กรุงเทพฯ 21 เม.ย.-หลังวานนี้มีการจับกุมชายไทยพร้อมของกลางถังไนโตรเจนบรรจุหลอดใส่น้ำเชื้ออสุจิที่ จ.หนองคาย โดยมีการเชื่อมโยงไปยังคลินิก 4 แห่งในกรุงเทพ โดย 1 ใน 4 คลินิก ยอมรับว่าหลอดอสุจิส่วนหนึ่งเป็นของลูกค้าตน
ศูนย์ซูพีเรีย เอ.อาร์.ที. รักษาผู้มีบุตรยาก ยอมรับอสุจิ 2 หลอดในถังไนโตรเจนที่ถูกจับได้ระหว่างจะนำข้ามแดนไทยไปยังลาว เป็นของบริษัท ที่ดูแลคู่สามีภรรยาชาวจีนและเวียดนามเมื่อต้นปีที่ผ่านมา จนเมื่อกลางเดือนเมษายน กลับมีชาวไทยได้รับมอบฉันทะจากคู่สามีภรรยาทั้ง 2 ราย ให้มารับอสุจิออก โดยไม่ระบุสาเหตุ ซึ่งเป็นสิทธิของลูกค้าตามปกติ ศูนย์จะออกเอกสารกำกับให้เพียงอย่างเดียว
ศูนย์ยืนยันตลอดการทำธุรกิจ 10 ปีที่ผ่านมา ไม่เกี่ยวข้องกับการทำอุ้มบุญ รับทำแค่ย้ายตัวอ่อน ผสมเทียม และเก็บไข่ อสุจิ ตัวอ่อน ยืนยันไม่มีการซื้อขาย แม้ต่างชาติจะให้ราคาสูงถึง 15,000 บาท/หลอด อีกทั้งกลุ่มลูกค้าที่มารับบริการอยู่ในอาเซียนร้อยละ 80 และอีกร้อยละ 20 เป็นคนไทย
ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย คาดของเหลวในถังไนโตรเจนไม่น่าจะใช่อสุจิ แต่อาจเป็นตัวอ่อนที่ผสมแล้ว พร้อมฉีดเพื่อตั้งครรภ์ เนื่องจากกระบวนการเก็บอสุจิไม่ยุ่งยาก เพียงนำอสุจิมาผสมกับน้ำยาคงสภาพ และแช่ที่อุณหภูมิ -190 องศาเซลเซียส สามารถคงสภาพได้นับ 10 ปี แต่กระบวนผสมตัวอ่อนและเก็บรักษา ในอาเซียนไม่มีใครเชี่ยวชาญเท่าไทย
สำหรับความผิดหากพบว่า กระบวนการขนและย้ายอสุจิ ไข่ หรือตัวอ่อน เกี่ยวข้องกับการอุ้มบุญ ไม่ว่าบุคคลนั้นจะใช่แพทย์หรือไม่ มีโทษตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดจากการใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ ทั้งจำและปรับ หากเป็นแพทย์คนเดิมที่เคยผิดซ้ำเกี่ยวกับอุ้มบุญในอดีต ก็จะได้รับโทษถึงขั้นเพิกถอนใบประกอบวิชาชีพ
แม้ขบวนการขนย้ายอสุจิข้ามชาติ ปมอุ้มบุญยังไม่คลี่คลาย การบังคับใช้กฎหมายจริงจัง จึงเป็นการแก้ไขปัญหาที่ดีสุด ซึ่งรวมถึงการควบคุมคลินิกอุ้มบุญทั้ง 70 แห่ง ให้ดำเนินการตามกฎหมาย อาจช่วยลดปัญหาได้บ้าง.-สำนักข่าวไทย