ตลาดจับตาถ้อยแถลงเฟด-การเมืองยุโรป

กรุงเทพฯ  7 พ .ค. – เงินบาทกลับมาอ่อนค่าปลายสัปดาห์ ขณะที่หุ้นไทยขยับขึ้นเล็กน้อย จับตาถ้อยแถลงเฟด-การเมืองยุโรป บล.กสิกรไทยมองแนวรับ 1,535-1,555 จุด


ธนาคารกสิกรไทย จำกัด รายงานว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา (2-5 พ.ค.) เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 3 สัปดาห์ โดยเงินบาทขยับแข็งค่าขึ้นในช่วงแรก สอดคล้องกับสถานะซื้อสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ ก่อนจะทยอยลดช่วงบวกลง และอ่อนค่ากลับมาทดสอบระดับ 34.65 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐช่วงปลายสัปดาห์  สอดคล้องกับแรงขายสุทธิหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติ การอ่อนค่าของสกุลเงินเอเชียและราคาน้ำมันในตลาดโลก ประกอบกับเงินดอลลาร์ฯ  ก็มีแรงหนุนจากกระแสการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะมีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุม FOMC เดือนมิถุนายนนี้  สำหรับวันศุกร์ที่ 5 พฤษภาคม เงินบาทอยู่ที่ 34.66 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ  เทียบกับ 34.58 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในวันศุกร์ที่ 28 เมษายน  


สำหรับสัปดาห์หน้า (8-12 พ.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 34.45-34.75 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยจุดสนใจของนักลงทุนช่วงต้นสัปดาห์น่าจะอยู่ที่การตอบรับของตลาดต่อตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ และผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบ 2 ของฝรั่งเศส ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญ ได้แก่ ยอดค้าปลีก ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนเมษายนและดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (เบื้องต้น) เดือนพฤษภาคม นอกจากนี้ ตลาดน่าจะมีจุดสนใจเพิ่มระหว่างสัปดาห์ที่ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ และตัวเลขเศรษฐกิจเดือนเมษายนของจีน     

ส่วนความเคลื่อนไหวดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา (2-5 พ.ค.) ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยตามแรงซื้อของกลุ่มนักลงทุนสถาบัน โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,569.02 จุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.17 จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลงร้อยละ 12.96 จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 35,871.60 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 584.63 จุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.24 จากสัปดาห์ก่อน  

สำหรับสัปดาห์หน้า (8-12 พ.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่าดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,555  และ 1,535 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,575 และ 1,585 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด และปัจจัยการเมืองในยุโรป หลังการเลือกตั้งในฝรั่งเศส ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญ ได้แก่ ยอดค้าปลีก และดัชนีราคาผู้บริโภค ส่วนปัจจัยต่างประเทศอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่ เครื่องชี้ภาคการผลิตในยูโรโซน และตัวเลขเศรษฐกิจจีน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง