กทม. 1 มิ.ย. – หลังผลการตรวจเลือด จากศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย พบว่าสาววัย 23 ปี ที่รับยาต้านไวรัสนานกว่า 10 ปี ไม่ติดเชื้อเอชไอวี บทเรียนและอุทาหรณ์จากเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร ติดตามจากรายงาน
ใช้เวลาเพียงนานแค่ 30-45 นาที ผลการตรวจเลือดหาเชื้อเอชไอวี ด้วยชุดทดสอบของศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย และผลการเลือดหาเชื้อไวรัสในระดับแอนติบอดี ก็ให้ผลเลือดของ น.ส.สุทธิดา สาววัย 23 ปี ที่รับต้านไวรัสเอดส์ตั้งแต่วัยเด็กวัยประถม ปรากฏ เป็นลบตรงกันทั้งสองครั้ง ไม่ติดเชื้อหรือมีเชื้อไวรัสในร่างกาย
กว่าจะมีวันนี้ได้ น้องนุ้กเล่าว่า ต้องเผชิญกับการตีตราในสังคม ติดเชื้อเอชไอวีตั้งแต่ 8 ขวบ การตรวจเลือดพิสูจน์เหมือนคืนชีวิตใหม่ วัยเด็กเคยต้องหยุดเรียนเพราะอายเพื่อน โดนล้อ การกินยาต้านไวรัสทำให้เวียนศีรษะ และเพิ่งมาหยุดกินยาต้านไวรัสเมื่อปี 2555 หลังตรวจเลือดจากการคลอดบุตรคนที่ 2 ไม่พบเชื้อไวรัสในเลือด
ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจะมาจากสาเหตุอะไร ยังต้องรอการตรวจสอบจากเวชระเบียนคนไข้ น่าจะบอกเล่าเรื่องราวได้ระดับหนึ่ง แต่ที่แน่ชัดประสิทธิภาพของเครื่องมือในการตรวจสอบ ในอดีตเมื่อ 19 ปี ย่อมไม่เสถียร หรือดีเท่าปัจจุบัน
สำหรับบทเรียนตรวจเชื้อเอชไอวีผิดพลาด ยังหนีไม่พ้นเรื่องการตั้งข้อรังเกียจของคนในสังคมไทย ที่แม้เวลาจะผ่านไปแต่ยังเหมือนเดิม ซึ่งหากปราศจากข้อเดียดฉันท์ ก็ไม่จำเป็นต้องตรวจเลือดพิสูจน์
แม้ข้อเรียกร้องที่ น้องนุ้ก สุทธิดา ต้องการคือ การสอบวินัยร้ายแรงแพทย์ผู้เกี่ยวข้อง แต่สำหรับการเยียวยาจิตใจจากความผิดพลาดจะต้องเกิดขึ้น ส่วนจะสมเหตุสมผลหรือไม่ ต้องรอการหารือร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ในวันที่ 5 มิถุนายนนี้. – สำนักข่าวไทย