ไทย-ฮ่องกงจับมือเป็นฮับการค้าเอเชีย

ฮ่องกง  28 เม.ย. – “สมคิด” พบผู้บริหารฮ่องกง เสนอเป็นพันธมิตรยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเชิงลึก ดัน 2 ประเทศเป็นจุดศูนย์กลางการค้าการลงทุนของเอเชีย โดยให้ใช้ไทยเป็นประตูอาเซียน ส่วนฮ่องกงเป็นหัวหอกให้นักลงทุนขยายธุรกิจไปต่างประเทศ พร้อมขอให้ตั้งสำนักงานการค้าในไทยใช้ไทยเป็นฐานเชื่อมโยงทำงานระดับรัฐบาล


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้เดินทางเข้าพบนายซี วาย เลิง ผู้บริหารสูงสุดเขตปกครองพิเศษฮ่องกง เพื่อเสนอให้ฮ่องกงและไทยร่วมมือกันเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจเชิงลึก ด้วยการหารือแบบทวิภาคีสานความร่วมมือระหว่างกัน โดยตั้งเป้าหมายให้ทั้ง 2 ประเทศก้าวเป็นศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจของเอเชีย โดยไทยพร้อมเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงการค้าการลงทุนในอาเซียน และซีแอลเอ็มวี ส่วนฮ่องกงก็เป็นหัวหอกหลักของนักลงทุนจากจีนที่จะเดินทางออกไปลงทุน

ขณะเดียวกันยังเสนอให้ฮ่องกงพิจารณาจัดตั้งสำนักงานเศรษฐกิจและการค้าฮ่องกง (เอชเคอีทีโอ) ขึ้นที่กรุงเทพฯ หลังจากที่ผ่านมามีองค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง หรือเอชเคทีดีซี มีสำนักงานตั้งอยู่ที่กรุงเทพฯ แล้ว เพราะตอนนี้ฮ่องกงกำลังพิจารณาขยายสำนักงานดังกล่าวเพิ่มอีก 4-5 แห่งทั่วโลก หลังจากตั้งไปแล้วที่สิงคโปร์และอินโดนีเซีย หากฮ่องกงเข้ามาจัดตั้งสำนักงานดังกล่าวในไทยจะทำให้ฮ่องกงใช้ไทยเป็นฐานเชื่อมโยงการทำงานร่วมกันระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาล พร้อมจัดตั้งคณะกรรมการร่วมจัดทำยุทธศาสตร์การค้าระยะยาว โดยที่ไม่ใช่การค้าแบบรายสินค้าเหมือนในอดีต


ทั้งนี้ ในการหารือดังกล่าวนายซี วาย เลิง ยังได้เสนอแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาเขตสามเหลี่ยมเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำจูเจียง ซึ่งเป็นหนึ่งในเขตเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศจีน ประกอบด้วย 9 มณฑลและ 2 เขตบริหารพิเศษ ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 1 ใน 5 ของประเทศจีนทางตอนใต้ รวมถึงเขตปกครองพิเศษฮ่องกงด้วย โดยทางจีนกำลังผลักดันแผนดังกล่าวเพื่อใช้เป็นตัวเชื่อมต่อกับอาเซียน ด้วยการจัดทำข้อตกลงเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ฮ่องกง-อาเซียน หากแผนดังกล่าวสามารถผลักดันออกมาได้แล้ว และฮ่องกงใช้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้าการลงทุน เชื่อว่าจะเกิดประโยชน์กับ 2 ประเทศอย่างมาก

นายสมคิด ระบุว่า เหตุผลที่ว่าทำไมถึงต้องมาฮ่องกง เป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญมาก เพราะตอนนี้ฮ่องกงไม่ใช่แค่ประตูการค้าและการลงทุนสำหรับจีนแผ่นดินใหญ่ แต่เป็นเพราะนโยบายวันเบลท์วันโรดของจีน ที่ต้องการผลักนักลงทุนจีนไปประเทศต่าง ๆ ที่เป็นจุดสำคัญของนโยบายนี้ ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ ประเทศไทย แต่เดิมจีนใช้นโยบายผลักดันจากปักกิ่งโดยตรง แต่กฎหมายกฎระเบียบมีความยืดหยุ่นน้อย จึงได้ใช้ฮ่องกงเป็นฐานแทน เพราะกฎระเบียบต่าง ๆ ที่มีความยืดหยุ่น ทำให้บริษัทจากจีนแผ่นดินใหญ่เข้ามาจดทะเบียนในฮ่องกงมาก จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมตัวเลขการลงทุนของไทยที่ผ่านมามีนักลงทุนของฮ่องกงมาเป็นอันดับที่ 2 ดังนั้น การเดินทางมาโรดโชว์ครั้งนี้จึงเป็นจุดสำคัญที่จะต้องสร้างความร่วมมือกันให้เกิดขึ้น


