อุทัยธานี 25 พ.ค.- ชุดเดินเท้าอุทัยธานีลัดเลาะขึ้นเขาสูงชันนานข้ามวัน พิสูจน์ซากเครื่องบินบนเทือกเขาป่าห้วยขาแข้งรอยต่อกาญจนบุรี พบกระจายอยู่ 2 จุด คาดเป็นสมัยสงครามโลก
ตามที่ พ.ต.ท.พลพิพัฒน์ เฟื่อยมี สวป.สภ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ได้รับคำสั่งการจากผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานี ให้เข้าพิสูจน์ข้อเท็จจริงกรณีมีผู้พบซากเครื่องบินบนเขาสูงในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง หมู่ 2 บ้านคลองเสลา ต.แก่นมะกรูด อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ติดกับป่าทุ่งใหญ่นเรศวร เขตจังหวัดกาญจนบุรีนั้น
พ.ต.ท.พลพิพัฒน์ จึงประสานหน่วยกู้ภัย มูลนิธิร่วมใจอุทัยธานี และนายพะมองคอง กรึงไกร ชาวไทยภูเขาเผ่ากระเหรี่ยง หมู่ 2 ต.แก่นมะกรูด อ.บ้านไร่ ซึ่งเป็นผู้ชำนาญเส้นทางเดินป่า เข้าตรวจพิสูจน์พิกัดเป้าหมาย โดยออกเดินเท้าตั้งแต่วานนี้ (25 พ.ค.) ซึ่งการเดินทางยากลำบาก ต้องเดินทางลัดเลาะเขาสูงชันสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 1,000 เมตร ใช้เวลาไป-กลับอย่างน้อย 15 ชม.
การตรวจสอบได้พบชิ้นส่วนของเครื่องบินอยู่ 2 จุด คือบนสันเขา พิกัดแผนที่ 15.077341, 99.284227 เป็นเศษซากโลหะจำนวนมาก และซากปลอกลูกกระสุนปืน คาดว่าได้เกิดระเบิดและถูกไฟเผาช่วงเครื่องบินตกกระแทกพื้น ส่วนทรัพย์สินของมีค่าอื่นไม่พบ สำหรับจุดที่ 2 อยู่บริเวณลำห้วยด้านล่าง พิกัดแผนที่ 15.076429, 99.282966 อยู่ห่างจากจุดแรง 257 เมตร เจ้าหน้าที่ได้บันทึกเป็นหลักฐานเพื่อรายงานผู้บังคับบัญชาต่อไป โดยไม่ได้นำชิ้นส่วนของซากเครื่องบินลงมาด้วย
นายพะมองคอง กล่าวว่า มีการเล่าขานในหมู่บ้านเรื่องเครื่องบินตกมานานว่าตกตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือสมัยรุ่นปู่ย่าตายาย อาจเป็นเครื่องบินของทหารญี่ปุ่นที่กำลังต่อสู้กับอีกฝ่าย และถูกยิงทำให้เครื่องบินร่วงไปชนกับภูเขาลูกดังกล่าว ต่อมามีทหารญี่ปุ่นเดินทางเข้าหมู่บ้านและจ้างชาวบ้านให้นำทางไปยังจุดที่เครื่องบินตก เมื่อไปถึงจุดที่พบเครื่องบินนั้นตก ชาวบ้านได้สังเกตเห็นว่ามีผู้เสียชีวิต 3 ราย และทหารญี่ปุ่นได้นำศพนั้นกลับไป และปล่อยทิ้งซากเครื่องบินไว้ในที่เกิดเหตุ ชิ้นส่วนของเครื่องบินที่เป็นเหล็กคาดว่ามีชาวบ้านบางคนเก็บไปขาย.-สำนักข่าวไทย