กทม.3 พ.ค.- ผบช.สตม.และรองโฆษก ตร.ประสานเสียง ยังไม่ได้รับรายงานกลุ่มไอเอสหนีการจับของมาเลย์เข้าไทยทางชายแดนใต้ สั่งตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะรองโฆษก
พลตำรวจโทณัฐธร เพราะสุนทร ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยหลังมีข่าว ทางการมาเลเซียจับผู้ต้องสงสัยในขบวนการของกลุ่มไอเอส และมีหลบหนีเข้ามาอยู่แถบชายแดนภาคใต้คือนายมูฮัมหมัด มูซัฟฟา อารีฟ บิน จูไนดี พร้อมอาวุธปืน 3 กระบอก ว่า ยังไม่ได้รับรายงานว่าบุคคลดังกล่าวเข้าประเทศผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองต่างๆ หากเป็นการเข้ามาพร้อมอาวุธก็ไม่สามารถผ่านเข้ามา แต่ได้สั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ พร้อมประสานขอข้อมูลจากทางการมาเลเซียเพื่อหาข้อเท็จจริง
พันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ทราบว่าตำรวจมาเลเซียมีปฏิบัติการจับกุมกลุ่มก่อความไม่สงบในประเทศมาเลเซีย แต่เรื่องผู้ต้องสงสัยหนีเข้าประเทศไทยหรือไม่ ยังไม่ได้รับรายงาน แต่เราไม่ประมาท ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติสั่งการให้ตำรวจสันติบาลร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ สืบสวนแลกเปลี่ยนข้อมูลการข่าวอย่างใกล้ชิด เพื่อเฝ้าระวังกลุ่มก่อการร้ายดังกล่าว แม้จะไม่ใช่ประเทศคู่ขัดแย้ง ข่าวการจับกุมมาจากสำนักข่าวแชนแนลนิวส์เอเชีย ซึ่งรายงานว่า ทางการมาเลเซียจับกุมผู้ต้องสงสัยมีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมของกลุ่มก่อการร้ายไอเอส ได้ 6 คน ตั้งแต่ 24 มีนาคม-25 เมษายนที่ผ่านมา ทั้งหมดเป็นชาวมาเลเซีย โดยเป็นชาย 4 หญิง 2 คน ชาย 2 คนแรก อายุ 26 และ 41 ปี ถูกจับที่รัฐกลันตัน ข้อหาลักลอบค้าอาวุธจากชายแดนไทยเข้าไปยังมาเลเซีย และหนึ่งในผู้ถูกจับกุมเป็นผู้พยายามวางแผนก่อวินาศกรรมมัสยิดของชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ ในปีนัง นอกจากนี้ ยังมีผู้ต้องสงสัยไอเอส อีก 1 คนคือนายมูฮัมหมัด มูซัฟฟา อารีฟ บิน จูไนดี อายุ 27 ปี หลบหนีการจับกุมไปได้โดยการหนีเข้าชายแดนภาคใต้ของไทย พร้อมกับอาวุธปืนสั้น 1 กระบอก และปืนอาวุธปืนสงครามอีก 2 กระบอก.-สำนักข่าวไทย