รร.แมนดาริน 23 พ.ค.-ผลสำรวจชี้ 2 ปี คสช.แก้ปัญหาสลากแพงไม่ได้ มีการขายเกินราคา โดยเฉพาะหวยชุดแพงถึงใบละ 150 ชี้หวยออนไลน์ไม่ใช่พระเอกการแก้ปัญหา ล่าสุดพิมพ์เพิ่มล็อตเตอรี่ 71 ล้าน ฉบับต่องวด ส่งผลคนเล่นพนันเพิ่มขึ้น
การเสวนา “2 ปีคุมสลาก 80 บาทก้าวให้พ้นหวยออนไลน์” ที่เครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน ร่วมกับเครือข่ายประชาชนปฏิรูปสลาก เพื่อสะท้อนความคิดเห็นต่อการทำงานของคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลช่วง 2 ปีที่ผ่านมา หลัง คสช.ประกาศคุมราคาสลากกินแบ่งรัฐบาลให้เหลือใบละ 80 บาท พบว่าในทุกงวดยังพบการขายสลากเกินราคาทุกสถานที่ เฉลี่ยอยู่ที่ 81.23 บาท สถานที่ขายเกินราคาสูงสุด 3 แหล่งคือ ร้านอาหารเฉลี่ยใบละ 85.26 บาท รองมาคือวัดใบละ 85.04บาท และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ใบละ 84.69 บาท โดยพบมีราคาสูงสุดถึงใบละ 150 บาท ส่วนราคาสลากเป็นชุดยังคงแพงต่อเนื่อง น่าสนใจที่ผู้ซื้อ 46%ระบุว่าไม่ได้ใส่ใจในราคาแพงเพราะยอมซื้อเพื่อช่วยคนขาย ล่าสุดพิมพ์เพิ่มล็อตเตอรี่ 71 ล้าน ฉบับต่องวด ส่งผลคนเล่นพนันเพิ่มขึ้น
นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดการพนันกล่าวว่า เป็นความสำเร็จในการแก้ปัญหาสลากเกินราคา แต่ปัญหาต่าง ๆ ไม่ได้ยุติตามไปด้วย หวยใต้ดินก็ไม่ได้หมดไป กลายเป็นว่าสลากและหวยใต้ดิน มีอิทธิผลต่อพฤติกรรมการเสี่ยงโชคของคนไทยมากขึ้นเรื่อยๆทำให้ทุกวันที่ 1 และ 16 ของทุกเดือนคนไทยไม่เป็นอันทำอะไรรอแต่ผลสลาก มีผลข้างเคียงต่อสังคมจึงเห็นว่ากิจการสลาก ควรต้องมีความรับผิดชอบมากกว่าการผลิตและจำหน่ายเพียงเท่านั้น กิจการสลากต้องยอมรับว่าเป็นการพนันที่มีอิทธิพลสูงต่อสังคม ต้องมีการควบคุมสินค้า จำนวนผู้ค้า รวมทั้งมีรูปแบบและวิธีการจำหน่ายที่ถูกต้องเช่นห้ามการรวมชุดขาย ห้ามเร่ขาย
ขณะที่คณะกรรมการสลากควรใช้กองทุนสลากเพื่อพัฒนาสังคม สร้างแคมเปญรณรงค์แก้ปัญหาการพนัน สร้างการมีส่วนร่วมของประชาสังคม กิจการสลากจะดูดีขึ้น ถ้ามีมาตรการป้องกันเด็กเยาวชนและมุ่งสร้างการเรียนรู้เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันให้เยาวชนเห็นโทษภัยของการพนัน ที่สำคัญต้องมีหลักให้กิจการสลากหลุดพ้นจากอิทธิพลครอบงำของฝ่ายการเมือง ปรับโครงสร้างของคณะกรรมการสลาก ให้มีสัดส่วนของคนนอกราชการมากขึ้นเพื่อโปร่งใส และมีคุณภาพเพราะหากยังมีโครงสร้างเดิม ๆ เมื่อ คสช.จากไปสภาพปัญหาเดิมๆจะกลับมา.-สำนักข่าวไทย