กรุงเทพฯ 26 พ.ค. – “ธนวรรธน์” ห่วงผลกระทบเหตุระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎ หากยืดเยื้อกระทบเสถียรภาพการเมืองและจีดีพีโตต่ำกว่าร้อยละ 3.5
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า เหตุการณ์ระเบิดที่โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ นั้น เป็นสถานการณ์ที่แตกต่างจากต่างประเทศ เนื่องจากหลายคนมองว่ามาจากปัญหาทางการเมืองภายในประเทศ ซึ่งไม่ใช่เหตุการณ์ก่อการร้ายเป็นผลกระทบระยะสั้นยังไม่เห็นการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน รวมทั้งการท่องเที่ยวยังเป็นปกติ การส่งออกยังคงขยายตัวได้ดี เช่นเดียวกับตลาดหุ้นไทยยังปรับตัวขึ้นและเงินบาทยังแข็งค่า
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เป็นห่วง คือ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจระยะกลาง หากสถานการณ์ยังคงยืดเยื้อมีเหตุระเบิดเกิดขึ้นอีก หรือมีสัญญาณว่าการเมืองขาดเสถียรภาพ หรือมีการเลื่อนเลือกตั้งออกไปอีกจะกระทบให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ปีนี้อาจโตต่ำกว่าร้อยละ 3.5 จากเดิมที่คาดการณ์ว่าจะขยายตัวร้อยละ 3.5-4 เนื่องจากนักลงทุนจะขาดความมั่นใจต่อเสถียรภาพทางการเมืองได้ และอาจจะกระทบต่อภาคการท่องเที่ยว
นอกจากนี้ ให้จับตาปัญหาการก่อการร้ายที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ รวมทั้งภาวะเศรษฐกิจจีนที่ขยายตัวลดลง ซึ่งทางสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือมูดี้ส์ อินเวสเตอร์เซอร์วิส ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของจีนลง อาจส่งผลกระทบมายังเศรษฐกิจไทยปี 2561 ให้ขยายตัวต่ำกว่าร้อยละ 4 จากเดิมที่คาดการณ์ว่าจะขยายตัวได้ร้อยละ 4 – 4.5. – สำนักข่าวไทย