สลากดิจิทัลผลตอบรับดี งวด 17 ม.ค.66 เพิ่มเป็น 17.129 ล้านฉบับ

กรุงเทพฯ 29 ธ.ค. – สำนักงานสลากฯ แจง สลากดิจิทัลผ่านแอปเป๋าตัง ผลตอบรับดี งวด 17 ม.ค. 66 เพิ่มเป็น 17.129 ล้านฉบับ พร้อมโอนเงินรางวัลเข้าทุกบัญชี ภายใน 2 ชั่วโมง ย้ำตัวแทนจำหน่ายผู้ซื้อ-จองล่วงหน้า ต้องปฏิบัติตามสัญญาและเงื่อนไขการจำหน่ายเคร่งครัด ห้ามขายเกินราคาหรือขายส่ง ปีที่ผ่านมายกเลิกโควตาแล้วกว่า 23,000 ราย


นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ตั้งแต่ ปี 2558 เป็นต้นมา การแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา มีความเข้มข้นและเป็นรูปธรรมมากขึ้น มีการระดมมาตรการต่างๆ มาใช้เพื่อแก้ไขปัญหาที่เรื้อรังมาเป็นเวลานาน โดยมีโร้ดแมปการดำเนินงาน 3 ระยะ โดยในระยะแรก เป็นการจัดระเบียบและการบังคับใช้กฎหมาย ได้มีการปรับระบบการจัดสรรสลากตัวแทนรายย่อยให้เหลือรายละ 5 เล่ม เท่ากันหมดทุกคน โดยให้เฉพาะนิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไรและองค์กรการกุศล และองค์กรคนพิการเท่านั้น มีการปรับสัดส่วนเพิ่มกำไรให้กับตัวแทนจำหน่าย

โดยเพิ่มส่วนลดให้จากเดิม 7% ได้กำไรฉบับละ 5.60 บาท ปรับเป็น 12% ได้กำไร ฉบับละ 9.60 บาท เพื่อให้ตัวแทนรายย่อยมีกำไรมากขึ้น มีการเปลี่ยนแปลงรางวัลสลาก โดยปรับรางวัลเลยท้าย 3 ตัว จากเดิม 4 รางวัล เปลี่ยนเป็นรางวัลเลขท้าย 3 ตัว 2 รางวัล และรางวัลเลขหน้า 3 ตัว 2 รางวัล เพื่อแก้ปัญหาเรื่องสลากฯ เลขไม่สวย ขายไม่หมด เพิ่มปริมาณสลากต่องวดให้เพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นเพื่อลดปัญหาเกินราคา นอกจากนี้ ยังมีการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ด้วยความร่วมมือจากหลายหน่วยงานไม่ว่าจะเป็นตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครอง เพื่อตรวจสอบการจำหน่ายสลาก และมีการใช้มาตรการทางกฎหมายบังคับใช้ ในกรณีที่ตัวแทนจำหน่ายและผู้ซื้อจองล่วงหน้าไม่ปฎิบัติตามสัญญาและเงื่อนไข ไม่ว่าจะเป็นการจำหน่ายสลากเกินราคา มีการเปรียบเทียบปรับตามกฎหมาย รวมถึงการไม่จำหน่ายสลากปลีกด้วยตนเอง แต่นำไปขายต่อให้แพลตฟอร์มเอกชนต่างๆ จะถูกยกเลิกสัญญาตัวแทนจำหน่ายและยกเลิกการเป็นผู้ซื้อจองล่วงหน้า โดยในปี 2565 ได้ถูกยกเลิกสัญญาไปแล้ว 23,689 ราย


นายธนวรรธน์ พลวิชัย กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับการดำเนินการตามโร้ดแมป ระยะที่ 2 ซึ่งเป็นการปรับแผนและทิศทางการจำหน่ายสลากนั้น สำนักงานฯ ได้พัฒนาระบบจำหน่ายสลากฯ โดยจัดให้มีโครงการซื้อ-จอง ล่วงหน้าสลากกินแบ่งรัฐบาล ผ่านธนาคารกรุงไทย ควบคู่ไปกับระบบจำหน่ายผ่านตัวแทนระบบเดิม ทำให้สามารถมีสลากฯ กระจายไปทั่วประเทศ ผู้ค้าสลากฯ เข้าถึงสลากฯ ได้ในราคาทุนโดยตรงไม่ต้องผ่านคนกลางอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ปัจจุบัน มีสลากในระบบซื้อจองล่วงหน้า 50% ของปริมาณสลากทั้งหมดที่พิมพ์ออกจำหน่าย นอกจากนี้ สำนักงานฯ ได้ดำเนินการจำหน่ายสลากดิจิทัล ผ่านแอปเป๋าตัง ผ่านมาแล้วรวม 13 งวด ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายมีการปรับตัวทำให้การจำหน่ายสลากดิจิทัล มีความคล่องตัว ประกอบกับเมื่อถูกรางวัลสามารถเลือกรับเงินรางวัลผ่านการโอนเข้าบัญชีของทุกธนาคารได้ภายใน 2 ชั่วโมง นับเป็นการขึ้นเงินรางวัลที่สะดวก ง่าย ไม่ยุ่งยาก ทำให้กระแสตอบรับดีอย่างต่อเนื่อง จนถึงขณะนี้ ได้มีการเพิ่มปริมาณสลาก โดยในงวด 17 มกราคม 2566 จะมีปริมาณสลาก 17,129,000 ใบ เป็นสลากของตัวแทนจำหน่าย 34,258 ราย ทั้งนี้ ปริมาณสลากเพิ่มขึ้นจากงวดที่ผ่านมา 901,500 ใบ สำนักงานฯ มุ่งมั่นที่จะเพิ่มปริมาณสลากดิจิทัล เพื่อให้เป็นเครื่องมือสำคัญในการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคาอย่างเป็นรูปธรรม เมื่อรวมกับจุดจำหน่ายสลาก 80 ซึ่งเป็นสลากใบ ที่มีการกระจายตัวอยู่ทั่วประเทศอีก 1,047 จุด จำนวนสลากประมาณเกือบสามล้านฉบับ ทำให้ขณะนี้ มีสลากที่จำหน่ายในราคาไม่เกิน 80 บาท ตามราคาที่กำหนดอย่างน้อย 19.5 ล้านฉบับ คิดเป็นเกือบร้อยละ 20 ของปริมาณสลากทั้งหมด 100 ล้านฉบับที่สำนักงานพิมพ์ออกจำหน่าย ทำให้ผู้ซื้อสลากมีทางเลือกในการซื้อสลากในราคา 80 บาท ได้อย่างสะดวก รวดเร็วและกว้างขวาง โดยใช้เทคโนโลยีที่ทุกคนเข้าถึงได้คือ แอปเป๋าตัง และจุดจำหน่ายสลาก 80 บาท โดยสำนักงานฯ สามารถเพิ่มปริมาณสลากได้ตามความต้องการจริงของสังคม

สำหรับการดำเนินการตามโร้ดแมประยะที่ 3 ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนและเป็นธรรมนั้น สำนักงานฯ อยู่ระหว่างดำเนินการออกผลิตภัณฑ์สลากรูปแบบใหม่ ขณะนี้ ได้สรุปผลการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในการออกสลากแบบ N3 และ L6 โดยเฉพาะ N3 จะเป็นทางเลือกใหม่ของประชาชนในการซื้อสลากได้ในราคาตามกฎหมายเพิ่มเติมจากที่สามารถซื้อได้ในระบบสลากดิจิทัลและจุดจำหน่ายสลาก 80 บาท ซึ่งสำนักงานฯ สามารถเพิ่มได้ตามความต้องการของประชาชนอีกทางหนึ่ง และนำเสนอกระทรวงการคลัง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบต่อไป ทั้งนี้ หากคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ สำนักงานฯ สามารถดำเนินการได้ทันที

พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวถึงการตรวจสอบการจำหน่ายสลากของตัวแทนจำหน่ายและผู้ซื้อ-จองฯ ล่วงหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การนำสลากไปจำหน่ายต่อให้กับแพลตฟอร์มเอกชนต่างๆ หรือไม่ได้จำหน่ายด้วยตนเอง ขณะนี้ได้มีการตรวจสอบสลากที่ถูกรางวัลจากการที่นำสลากนั้นมาขึ้นเงินรางวัล หากพบว่าเป็นสลากของตัวแทนจำหน่าย หรือผู้ซื้อจองรายใด จะใช้มาตรการเด็ดขาดในการดำเนินการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มความเข้มข้นในการลงพื้นที่ตรวจสอบการจำหน่ายสลาก รวมถึงการเบิกสลากที่ที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการจำหน่ายสลากของสมาคม องค์กร ให้เป็นไปตามเงื่อนไขหลักเกณฑ์อย่างเคร่งครัด


ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวในตอนท้ายว่า การดำเนินการกับแพลตฟอร์มเอกชนที่จำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาที่กำหนด ไม่ว่าจะรวมค่าบริการเพิ่มเติมหรือไม่ก็ตาม สำนักงานฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ สำนักงานฯ ได้ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ในความผิดฐานขายสลากเกินราคา ปัจจุบันศาลมีคำสั่งระงับการทำให้แพร่หลายฯ (ปิดเว็บไซต์) ไปแล้ว 12 แพลตฟอร์ม กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการอุทธรณ์ โดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม 2 แพลตฟอร์ม และอยู่ระหว่างการไต่สวนของศาล จำนวน 1 ราย ในขณะเดียวกันสำนักงานฯ ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีอย่างต่อเนื่องทุกงวด .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

คุมได้แล้ว! เพลิงไหม้โรงงานผลิตยาง จ.สมุทรสาคร

สมุทรสาคร 7 ก.ค. – คุมได้แล้ว! ไฟไหม้โรงงานผลิตยาง จ.สมุทรสาคร พบต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณท่อส่งน้ำมัน หวั่นอาคารพังถล่ม หลังโหมไหม้รุนแรง ภาพจากมุมสูงจะเห็นอาคารที่เกิดเหตุมีขนาดใหญ่เนื้อที่ราวๆ 3-4 ไร่ ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ของบริษัทประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ทำจากยาง เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถน้ำของ อบต.บ้านเกาะ และพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 20 คัน ฉีดน้ำสกัดเพลิงที่โหมลุกไหม้อย่างรุนแรง ควันสีดำพวยพุ่งขึ้นท้องฟ้า มีเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะ จุดต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณท่อส่งน้ำมันที่ใช้ในกระบวนการผลิตภายในโรงงาน เนื่องจากมีเชื้อเพลิงไวไฟ ประกอบกับภายในมีสินค้าประเภทยางที่ผลิตแล้วเป็นจำนวนมาก ทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็วจนอาคารเริ่มทรุดตัว มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 คน เป็นเจ้าหน้าที่ของโรงงาน 1 คน และเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 1 คน เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ แต่ไฟยังดับไม่สนิท เนื่องจากภายในมีทั้งเครื่องจักรที่ใช้ในกระบวนการผลิต วัตถุดิบไวไฟ และสินค้ายางยืดที่ผลิตเสร็จแล้วจำนวนมาก ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี จึงต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไปเรื่อยๆ พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่ชุดผจญเพลิงนำอุปกรณ์เข้าไปดับไฟด้านใน ทั้งนี้ ต้องเฝ้าระวังความปลอดภัยจากตัวอาคารที่อาจพังถล่มลงมาได้ เนื่องจากถูกไฟลุกไหม้อย่างรุนแรงจนเสียหายเกือบทั้งหมด คนงานเล่าว่าเพลิงลุกที่ท่อส่งน้ำมันที่ส่งไปยังเครื่องจักร ซึ่งใช้ในกระบวนการผลิตสินค้าประเภทยาง แต่ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร […]

หนุ่มวัย 24 สารภาพผลักลูกเลี้ยงหัวฟาดพื้นดับ คุมทำแผนฯ

นนทบุรี 7 ก.ค. – ตำรวจคุมตัวพ่อเลี้ยงโหด ผลักลูกเลี้ยงวัย 2 ขวบ ล้มศีรษะฟาดพื้นเสียชีวิต ทำแผนฯ หลังเค้นสอบกว่า 6 ชั่วโมง จนยอมรับ อ้างโมโหเด็กส่งเสียงดังรบกวน ตำรวจ สภ.บางบัวทอง คุมตัวนายธนวัฒน์ อายุ 24 ปี ทำแผนประกอบคำรับสารภาพทำร้ายร่างกาย “น้องขงเบ้ง” อายุ 2 ขวบ 5 เดือน ลูกเลี้ยง จนเสียชีวิตภายในบ้านพัก ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พร้อมให้การว่า เด็กส่งเสียงดังรบกวนจึงเกิดความโมโหผลักจนล้ม ทำให้บริเวณท้ายทอยกระแทกกับพื้น กระทั่งแน่นิ่งไป เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 18.00-20.00 น. เมื่อวานนี้ (6 ก.ค.) ส่วนบาดแผลรอยจ้ำตามร่างกายและบาดแผลอื่นๆ นายธนวัฒน์ยังไม่รับสารภาพ ต้องรอผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ประกอบอีกครั้ง แม่ของเด็ก อายุ 25 ปี เล่าว่า ตนออกไปทำงานทุกวัน เวลา 4 โมงเย็น […]

“บิ๊กเต่า” เผย “สีกา ก.” ให้ข้อมูลเป็นประโยชน์ เลือกเหยื่อรวย-เข้าถึงง่าย

7 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เรียกประชุมแบ่งภารกิจให้กองใต้สังกัด สืบสวนสอบสวนหาข้อมูลเพิ่ม เผยคืบหน้ากรณี “ทิดอาชว์” และนางสาว ก. เจ้าตัวยอมรับเลือกแต่คนรวย-เข้าถึงง่าย อ้างสำนึกผิด ยอมร่วมมือกับตำรวจ พร้อมจี้สำนักพุทธฯ ทำงานให้มากกว่านี้ เพื่อเรียกศรัทธาวงการสงฆ์กลับมา ความคืบหน้าในประเด็น อดีตพระเทพวชิรปาโมกข์ หรือ ทิดอาชว์ เจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ เจ้าคณะภาค 14-15 สายธรรมยุต มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับนางสาว ก. จนถูกแบล็กเมล์รีดไถ่เงิน 7.3 ล้านบาท ล่าสุดวันนี้ เวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. และ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. ได้เรียกคณะทำงานเข้าประชุมวางแผนการทำงานในกรณีของทิดอาชว์และนางสาว ก. ซึ่งใช้เวลาประมาณกว่า 3 ชั่วโมง โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ได้ออกมาเผยความคืบหน้าว่า วันนี้เป็นการเรียกประชุมกองงานต่าง ๆ เพื่อแบ่งสายงานมอบหมายภารกิจให้แต่ละกองไปสืบสวนสอบสวนหาข้อมูลมาเพิ่มเติม ภายหลังจากที่ทำการสอบสวนนางสาว ก. และได้ข้อมูลมามากพอสมควร […]

Cambodia strongly rejects Thailand’s baseless claim over Ta Krabei Temple

กัมพูชาโต้ไทยอ้างปราสาทตาควายอยู่ในไทย

พนมเปญ 7 ก.ค.- กัมพูชาคัดค้านอย่างหนักว่า ไทยอ้างโดยไร้มูลว่า ปราสาทตาควายอยู่ในดินแดนไทย และตำหนิไทยว่าห้ามชาวกัมพูชาคล้องผ้าขาวม้าขึ้นปราสาทตาควาย เว็บไซตขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานว่า กระทรวงกลาโหมแห่งชาติของกัมพูชาได้ออกแถลงการณ์แสดงความคัดค้านอย่างหนักต่อการกล่าวอ้างอย่างไร้มูลและโอหังของสื่อไทย เจ้าหน้าที่ทหารไทย และพลเรือนชาวไทยบางกลุ่มที่ว่า ปราสาทตาควายตั้งอยู่ในดินแดนอธิปไตยของไทย แถลงการณ์ของกัมพูชาระบุว่า การกล่างอ้างดังกล่าวเป็นการบิดเบือนความจริงอย่างสิ้นเชิง เพราะไทยอ้างแผนที่ฝ่ายเดียวที่ไม่มีคุณค่าทางกฎหมายตามหลักการกฎหมายสากล กัมพูชายืนยันว่า ในทางภูมิศาสตร์แล้วปราสาทตาควายตั้งอยู่ในเทือกเขาดงรัก อำเภอบันเตียอัมปึล จังหวัดอุดรเมียนเจยหรืออุดรมีชัย ซึ่งทั้งหมดอยู่ในดินแดนและอธิปไตยของกัมพูชา โดยเป็นไปตามกฎหมายที่ได้รับการรับรองจากสากล แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมกัมพูชายังระบุว่า ทหารไทยห้ามนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาคล้องผ้ากรอมาหรือผ้าขาวม้าติดธงชาติกัมพูชาขึ้นปราสาทตาควาย แต่กลับอนุญาตให้นักท่องเที่ยวชาวไทยสวมเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับติดธงชาติไทย ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงทวิภาคีที่เคยตกลงกันไว้.-814.-สำนักข่าวไทย