาห์ สร้างความเสียหายต่อธุรกิจเกือบ 100ล้านบาท
นายอินทระศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนที่ดีเอสไอ กล่าวหาการนำเข้ารถยนต์ของตนสำแดงภาษีไม่ตรงกับความเป็นจริงนั้น กรณีนี้ขอยืนยันด้วยประสบ การณ์การทำธุรกิจนำเข้ารถยนต์อิสระมาเกือบ 13ปี ปฏิบัติตามหลักการประเมินราคาของคณะกรรมการภาษีอากร กรมศุลกากรที่เทียบราคากลางจากเว็บไซต์ผู้ผลิต หักค่าการตลาด หักค่าvat แต่ละประเทศ แล้วเสียภาษีร้อยละ328 ต่อคัน ซึ่งทุกขั้นตอนมีเอกสารชัดเจน พร้อมโชว์หลักฐานแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนอีกครั้ง วันจันทร์นี้ (5 มิ.ย.)
อย่างไรก็ตามขณะนี้ตนยังไม่ได้รับหนังสือเรียกตัว จากดีเอสไอ ให้เข้าชี้แจงแต่อย่างใด ซึ่งพร้อมที่จะแสดงความบริสุทธิ์ทุกข้อกล่าวหา
นายอินทระศักดิ์ ยังกล่าวถึงกรณีรถยนต์ลัมโบร์กินีของ ‘โดม’ ปกรณ์ ลัม ว่า รถคันดังกล่าว โดมซื้อมาจากตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย ซึ่งเอกสารการซื้อขายก็ถูกต้องตามกฎหมาย ก่อนที่โดมจะนำรถมาฝากขายในโชว์รูมของตนในราคา 23.5ล้านบาท อย่างไรก็ตามตั้งข้อสังเกตถึงการกระทำของดีเอสไอ ที่ไม่เป็นธรรม จึงยืนหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ ดีเอสไออายัดรถหรูไปทั้งหมด34 คัน กล่าวหาว่าเป็นรถที่ถูกโจรกรรมมาจากประเทศอังกฤษ 11คัน ที่เหลืออีก 23 คันถูกกล่าวหาว่าสำแดงภาษีเท็จ มูลค่าทรัพย์สินเกือบ 400ล้านบาท .-สำนักข่าวไทย