กรุงเทพฯ 19 พ.ค.- เครือข่ายสตรี และองค์กรด้านเด็กและเยาวชน ร้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยหน้าตาพยานและชุดคุ้มครองพยาน ในคดีค้ามนุษย์ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน กระทบสิทธิและสร้างความไม่ปลอดภัย เรียกร้องโอนย้ายคดีให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ รับผิดชอบแทน
นางสาวอังคณา อินทสา หัวหน้า ฝ่ายส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล พร้อมด้วย นายเตชาติ์ มีชัย ผู้ประสานเครือข่ายนักกฎหมายเพื่อเด็กและเยาวชน และตัวแทนเยาวชนกว่า 20 คน เข้ายื่นหนังสือถึง พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร้องเรียนกรณีผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 นำภาพขณะชุดสอบสวนทำการสอบปากคำพยานคดีค้าประเวณีในจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยชื่อหน้าตาของพยาน ผู้ดูแลรับผิดชอบพยาน ให้สื่อมวลชนดู เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ที่กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพกระทรวงยุติธรรม
นางสาวอังคณา มองว่า การกระทำของผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เป็นการละเมิดสิทธิอย่างชัดเจน เพราะตามหลักการนั้น เจ้าหน้าที่จะต้องคุ้มครองพยานไม่ให้ได้รับผลกระทบจากการถูกคุกคามในชุมชน จึงขอให้มีการตรวจสอบหลักเกณฑ์การเปิดเผยชื่อและใบหน้าของพยาน และให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติตระหนักถึงประเด็นการคุ้มครองพยานเป็นสำคัญ พร้อมเรียกร้องให้โอนย้ายคดีนี้ ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอดำเนินคดีต่อ เพื่อสร้างความโปร่งใส เป็นกลาง และความเชื่อมั่นกับทุกฝ่าย
ขณะที่ นายเตชาติ์ ยืนยันว่า ค่อนข้างเชื่อมั่นในการทำหน้าที่ของตำรวจพอสมควร เนื่องจาก มีการดำเนินคดีกับผู้จัดหาไปแล้วส่วนหนึ่ง แต่ในส่วนของผู้สนับสนุนให้มีการค้าประเวณี หรือการค้ามนุษย์ หรือซื้อบริการ ยังต้องติดตามว่า จะสามารถดำเนินคดีได้ถึงบุคคลใด ครอบคลุมทั้งขบวนการหรือไม่
ด้าน พลตำรวจตรีทรงพล วัธนะชัย รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้แทนรับหนังสือ กล่าวว่า จะนำเรื่องเสนอผู้เกี่ยวข้องต่อไป พร้อมให้ความมั่นใจว่า คดีนี้ มีระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงไปกำกับดูแลคดีด้วยตัวเอง ดังนั้น จึงมีการดำเนินคดีอย่างรอบคอบ และจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย.-สำนักข่าวไทย