กองทัพเรือ 8 พ.ย.- “ผบ.สส.” ตรวจเยี่ยมกองทัพเรือ กำชับสนับสนุนพระราชพิธี-เชื่อมั่น ผบ.ทร. นำทร.ไปสู่ความเป็นกองทัพเรือชั้นนำในอาเซียน
พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และคณะเดินทางมาตรวจเยี่ยมกองทัพเรือ และรับฟังการบรรยายสรุปในโอกาสเข้ารับตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุด โดยมี พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ และคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพเรือ ร่วมให้การต้อนรับ ณ กองบัญชาการกองทัพเรือ พื้นที่วังนันทอุทยาน เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร
ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้ถวายสักการะ พระอนุสาวรีย์ พล.ร.อ.พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ จากนั้นได้ขึ้นแท่นรับความเคารพจากกองทหารเกียรติยศและตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ ณ บริเวณลานหน้ากองบัญชาการกองทัพเรือ พื้นที่วังนันทอุทยาน ก่อนจะเข้าด้านในอาคารเพื่อลงนามในสมุดตรวจเยี่ยม และรับฟังการบรรยายสรุปและมอบนโยบาย ณ ห้องประชุม ชั้น 6
โดยเน้นย้ำกองทัพเรือให้ความสำคัญเร่งด่วนในการสนับสนุนรัฐบาลในงานพระราชพิธีพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และ ให้ยึดถือนโยบายของรัฐบาล นโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนโยบายเร่งด่วนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นแนวทางและปฏิบัติอย่างเต็มขีดความสามารถ รวมทั้งได้กล่าวชื่นชมผลการปฏิบัติงานของกองทัพเรือ ทั้งด้านการรักษาผลประโยชน์แห่งชาติทั้งทางบกและทางทะเล การรักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ การบรรเทาภัยพิบัติและช่วยเหลือประชาชน และการสนับสนุนรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาต่างๆ อาทิ การแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายให้เป็นไปตามมาตรฐานของ IUU (Illegal Unreported and Unregulated), การปฏิบัติหน้าที่ในฐานะศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) และ ศูนย์อำนวยการลาดตระเวณและช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ผู้โยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย (ศอ.ยฐ.)
ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ยังได้ชื่นชมนโยบายของผู้บัญชาการทหารเรือ ที่มุ่งเน้นการเสริมสร้างกำลังรบ และความเป็นเลิศในการบริหารจัดการ เพื่อรองรับความท้าทายที่พัฒนาไปตามสภาวะแวดล้อมในภูมิภาคที่เปลี่ยนแปลงไป ตลอดจนการพัฒนาระบบเชื่อมโยงเครือข่ายข้อมูลระหว่างเรือหลวงจักรีนฤเบศร์ และชุดเรือหลวงนเรศวร – ตากสิน กับเครื่องบินกริฟเพนของกองทัพอากาศ ให้สามารถทำการฝึกร่วมกันได้เป็นผลสำเร็จ นับว่าเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาระบบการปฏิบัติร่วมโดยใช้เครือข่ายเป็นศูนย์กลาง NCO (Network Centric Operations) อันจะส่งผลให้กองทัพไทยมีความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งแสดงความเชื่อมั่นว่ากองทัพเรือภายใต้การบังคับบัญชาพล.ร.อ.ณะ จะสามารถปฏิบัติภารกิจและแก้ไขปัญหาของชาติให้ลุล่วงไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนำกองทัพเรือไปสู่ความเป็นกองทัพเรือชั้นนำของภูมิภาค และเป็นที่เชื่อมั่นศรัทธาของประชาชนตลอดไป.-สำนักข่าวไทย