เร่งเก็บหลักฐานหาเบาะแสไล่ล่าคนร้ายระเบิดบิ๊กซีปัตตานี

ปัตตานี 10 พ.ค. – ทีมข่าวสำนักข่าวไทย อสมท ยังคงเกาะติดเหตุคาร์บอมบ์หน้าห้างบิ๊กซี จ.ปัตตานี เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด และเก็บพยานหลักฐานเพิ่มเติมบริเวณเกิดเหตุ เพื่อใช้เป็นเบาะแสติดตามไล่ล่าคนร้าย 



กล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ภายในป้อมตรวจพนักงานรักษาความปลอดภัยห้างบิ๊กซี สาขาปัตตานี เผยภาพขณะผู้ก่อเหตุขับรถกระบะประกอบระเบิดคาร์บอมบ์เข้ามาภายในห้างฯ ยื่นบัตรประชาชนของนายนุสน ขจรคำ ให้พนักงานรักษาความปลอดภัย ซึ่งเป็นบัตรของเจ้าของรถที่ถูกดักปล้นมา ก่อนคนร้ายจะขับรถวนมาจอดบริเวณหน้าประตู ใกล้ป้อมตรวจ รปภ. แล้วคนร้าย 2 คน ก็ลงจากรถเดินหลบหนีไป ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามคนร้าย โดยการแกะรอยจากภาพวงจรปิดทั้งหมด พร้อมทั้งพยายามค้นหาตัวนายนุสน ขจรคำ เจ้าของรถ ซึ่งขณะนี้ยังติดต่อไม่ได้ และยังไม่ทราบชะตากรรม


นายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เดินทางไปยังโรงพยาบาลปัตตานี เพื่อเข้าเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุคาร์บอมบ์ โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 69 คน อาการปลอดภัยกลับบ้านได้แล้ว 45 คน ส่วนอีก 24 คน ยังต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี ในจำนวนนี้มีผู้บาดเจ็บสาหัส 3 คน ซึ่งทางจังหวัดได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาเบื้องต้นแก่ผู้บาดเจ็บ รายละ 10,000 บาท ส่วนผู้บาดเจ็บสาหัสมอบเงินช่วยเหลือเยียวยารายละ 30,000 บาท พร้อมจัดทีมแพทย์เยียวยาสภาพจิตใจของผู้ได้รับบาดเจ็บด้วย


ส่วนที่ห้างบิ๊กซี สาขาปัตตานี วันนี้ (10 พ.ค.) ทางจังหวัดร่วมกับห้างบิ๊กซี เปิดศูนย์ช่วยเหลือเยียวยา โดยตั้งโต๊ะให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบมาลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือ ซึ่งมีประชาชนทยอยเดินทางมาแจ้งขอรับความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง โดยทางจังหวัดแบ่งประเภททรัพย์สินเป็น 2 ส่วน คือ อาคารร้านค้า และยานพาหนะ เบื้องต้นมีร้านค้าเสียหายหนัก 3 ร้าน มีรถจักรยานยนต์เสียหายกว่า 60 คัน และรถยนต์กว่า 20 คัน ส่วนมูลค่าความเสียหายทั้งหมดยังประเมินไม่ได้ ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี มองว่า เหตุครั้งนี้กระทบต่อความเชื่อมั่นการลงทุนและเศรษฐกิจในพื้นที่ แต่ไม่ถึงกับชะงัก 

ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด พร้อมชุดพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจหาวัตถุพยานหลักฐานเพิ่มเติมที่จุดเกิดเหตุ จากการตรวจสอบจุดระเบิดจุดแรกบริเวณทางเข้าห้างฯ พบเศษวัสดุส่วนประกอบเป็นจุดระเบิดแบบตั้งเวลา และจุดที่ 2 เป็นระเบิดคาร์บอมบ์ พบเศษถังแก๊สสีเขียวใช้ภายในบ้าน น้ำหนักบรรจุระเบิดประมาณ 80 กิโลกรัม และเศษถังแก๊สปิกนิกบรรจุระเบิด น้ำหนักประมาณ 30 กิโลกรัม โดยพบเศษวัตถุจุดชนวนระเบิด 2 ระบบ คือ ระบบวิทยุสื่อสารและระบบตั้งเวลา จึงเก็บรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด เพื่อนำไปพิสูจน์ทราบอีกครั้ง. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ชายวัย 50 ไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องเมียท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากตึก สตง.

ชายวัย 50 ปี ยกมือไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องภรรยาท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากอาคาร สตง.ถล่ม ด้านรอง ผบช.น. เตือนอย่าใช้โอกาสที่มีผู้ประสบเหตุสร้างความสงสารหลอกเอาทรัพย์สิน มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ข่าวแนะนำ

ตึกถล่ม

วันที่ 6 ปรับแผนใช้เครนยักษ์ยกปูนค้นหา 72 ชีวิต

เข้าสู่วันที่ 6 ทีมงานกู้ซากตึกถล่ม ปรับแผนค้นหา 72 ชีวิต ด้านญาติผู้สูญหายยังคงรอความหวัง บางส่วนจุดธูปปักลงดิน ขอแม่ธรณีเปิดทางช่วยทุกคนรอดชีวิต

นายกฯ เยี่ยมญาติตึกถล่ม

นายกฯ เยี่ยมให้กำลังใจญาติผู้ประสบภัยตึกถล่มที่ศูนย์พักคอย

นายกฯ เข้าเยี่ยมให้กำลังใจญาติผู้ประสบภัยตึกถล่มที่ศูนย์พักคอย “ขอให้ดูแลตัวเอง อย่าพึ่งป่วย”

กิจการร่วมค้าซีไอเอส

สั่งฟัน “กิจการร่วมค้าซีไอเอส” จ่อยกเลิกสัญญาจ้างสร้างเทอร์มินัลใหม่

“มนพร” รมช.คมนาคม สั่งฟัน “กิจการร่วมค้าซีไอเอส” เตรียมยกเลิกสัญญาจ้างสร้างเทอร์มินัลใหม่ “สนามบินนราธิวาส” พร้อมขึ้นแบล็คลิสต์เป็นผู้ทิ้งงาน ห้ามรับงานภาครัฐ หลังพบสร้างช้ากว่าแผน 60.76% งานอืดรวม 631 วัน มอบ ทย. ลุยตรวจสอบวัสดุอุปกรณ์ จี้ให้รายงานกลับมาภายใน 3 วัน ยันทุกโปรเจกต์ต้องผ่านมาตรฐาน-การตรวจเช็กจากวิศวกร

จำคุกชาวจีน

ศาลสั่งจำคุก 4 ชาวจีน ขนเอกสาร ตึก สตง.ถล่ม

ศาลพิพากษาจำคุก 4 ชาวจีน เข้าไปขนเอกสาร จากพื้นที่ อาคาร สตง. ถล่ม คนละ 2 เดือน ปรับ 6,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี