เงินบาทอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 7 สัปดาห์

กรุงเทพฯ 13 พ.ค.- เงินบาทอ่อนค่าเหตุหวั่น FOMC ขึ้นดอกเบี้ยมิ.ย.นี้ ตลาดหุ้นกลุ่มนักลงทุนสถาบันขาย ดัชนีราคาหุ้นทำสถิติต่ำสุดในรอบ 2


บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด รายงานภาพรวมเงินบาทสัปดาห์นี้ว่า เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 7 สัปดาห์ที่ 34.82 บาทต่อดอลลาร์ฯ ก่อนฟื้นตัวกลับมาบางส่วนช่วงปลายสัปดาห์ โดยการอ่อนค่าของเงินบาทระหว่างสัปดาห์ สอดคล้องกับทิศทางของเงินเยนและสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ ได้รับแรงหนุนอย่างแข็งแกร่งท่ามกลางกระแสการคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในการประชุม FOMC เดือนมิ.ย. นี้  อย่างไรก็ดี เงินบาทดีดตัวกลับมาแข็งค่าขึ้นได้เล็กน้อยในช่วงปลายสัปดาห์ ตามการปรับโพสิชันของนักลงทุน และน่าจะมีแรงขายเงินดอลลาร์ฯ บางส่วนจากฝั่งผู้ส่งออก  ในวันศุกร์ (12 พ.ค.) เงินบาทอยู่ที่ 34.71 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับ 34.66 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (5 พ.ค.)

สัปดาห์ถัดไป (15-19 พ.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 34.60-34.90 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยตลาดในประเทศน่าจะรอจับตาตัวเลขจีดีพีประจำไตรมาส 1/2560 ของไทย ขณะที่ ประเด็นที่น่าสนใจของสหรัฐฯ น่าจะยังคงอยู่ที่ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ผลสำรวจกิจกรรมการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์ก และเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเดือนพ.ค. ข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรม การเริ่มสร้างบ้าน และการอนุญาตก่อสร้างเดือนเม.ย. และข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิเดือนมี.ค. นอกจากนี้ ตลาดน่าจะติดตามสถานการณ์การเมืองในสหรัฐฯ ตัวเลขยอดค้าปลีกและการผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีน รวมถึงตัวเลขเงินเฟ้อและจีดีพีของยูโรโซนด้วยเช่นกัน


ด้านตลาดหุ้นไทย ดัชนีหุ้นไทยปรับลดลงตามแรงขายของกลุ่มนักลงทุนสถาบัน โดยดัชนี SET ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 2 เดือนที่ 1,537.43 ก่อนจะปิดตลาดที่ระดับ 1,543.94 จุด ลดลง 1.60% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 30.86% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 46,941.23 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ปิดที่ 555.73 จุด ลดลง 4.94% จากสัปดาห์ก่อน

ดัชนี SET ลดลงตลอดทั้งสัปดาห์ ท่ามกลางแรงกดดันจากผลประกอบการไตรมาส 1/2560 ของหลายบริษัทจดทะเบียน (ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็ก) ที่ออกมาต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ประกอบกับมีแรงขายทางเทคนิค และตลาดยังขาดปัจจัยบวกใหม่ๆ มากระตุ้น

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (15-19 พ.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,530 และ 1,515 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,555 และ 1,565 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/2560 ของไทย ปัจจัยการเมืองในสหรัฐฯ และ ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขตลาดที่อยู่อาศัย ข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ ยอดค้าปลีกของจีน รวมถึงตัวเลขเงินเฟ้อและจีดีพีของยูโรโซน -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

K9 หยุดปฏิบัติภารกิจค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.ถล่ม

K9 หยุดปฏิบัติภารกิจค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.ถล่ม เพราะปฏิบัติหน้าที่ครบ 10 วันแล้ว เป็นปกติของการทำงาน หากปฏิบัติภารกิจต่ออาจจะทำให้บาดเจ็บได้ และการกู้ภัยที่เหลือตอนนี้จำเป็นต้องใช้เครื่องจักรใหญ่เท่านั้น