ขนส่งทางบกพอใจผลตรวจเข้มรถโดยสารช่วงสงกรานต์


กรุงเทพฯ 19 เม.ย. – เผยผลติดตามพฤติกรรมการขับรถผ่านระบบ GPS Tracking และการสแกนรถโดยสารสาธารณะเข้มข้นช่วงสงกรานต์ ไม่มีอุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะรุนแรง   

นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก พร้อมด้วย พลตำรวจเอกอำนาจ อันอาตม์งาม กรรมการบริษัทฯ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด, พันเอกสุวิทย์ เกตุศรี รองผู้บัญชาการ กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์, พลตำรวจตรีสมชาย เกาสำราญ ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง, นายชิดชัย ภู่อารีย์ผู้อำนวยการสำนักบริหารการเดินรถ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ร่วมแถลงถึงผลการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2560 โดยความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งบริษัท ขนส่ง จำกัด, ทหาร, ตำรวจ, กระทรวงสาธารณสุข, สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา, จังหวัด, ท้องถิ่น รวมถึงเครือข่ายหน่วยงานเพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน สำนักงานขนส่งจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ  ที่มีส่วนสำคัญในการอำนวยความสะดวก ดูแลความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนของประชาชน ผู้โดยสารรถโดยสารสาธารณะ ตั้งแต่ต้นทาง ระหว่างทาง จนถึงจุดหมายปลายทาง ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2560 (ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2560) ทำให้ไม่มีผู้โดยสารตกค้างที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร สามารถส่งประชาชนกลับบ้านได้ครบทุกคน รวมถึงรองรับการเดินทางกลับหลังเทศกาลสงกรานต์อย่างสะดวกและปลอดภัยทั้งเที่ยวไปและกลับ 


นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า สำหรับการดำเนินงานช่วงสงกรานต์ 2560 กรมการขนส่งทางบกกำหนดเป้าหมายลดสถิติอุบัติเหตุและความสูญเสียที่เกิดจากรถโดยสารสาธารณะเป็นต้นเหตุให้เหลือน้อยที่สุด โดยเฉพาะจำนวนผู้เสียชีวิตที่มากับรถโดยสารสาธารณะที่เป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุต้องเป็นศูนย์ ผ่านนโยบายเพื่อการควบคุม กำกับ ติดตามพฤติกรรมการขับรถและการใช้ความเร็วภายใต้ที่กฎหมายกำหนด ตลอดการเดินทางด้วยระบบ GPS Tracking พร้อมเข้มข้นมาตรการ “สแกนรถโดยสาร” ตรวจความพร้อมรถ ตรวจความพร้อมพนักงานขับรถ ในระบบรถโดยสารประจำทาง ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารและจุดจอดที่ทางราชการกำหนดรวม 212 แห่งทั่วประเทศ ตามรายการตรวจสอบที่กรมการขนส่งทางบกจัดทำขึ้น (Checklist) ตั้งแต่ต้นปี ต่อเนื่องช่วงเทศกาลสงกรานต์ตั้งแต่วันที่ 5 – 24 เมษายน 2560 สอดคล้องกับมาตรการความปลอดภัย 7+7+7 ของกระทรวงคมนาคม รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายเพื่อความปลอดภัย อาทิ การกำหนดให้ผู้โดยสารคาดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง ทุกคนก่อนออกจากสถานีขนส่งผู้โดยสารและตลอดการโดยสาร ส่งผลให้อุบัติเหตุของรถโดยสารสาธารณะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2560 (11 – 17 เมษายน 2560) มีความรุนแรงลดลง โดยพบว่าในจำนวนอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับรถโดยสารสาธารณะทั้งหมด 20 ครั้ง เกิดจากรถโดยสารสาธารณะเป็นต้นเหตุ 5 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บที่มากับรถโดยสาร 5 ราย แต่ไม่มีผู้โดยสารเสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่รถโดยสารสาธารณะเป็นต้นเหตุ  และไม่มีผู้โดยสารเสียชีวิตในการเดินทางทั้งไปกลับกรุงเทพฯ-ต่างจังหวัดทุกเส้นทาง ซึ่งถือเป็นความสำเร็จในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนที่กรมการขนส่งทางบกมุ่งมั่นดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง

