ไทย-เยอรมนีร่วมพัฒนาอุตสาหกรรม 4.0

กรุงเทพฯ 15 พ.ค. – กระทรวงอุตสาหกรรมดึงเยอรมนี ผู้นำอุตสาหกรรม 4.0 ร่วมเป็นหุ้นส่วนไทย-เยอรมนี ขับเคลื่อนอุตสาหกรรม 4.0 พร้อมตั้งคณะทำงานร่วม 2 ประเทศรูปแบบประชารัฐ



นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวภายหลังร่วมงาน  “Industry 4.0 in Thailand 4.0 : Germany – Thai Partnership for the Industry of Tomorrow ว่า กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอให้ประเทศเยอรมนี ที่เป็นผู้นำอุตสาหกรรม 4.0 เป็นหุ้นส่วนไทย-เยอรมนีขับเคลื่อนอุตสาหกรรม 4.0 เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนห่วงโซ่อุปทานผ่านรูปแบบกลไกประชารัฐ รวมถึงช่วยยกระดับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 เพื่อเอสเอ็มอีจะเป็นเครื่องจักรขับเคลื่อนประเทศไทย 4.0 ในอนาคตต่อไป จากนั้นขยายโอกาสออกไปสู่กลุ่มประเทศ CLMV หรือกัมพูชา ลาว เมียนมาร์และเวียดนามต่อไป ซึ่งไทยเป็นศูนย์กลางมีความเชื่อมโยงและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศเพื่อนบ้านอยู่แล้ว ขณะเดียวกัน กลุ่มประเทศ CLMV ก็จะได้รับประโยชน์จากการพัฒนานี้ด้วยเช่นกัน ด้านภาคเอกชนเยอรมนี ขณะนี้มีการลงทุนในไทยประมาณ 600 บริษัท และมีโอกาสที่จะเข้ามาลงทุนเพิ่มอีก


สำหรับคณะทำงานหุ้นส่วนไทย-เยอรมนีขับเคลื่อนอุตสาหกรรม 4.0 ผ่านกลไกประชารัฐมอบหมายให้นายสมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานคณะทำงาน จะกำหนดกรอบการทำงานเบื้องต้นเสร็จภายใน 2 สัปดาห์นับจากนี้ไป  คณะทำงานฝ่ายไทย ประกอบด้วย กระทรวงอุตสาหกรรม โดยสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) และกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม(กสอ.) และภาคเอกชนผ่านกลไกประชารัฐ  หรือ Public-Private Collaboration ประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ฝ่ายเยอรมันจะมีสถานทูตเยอรมัน บริษัทขนาดใหญ่ที่มีความเชี่ยวชาญอุตสาหกรรม 4.0 เช่น BOSCH SIEMENS และSAP เป็นต้น เข้าร่วมขับเคลื่อนการเป็นหุ้นส่วนครั้งนี้ 

ด้านประเทศไทยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมารัฐบาลเดินหน้าปรับเปลี่ยนประเทศตามนโยบาย  Thailand 4.0 โดยมีการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานทั้งในส่วนที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพ เช่น ลงทุนโครงข่ายอินเทอร์เน็ต 76,000 หมู่บ้าน ทำให้ประชาชนทั่วประเทศสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตราคาถูกใน 2 ปีข้างหน้าและโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ เช่น การปรับเปลี่ยนและออกกฎหมายใหม่เพื่อรองรับแล้ว รวมถึงมีชุดมาตรการส่งเสริมการลงทุนที่รองรับกับอุตสาหกรรมใหม่ โดยมี 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย เรียกว่า S-Curve แบ่งเป็น 5 อุตสาหกรรมเดิม และ 5 อุตสาหกรรมใหม่ ดังนั้น ปีนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่จะลงมือปฏิบัติอย่างเป็นระบบและสำคัญที่สุด คือ การสร้างความเป็นหุ้นส่วนเศรษฐกิจระหว่างประเทศ  

นายอุตตม กล่าวว่า ประเทศเยอรมนีได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำอุตสาหกรรม 4.0 วิสาหกิจเยอรมนีและทรัพยากรมนุษย์ มีการพัฒนาอย่างมากเป็นที่ชื่นชมถึงความเป็นเลิศและการมีนวัตกรรม ซึ่งการที่ประเทศไทยจะปรับเปลี่ยนสู่ Thailand 4.0 จึงสามารถที่จะเรียนรู้จากประเทศเยอรมนีได้ เพื่อเข้าสู่เป้าประสงค์ได้เร็วขึ้นและความเป็นหุ้นส่วนจะไม่ใช่เฉพาะเยอรมนีมาประเทศไทยเท่านั้น แต่สามารถนำเอาความสนใจร่วมกันแบ่งปันปรับห่วงโซ่อุปทานและใช้โอกาสที่ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ขณะนี้มีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงก็จะช่วยทำให้สามารถเข้าถึงโอกาสใหม่ ๆ ได้


ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ประเด็นการพัฒนาสู่อุตสาหกรรม 4.0 นั้น มีความซับซ้อน ครอบคลุมประเด็นที่หลากหลายทั้งด้านเทคโนโลยี มาตรฐาน การพัฒนากำลังแรงงาน โครงสร้างพื้นฐาน และกฎหมายกฎระเบียบ จำเป็นต้องมีความเชื่อมโยงกับหลายภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ซึ่งจะต้องทำงานร่วมกันเชิงบูรณาการ โดยกระทรวงอุตสาหกรรมมีแนวคิดในการพัฒนาแพลตฟอร์มอุตสาหกรรม 4.0 (Industry 4.0 Platform) เพื่อเป็นกลไกกลางในการทำงานร่วมกันระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งด้านการกำหนดนโยบายและขับเคลื่อนการดำเนินงาน ทั้งนี้ ปัจจุบันหน่วยงานต่าง ๆ ภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรมมีการสนับสนุนเอสเอ็มอีให้ปรับตัวเพื่อมุ่งสู่อุตสาหกรรม 4.0 อาทิ สถาบันไทย-เยอรมัน สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ล่าสุด กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมร่วมกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กำลังจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมงานวิจัยสู่อุตสาหกรรมในอนาคต (Industry Transformation Center) เป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงงานวิจัยไปสู่ภาคอุตสาหกรรม สนับสนุนผู้ประกอบการโดยเฉพาะผู้ประกอบการที่มีนวัตกรรม หรือ startups ในการปรับตัวสู่อุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งได้นำแนวคิดหลักการพัฒนา Industry 4.0 ที่มีประสิทธิภาพของเยอรมัน อาทิ Technische Universitaet Darmstadt (TU Darmstadt) และ Karlsruhe Institute of Technology (KIT) รวมถึง Fraunhofer Institute for Industrial Engineering IAO มาประยุกต์ใช้ด้วย

รศ.นพ.สรนิต ศิลธรรม ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวเสริมว่า กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีริเริ่มโครงการที่สนับสนุนนโยบายไทยแลนด์ 4.0 เช่น เมืองนวัตกรรมอาหาร (Food Innopolis) เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor of Innovation: EECi) และอยู่ระหว่างจัดทำยุทธศาสตร์การวิจัยและนวัตกรรม ซึ่งจะเป็นโรดแมปของการพัฒนาแพลตฟอร์มเทคโนโลยีสนับสนุนอุตสาหกรรมเป้าหมาย (new S curves) ในส่วนของอุตสาหกรรม 4.0 กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเห็นว่าเป็นโอกาสของภาคการผลิตในการเพิ่มประสิทธิภาพ และปรับวิถีการผลิตจาก mass production สู่การผลิตสินค้ามูลค่าเพิ่มสูงที่มีรูปแบบเฉพาะตัว (mass customization) ซึ่งทางกระทรวงฯ มีความพร้อมทางด้านบุคลากร ห้องปฏิบัติการเฉพาะทาง และเทคโนโลยีที่พร้อมร่วมมือกับผู้ประกอบการในการปรับเปลี่ยนสู่อุตสาหกรรม 4.0 นอกจากนี้ ยังมีกลไกที่สามารถนำมาต่อยอดสนับสนุนแพลตฟอร์มอุตสาหกรรม 4.0 ได้ เช่น โปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม (iTAP) โครงการ Talent Mobility สนับสนุนนักวิจัยเข้าไปช่วยภาคอุตสาหกรรมในการทำวิจัยและนวัตกรรมและโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคุณภาพและการมาตรฐาน เป็นต้น

นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า อุตสาหกรรม 4.0 ถือเป็นเสาหลักในการขับเคลื่อนไทยแลนด์ 4.0 ผลักดันให้เกิดการใช้แรงงานที่มีอยู่อย่างจำกัดให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ผลิตสินค้าที่มีมูลค่าสูง และใช้ทรัพยากรได้คุ้มค่ามากขึ้น สำหรับการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม 4.0 ของ ส.อ.ท.ได้ทำการสำรวจสถานะอุตสาหกรรมไทย และพบว่าประมาณร้อยละ  70 ยังอยู่ในระดับอุตสาหกรรม 2.0-2.5 ส.อ.ท.จึงกำหนดเป้าหมายเบื้องต้นในการสร้างความตระหนัก โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมุ่งเน้นการพัฒนาบุคลากร 3 กลุ่ม ได้แก่ คือ กลุ่มผู้ผลิตเครื่องจักรกลที่จะช่วยยกระดับจากอุตสาหกรรม 2.0-2.5 ไปเป็นอุตสาหกรรม 3.0 กลุ่ม System Integrator ที่จะนำกลไกต่าง ๆ มาเชื่อมโยงให้เป็นระบบ และกลุ่มผู้ดูแลรักษาระบบให้มีประสิทธิภาพ หลังจากนั้นจึงจะพัฒนาต่อเนื่องไปสู่ระดับอุตสาหกรรม 4.0 และได้ย้ำว่าอุตสาหกรรม 4.0 ไม่ใช่สิ่งเดียวกับไทยแลนด์ 4.0 แต่เป็นการผลิตที่ยกระดับด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ที่จะทำให้เครื่องจักรต่าง ๆ สามารถเชื่อมโยงการทำงานเป็นระบบ มีการสื่อสารระหว่างกัน รวมถึงมีการผลิตด้วยความเร็วสูงและมีความยืดหยุ่น เกิดนวัตกรรมของบริการและสินค้าใหม่ ๆ สิ่งที่ตามมาคือการพัฒนาทางเศรษฐกิจของประเทศ ส่งผลให้ประเทศไทยก้าวพ้นกับดักรายได้ปานกลาง. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

เสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก”

17 ก.ค. – หลายหน่วยงานรวมพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในงานเสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก” โดย บมจ.อสมท นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานสัมมนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” ยอมรับว่า นับว่าปัญหาเศรษฐกิจโลกกระทบมายังไทย จากภาษีศุลกากรของสหรัฐกระทบมายังประชาชน ผู้ผลิต เอสเอ็มอีรายย่อย ความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน ประชาชน จึงต้องร่วมมือกันปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” โดยได้จัดเวทีใหญ่ให้ผู้กำหนดนโยบายและทิศทางของประเทศ และภาคเอกชน มาร่วมแสดงความเห็น ด้านเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในหัวข้อ เกาะติดมาตรการกระทรวงการเงินการคลัง พลิกฟื้นกำลังซื้อในประเทศ และแนวโน้มเศรษฐกิจ และสงครามการค้า ภาษีนำเข้าของสหรัฐ ว่าทีมไทยแลนด์ นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง กำหนดเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐช่วงค่ำวันนี้ ต้องชั่งน้ำหนัก ทั้ง 2 มิติ คือ ผลกระทบที่ผู้ส่งออก และผู้ผลิตในประเทศทั้งภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกร รัฐบาลไม่มอง เพียงจะเจรจาภาษีได้เท่าไหร่ ยอมรับไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ แต่จะสานประโยชน์ให้ตกกับทุกฝ่าย […]

ทบ. เร่งตรวจสอบวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด” คาดผลชัด 2-3 วัน

17 ก.ค.- โฆษก ทบ. แจงเร่งตรวจสอบเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดชายแดนช่องบก คาดใช้เวลา 2-3 วัน ชัดเจนเรื่องชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ยังไม่ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังได้รับทราบรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ค.68) เกิดเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ปัจจุบันทุกนายอาการปลอดภัยอยู่ในระหว่างการพักสังเกตอาการที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดดังกล่าวนั้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน มาดำเนินการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ตามที่สังคมได้ให้ข้อสังเกตว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางขึ้นใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่การสู้รบเดิม ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบก ยังได้กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยในพื้นที่ชายแดน จะได้มีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมว่า ทางกัมพูชาได้มีการนำทุ่นระเบิดมาใช้ในพื้นที่หรือไม่ เพราะในปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชา ได้ให้สัตยาบันในการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2542.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิด

17 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิดขาขาด เลื่อนยศ “สิบเอก” รับบำนาญเกือบ 30,000 บาท/เดือน เงินช่วยเหลือกว่า 1 ล้านบาท บรรจุทายาทรับราชการ เมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้ฝ่ายกำลังพลกองทัพภาคที่ 2 ได้ตรวจสอบสิทธิของข้าราชการทหารในการปฏิบัติราชการสนาม และให้ดำเนินการปูนบำเหน็จแก่พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน สูงสุด เพราะ เป็นการปฏิบัติภารกิจเพื่อปกป้องอธิปไตยในการ ออกลาดตระเวนและเหยียบกับระเบิดที่เนิน 481 วานนี้ โดย ได้รับการปูนบำเหน็จ เลื่อนชั้นเป็นสิบเอก (ส.อ.) หลังจากรักษาตัวแล้วเสร็จ ปลดเหตุสูญเสียฯจากการรบ ได้รับบำนาญเดือนละ 15,600 บาท ซึ่งเมื่อรวม เงินรายเดือน จากหน่วยงาน/องค์กรต่าง ๆ แล้ว คาดว่าจะได้รับเงิน รวม 29,800 บาท/เดือน (โดยประมาณ) […]