ตามคาด “กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี” ยื่นขอกระจายหุ้นแล้ว

กรุงเทพฯ 2 มิ.ย. – “กัลฟ์เอ็นเนอร์จี” ยื่น ก.ล.ต.เพื่อกระจายหุ้นแล้ว ลงทุนพลังงานครบวงจรทั้งในและต่างประเทศ หลังกระทรวงพลังงานยื้อไอพีพีไม่สำเร็จ


สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลัทกรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งว่า บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์หรือ Filing version แรก เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2560 เพื่อเสนอขายหลักทรัพย์ครั้งแรกต่อประชาชน (IPO) ไม่เกิน 533.30 ล้านหุ้น ทั้งนี้ บริษัทฯ อาจกันหุ้นบางส่วนจากจำนวนดังกล่าวมาจัดสรร เพื่อเสนอขายต่อผู้ลงทุนหลักโดยเฉพาะเจาะจง (Cornerstone Investor) และบริษัทฯ มีความประสงค์จะขอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในหมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค โดยมีธนาคารไทยพาณิชย์, บล.กสิกรไทย, บล.บัวหลวง เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2560 คือ นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ถือหุ้น 619,999,994 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 100, บริษัท กัลฟ์ โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ถือหุ้น 2 หุ้น , Gulf Investment and Trading Pte. Ltd. ถือ 2 หุ้น และ Gulf Capital Holdings Limited ถือ 2 หุ้น ภายหลังการขายหุ้นเพิ่มทุนให้ผู้ถือหุ้นเดิม นายสารัชถ์ จะลดสัดส่วนถือหุ้นเหลือร้อยละ 51.25, บริษัท กัลฟ์ โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 6.25 ขณะที่ Gulf Investment and Trading Pte. Ltd. และ Gulf Capital Holdings Limited ถือหุ้นฝ่ายละร้อยละ 21.25 หลังเสนอขายหุ้น IPO แล้ว นายสารัชถ์ จะลดการถือหุ้นลงเหลือ ร้อยละ 38.44 ,บริษัท กัลฟ์ โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 4.69 ขณะที่ Gulf Investment and Trading Pte. Ltd. และ Gulf Capital Holdings Limited ถือหุ้นฝ่ายละร้อยละ 15.94 วัตถุประสงค์การใช้เงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ เพื่อใช้เป็นส่วนหนึ่งของเงินลงทุนและเงินให้กู้ยืมแก่บริษัทย่อย และบริษัทร่วมของบริษัทฯ และบริษัทอื่น รวมถึงการลงทุนในโครงการต่าง ๆ ของบริษัทฯในอนาคต และใช้ชำระคืนเงินกู้ยืม รวมถึงเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ และเพื่อวัตถุประสค์อื่น ๆ ของกลุ่มบริษัทฯ  


บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ประกอบธุรกิจหลักด้านการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ไอน้ำ และน้ำเย็น และธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และเป็นหนึ่งในผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าภาคเอกชนรายใหญ่ (IPP) ที่สุดของประเทศไทย ทั้งนี้ เมื่อโครงการโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างก่อสร้างและพัฒนาทั้งหมดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในปี 2567 รวมกับโครงการโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วในปัจจุบัน กลุ่มบริษัทฯ จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้ง (Installed Capacity) รวมทั้งสิ้น 11,396.2 เมกะวัตต์ คิดเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งตามสัดส่วนความเป็นเจ้าของของบริษัทฯ (ณ วันที่ 31 มีนาคม 2560) ทั้งสิ้น 5,460.2 เมกะวัตต์  โดยบริษัทฯ ลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าซึ่งเป็นเจ้าของและดำเนินการผ่านบริษัทย่อยและบริษัทร่วมดังต่อไปนี้ 1.โครงการ IPP ก๊าซธรรมชาติ 2 โครงการ และโครงการ SPP 7 โครงการภายใต้ GJP ซึ่งเป็นบริษัทร่วมที่บริษัทฯ ถือหุ้นจำนวนร้อยละ 40.00  2. โครงการผลิตไฟฟ้าจากเอกชนรายเล็ก (SPP) ก๊าซธรรมชาติ 12 โครงการภายใต้ GMP ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นจำนวนร้อยละ 70.00  3. โครงการ IPP ก๊าซธรรมชาติ 2 โครงการภายใต้ IPD ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นจำนวนร้อยละ 51.00  4. โครงการผลิตไฟฟ้าจากเอกชนรายเล็กมาก (VSPP) พลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop) 4 โครงการภายใต้ Gulf Solar ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นจำนวนร้อยละ 74.99 5. โครงการ SPP ชีวมวล 1 โครงการของ CGC ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นจำนวนร้อยละ 100.00 

ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2560 กลุ่มบริษัทฯ มีโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติที่ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วของกลุ่มบริษัทฯ  10 โครงการ ประกอบด้วย (ก) โครงการ IPP ก๊าซธรรมชาติ 2 โครงการ และโครงการ SPP ก๊าซธรรมชาติ 7 โครงการภายใต้ GJP และ (ข) โครงการ SPP ก๊าซธรรมชาติ 1 โครงการภายใต้ GMP (ซึ่งได้แก่ GVTP) โดยมีกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งรวมทั้งสิ้น 4,373.6 เมกะวัตต์ ซึ่งคิดเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งตามสัดส่วนความเป็นเจ้าของของบริษัทฯ 1,754.3 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งตามสัดส่วนความเป็นเจ้าของของบริษัทฯ สำหรับโครงการ IPP ก๊าซธรรมชาติ 1,362.2 เมกะวัตต์ และโครงการ SPP ก๊าซธรรมชาติ 392.0 เมกะวัตต์  

 บริษัทฯ ยังถือหุ้นร้อยละ 100.00 ใน Gulf HK โดย Gulf HK ถือหุ้นร้อยละ 9.09 ในบมจ.เอสพีซีจี (SPCG) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย และถือหุ้นร้อยละ 0.46 ใน EDL-GEN ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าในประเทศลาว นอกจากนี้ บริษัทฯ อยู่ในขั้นตอนพัฒนาธุรกิจจัดจำหน่ายก๊าซธรรมชาติทางท่อให้กับลูกค้าอุตสาหกรรมในนิคมอุตสาหกรรมของกลุ่มบมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) ผ่าน Gulf WHA MT ซึ่งเป็นกิจการร่วมค้าที่บริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 49.00 โดยมีบมจ.เหมราชพัฒนาที่ดิน (Hemaraj) ถือหุ้นร้อยละ 51.00 ทั้งนี้ Gulf WHA MT ถือหุ้นร้อยละ 100.00 ในบริษัทย่อยอีก 2 บริษัทคือ WHA NGD2 และ WHA NGD4  


 โครงการในอนาคต ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2560 กลุ่มบริษัทฯ มีโครงการโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง ซึ่งเป็นโครงการ SPP ก๊าซธรรมชาติ จำนวน 11 โครงการ ภายใต้ GMP และโครงการโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างพัฒนาจำนวน 3 โครงการ ได้แก่ โครงการ IPP ก๊าซธรรมชาติ 2 โครงการ ภายใต้ IPD ซึ่งโครงการโรงไฟฟ้าดังกล่าวทั้งหมดได้เข้าทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติกับบมจ.ปตท. (PTT) แล้ว ทั้งนี้ คาดว่าโครงการโรงไฟฟ้าดังกล่าวจะเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งให้กับกลุ่มบริษัทอีก 6,997 เมกะวัตต์ ซึ่งมาจากโครงการ IPP 2 โครงการ ภายใต้ IPD จำนวน 5,570 เมกะวัตต์ และโครงการ SPP จำนวน 11 โครงการ ภายใต้ GMP จำนวน 1,427 เมกะวัตต์ คิดเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งตามสัดส่วนความเป็นเจ้าของ 3,680.5 เมกะวัตต์  

นอกจากนี้ ยังมีโครงการ SPP ชีวมวลของ CGC ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอีก 1 โครงการ ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งอีก 25 เมกะวัตต์ คิดเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งตามสัดส่วนความเป็นเจ้าของของริษัทจำนวน 25 เมกะวัตต์  บริษัทฯ กำหนดกลยุทธ์ทางธุรกิจในการขยายการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าทั้งในประเทศและในภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศเมียนมาร์ ลาว กัมพูชา เวียดนาม และประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ในอนาคต รวมถึงการขยายการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนและธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจพลังงาน  

ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวการกระจายหุ้นของกัลฟ์ครั้งนี้เกิดขึ้นภายหลังคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) วันที่ 14 มีนาคม 2560 อนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าเอกชนขนาดใหญ่ (IPP) ของเครือบริษัทกัลฟ์ ที่ชนะการประมูลขายไฟฟ้า 5,000 เมกะวัตต์ มูลค่ากว่า 110,000 ล้านบาท โดยจะทยอยจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบตั้งแต่ปี 2564-2569 โดยโครงการนี้ถูกตรวจสอบโดย คสช.ระยะแรก และแม้กระทรวงพลังงานพยายามเจรจาเลื่อนการลงทุน เพราะสำรองไฟฟ้าสูงก็ไม่เป็นผล.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 : 230

รัฐสภา 15 ส.ค.- ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 ต่อ 230 ด้าน ‘พิชัย’ ขอบคุณสภาฯ ยันจะใช้งบให้ตรงตามวัตถุประสงค์โปร่งใส-เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีการตั้งวงเงินงบประมาณ จำนวน 3.78 ล้านล้านบาท ซึ่งที่ประชุมสภาฯ ใช้เวลาอภิปรายตลอด 3 วัน ระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคม และลงมติเมื่อเวลา 22.50 น. ผลปรากฏว่า จากจำนวนสมาชิก 487 เสียง เห็นด้วย 257 เสียง ไม่เห็นด้วย 230 เสียง งดออกเสียง 1 […]

พลทหารยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ก่อนหนีเข้าป่า จบชีวิตตัวเอง

สุรินทร์ 15 ส.ค. – ตื่นตระหนก เหตุพลทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ควงปืนอาวุธประจำกาย ออกมายิงชาวบ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ก่อนจะหลบหนี และสุดท้ายปลิดชีพตนเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ ติดตามได้จากรายงานของศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.-สำนักข่าวไทย

ไล่ล่าโจรชิงทอง 123 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 15 ส.ค. – ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง แกะรอยหาเบาะแส ไล่ล่าโจรชิงทองห้างย่านบางบ่อ ยืนยันจำนวนทอง 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้าน ขณะที่พนักงานยังผวาทุกครั้งที่เห็นคนใส่ชุดไรเดอร์เดินเข้าห้าง จากเหตุการณ์คนร้ายแต่งกายด้วยชุดไรเดอร์ สวมกางกางยีนขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว เดินเท้าบุกเดี่ยวมาที่ร้านทอง แล้วชักอาวุธปืนพกแบบออโตเมติก สีบอร์นซ์ ขู่บังคับให้พนักงานขายทองซึ่งเป็นหญิง 3 คน หยิบทองรูปพรรณส่งให้คนร้าย แต่พนักงานขายทองไม่หยิบส่งให้ และหมอบลงกับพื้น คนร้ายจึงกระโดดข้ามตู้ทองด้านหน้าร้าน ไปเลื่อนกระจกตู้ทองด้านหลัง หยิบเอาทองคำรูปพรรณ มีสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท น้ำหนัก 3 บาท 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท 24 เส้น รวม 48 บาท […]

ย้าย “ลุงพล” มาคุมขังต่อที่เรือนจำกลางนครพนม

15 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ย้ายตัว “ลุงพล” จำเลยคดีน้องชมพู่ ไปควบคุมต่อที่เรือนจำกลางนครพนม ด้าน “ป้าแต๋น” ตามมาเยี่ยมให้กำลังใจสามี บอกเอาหัวใจมาฝาก ยืนยันลุงพลสู้ต่อถึงฎีกา หลังเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” จำเลยที่ 1 จาก 20 ปี เป็น 26 ปี และยกฟ้อง นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ “ป้าแต๋น” ในคดีฆ่า เด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ หลังหายตัวจากบ้านพัก ขณะนั่งเล่นกับพี่สาวที่บ้าน กกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ค.2563 ต่อมาจำเลย ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว และวานนี้ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ประกันตัว […]