นายสมคิด กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้มีโอกาสหารือกับนางแครี่ แลม ว่าที่ผู้บริหารสูงสุดเขตปกครองพิเศษฮ่องกงคนใหม่ที่กำลังจะเข้ามารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในอีก 2 เดือนจากนี้ ไทยถือเป็นประเทศแรกที่เดินทางเข้ามาพบนางแครี่ แลม เพื่อชี้แจงนโยบายของไทยที่กำลังอยู่ในช่วงของการปฏิรูปด้านต่าง ๆ และต้องการดึงนักลงทุนจากฮ่องกงเข้าไปลงทุนในประเทศไทย จึงได้เสนอแนวคิดการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างกัน รวมถึงเสนอให้จัดตั้งสำนักงานเศรษฐกิจและการค้าขึ้นมาที่ประเทศไทย เพื่อให้นางแครี่ แลม รับทราบแนวทางความร่วมมือด้านต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และจะได้มีข้อมูลในการตัดตัดสินใจหลังรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” ยันไทยทำถูกต้องปมรั้วลวดหนามบ้านหนองจาน

ทำเนียบ 26 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ยันกรณีล้อมรั้วลวดหนาม พื้นที่บ้านหนองจาน ไทยทำถูกต้องภายใต้ข้อตกลงหยุดยิง บอกโฆษก ทบ. แจงรายละเอียด นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กัมพูชาใช้มวลชนมากดดัน เพื่อให้ไทยรื้อลวดหนามบริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว รัฐบาลจะมีแนวทางอย่างไร ว่า พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงแล้ว ก็เป็นไปตามนั้น ส่วนจะมีการเพิ่มมาตรการอะไรหรือไม่ นายภูมิธรรม ย้ำว่าเป็นไปตามที่โฆษกกองทัพบกได้ชี้แจงไปแล้ว เพราะเรื่องนี้เป็นปัญหาที่ยังกระทบกันอยู่ ก็แก้ไขปัญหาไปตามสภาพการณ์ เรายืนยันว่าสิ่งที่เราทำถูกต้องแล้ว และทำทุกอย่างภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงที่ประเทศมาเลเซีย .-315 -สำนักข่าวไทย

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนัก-ลมแรง

กรุงเทพฯ 26 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด และระนอง ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและลมแรง ส่วนพายุโซนร้อน “คาจิกิ” คาดอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ก่อนเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ บริเวณ จ.น่าน เย็นวันนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด และระนอง ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ลมแรง และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ปกคลุมบริเวณประเทศลาว ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย […]

จับตา “คาจิกิ” หลายจังหวัดภาคเหนือเตรียมรับมือน้ำท่วมดินถล่ม

25 ส.ค. – หลายจังหวัดทางภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งเคยเผชิญน้ำท่วมครั้งใหญ่ทั้งน่าน ชายแดนแม่สาย เชียงราย และเชียงใหม่ ต่างเร่งเตรียมรับมือพายุคาจิกิ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบชัดเจนตั้งแต่พรุ่งนี้ นอกจากเสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากแล้ว บางพื้นที่ยังเสี่ยงดินโคลนถล่มด้วย โดยเฉพาะหมู่บ้านใกล้เชิงเขาที่จังหวัดน่าน ซึ่งเกิดดินสไลด์จนกระทบบ้านเรือนนับสิบหลังก่อนหน้านี้ ตอนนี้ต้องอพยพชาวบ้านกว่า 20 ครอบครัวออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว .-สำนักข่าวไทย