เอ็นโก้บี 7 พ.ย. – นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ) แถลงว่าที่ประชุม คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มี พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานเห็นชอบราคาดังกล่าว แม้ราคาตลาดโลกจะขยับขึ้น 58 เหรียญต่อตัน เป็น 410 เหรียญต่อตัน ประกอบกับอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยเดือนตุลาคม 2559 อ่อนค่าลงจากเดือนก่อน 0.3167 บาท/เหรียญสหรัฐ มาอยู่ที่ 35.2181 บาท/เหรียญสหรัฐ ส่งผลให้ราคาต้นทุนเฉลี่ยการจัดหาก๊าซ LPG ทั้งระบบ ซึ่งเป็นราคาซื้อตั้งต้นของก๊าซ LPG (LPG Pool) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.6521 บาท/กก. จาก 12.9979 บาท/กก. เป็น 13.6500 บาท/กก.
“ราคานำเข้าและราคาหน้าโรงกลั่นขยับขึ้น ส่วนราคาหน้าโรงแยกก๊าซธรรมชาติขยับลงเล็กน้อย โดยต้นทุนราคาที่ขยับขึ้น กบง.ให้นำเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมาชดเชย ส่งผลให้กองทุนไหลออกชดเชยประมาณ 0.3310 บาท / กก.” นายทวารัฐ กล่าว
ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้กระทบต่อราคาขายปลีกก๊าซ LPG ในประเทศ ดังนั้น ที่ประชุม กบง.จึงเห็นควรให้คงราคาขายปลีกก๊าซ LPG เดือนพฤศจิกายน 2559 ไว้ที่ 20.29 บาท/กก. โดยให้กองทุนน้ำมันฯ รับภาระชดเชย 0.6521 บาท/กก. จากเดิมเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ที่ 0.3211 บาท/กก. เป็นกองทุนน้ำมันฯ ชดเชยที่ 0.3310 บาท/กก. ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2559 เป็นต้นไป
จากการปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ดังกล่าว ส่งผลทำให้กองทุนน้ำมันฯ ในส่วนของก๊าซ LPG มีรายจ่ายประมาณ 98 ล้านบาท/เดือน โดยฐานะสุทธิของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 6 พฤศจิกายน 2559 อยู่ที่ 41,607 ล้านบาท แบ่งเป็น 1.ในส่วนของบัญชีก๊าซ LPG อยู่ที่ 7,595 ล้านบาท และ 2.ในส่วนของบัญชีน้ำมันสำเร็จรูปอยู่ที่ 34,012 ล้านบาท. -สำนักข่าวไทย