สำหรับภาพรวมสถิติอุบัติเหตุที่เกิดกับรถโดยสารสาธารณะทั้งหมดในช่วงสงกรานต์ 7 วัน เกิดขึ้นทั้งหมด 20 ครั้ง เพิ่มขึ้นจากสงกรานต์ปีก่อน 1 ครั้ง โดยช่วงเวลาที่เกิดเหตุมากที่สุดเป็นช่วงเวลากลางคืน ระหว่างเวลา 16.01 – 08.00 น. สาเหตุทั้งหมดมาจากพฤติกรรมการขับขี่ของผู้ขับรถ ได้แก่ การขับรถตัดหน้าในระยะกระชั้นชิด การขับรถตามหลังในระยะกระชั้นชิดเปลี่ยนช่องทางกะทันหัน การขับรถเร็ว หลับใน ตลอดจนการไม่ใช้อุปกรณ์ความปลอดภัยในการลดความรุนแรงของอุบัติเหตุ ได้แก่ การไม่สวมหมวกนิรภัย การไม่คาดเข็มขัด เป็นต้น ทั้งนี้ แม้ว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับรถโดยสารจะเพิ่มขึ้นจากสงกรานต์ปีก่อน 1 ครั้ง และมีผู้เสียชีวิต 7 ราย  แต่พบว่าจำนวนผู้บาดเจ็บมีเพียง 17 ราย ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนถึง 45 ราย และไม่มีผู้โดยสารเสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่รถโดยสารสาธารณะเป็นต้นเหตุ แสดงให้เห็นว่าอุบัติเหตุยังคงเกิดขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลที่มีการใช้รถใช้ถนนจำนวนมาก แต่ความรุนแรงของการเกิดอุบัติเหตุแนวโน้มลดลง เมื่อเทียบจากจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บที่ลดลงจากช่วงสงกรานต์ปีก่อน สืบเนื่องมาจากมาตรการเข้มข้น สแกนความพร้อมรถ ความพร้อมคนก่อนออกเดินทาง รวมถึงยังเป็นผลมาจากการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด จริงจัง ซึ่งได้มีการประชาสัมพันธ์รณรงค์มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงก่อนเทศกาล จนกระทั่งเข้าสู่ช่วงการเดินทาง และเป็นผลการการได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการขนส่งในการปรับปรุงสภาพรถและกำกับดูแลพนักงานขับรถอย่างเข้มงวดตามนโยบายของรัฐบาล กระทรวงคมนาคม และกรมการขนส่งทางบก – สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

เปิด 13 ข้อตกลงหยุดยิง ไทย-กัมพูชา เห็นพ้องรักษาสันติภาพ

มาเลเซีย 7 ส.ค.-เสร็จสิ้นแล้ว การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ที่ 2 ชาติ เห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อระหว่างกัน โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้1.ยุติการใช้อาวุธทุกประเภท การโจมตีต่อพลเรือน เป้าหมายพลเรือน และเป้าหมายทางทหาร ในทุกพื้นที่และทุกกรณี2.รักษาสถานะการวางกำลังในที่ตั้งปัจจุบัน สถานะตั้งแต่ 28 ก.ค.68 โดยไม่มีการเคลื่อนย้ายกำลัง และไม่มีการลาดตระเวนไปยังที่ตั้งของอีกฝ่าย3.ไม่เพิ่มเติมกำลังตลอดแนวชายแดนไทย – กัมพูชา4.ไม่กระทำการอันเป็นการยั่วยุที่ส่งผลให้เกิดความตึงเครียด การมีกิจกรรมทางทหารเข้าไปยังดินแดน เขตน่านฟ้า หรือที่ตั้งของอีกฝ่าย ตามสถานะการหยุดยิง ตั้งแต่ 28 ก.ค.68 และไม่สร้างโครงสร้างพื้นฐานทางทหารล้ำออกไปนอกขอบเขตของฝ่ายตน5.ไม่ใช้กำลังต่อพลเรือน หรือเป้าหมายทางพลเรือนในทุกกรณี6.การปฏิบัติตามอนุสัญญาเจนีวา: การปฏิบัติต่อผู้ที่ถูกจับกุมตัว การขอส่งตัวผู้บาดเจ็บมารักษาในสถานพยาบาลของอีกฝ่าย โดยจะขึ้นอยู่กับศักยภาพในการรองรับของสถานพยาบาลแล้วแต่กรณี สำหรับทหารที่อยู่ในความควบคุมของอีกฝ่ายหนึ่งจะได้รับการปล่อยตัวและส่งกลับประเทศ หลังจากยุติการใช้กำลังโดยสมบูรณ์ รวมทั้งอำนวยความสะดวกในการส่งคืนร่างผู้เสียชีวิตอย่างสมเกียรติโดยเร็ว และจัดการศพภายใต้สภาพที่ถูกสุขลักษณะและด้วยความเคารพ7.กรณีมีความขัดแย้งกันด้วยอาวุธ ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ ทั้งสองฝ่ายจะหารือกันในระดับปฏิบัติผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ เพื่อป้องกันการขยายตัวของสถานการณ์8.เห็นชอบให้เพิ่มในเรื่องของการปฏิบัติดังนี้8.1 ดำรงการติดต่อสื่อสารอย่างต่อเนื่องระหว่างหน่วยทหารในพื้นที่8.2 จัดการประชุม RBC ภายใน 2 สัปดาห์ นับจากการประชุม […]

แม่ทัพภาค 2 เชื่อผลประชุม GBC เป็นทิศทางที่ดี

7 ส.ค. – มทภ.2 ขอรอผลอย่างเป็นทางการหลังประชุม GBC เชื่อจะไปในทิศทางที่ดี เมิน “ฮุนเซน” ขอไทยงดใช้ F-16 ร้องนานาชาติ หยุดขายเครื่องบินรบให้ไทย ส่วนกรณีสายลับเขมร รอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับมอบอุปกรณ์โดรนโลเคเตอร์ เครื่องจับพิกัดตัวโดรน รวม 30 เครื่อง มูลกว่า 8 ล้านบาท เครื่องนุ่งห่ม รวมถึงของใช้ที่จำเป็นเพื่อนำไปมอบให้ทหารแนวหน้า จากมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้จะได้ข้อสรุปในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) สถานการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไร พลโท บุญสิน บอกว่ารอการชี้แจงอย่างเป็นทางการ เชื่อว่าจะดีขึ้น ย้ำว่า ในข้อเสนอ 8 เรื่อง 6 ประเด็น ตนให้ความสำคัญ ทหารไทย ณ ปัจจุบันนี้อยู่ตรงไหนก็ให้อยู่ตรงนั้น คำนึงถึงเรื่องนี้เป็นหลัก เน้นย้ำให้ทหารหน้าแนวตั้งอยู่ในความไม่ประมาท และตรึงกำลังไว้ตลอด เรื่องแผ่นดินไม่สามารถคุมได้ด้วยเครื่องมือ ต้องใช้คนเฝ้า เมื่อเปรียบเทียบกับท่าทีของกัมพูชาแล้ว เราจะต้องประกบไว้แบบนี้ […]

“พล.อ.ณัฐพล” เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย

มาเลเซีย 7 ส.ค.- “พล.อ.ณัฐพล” รมช.กลาโหม เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย ก่อนถก GBC ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ บ่ายนี้ เมื่อเช้าวันนี้ (7 ส.ค. 68) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เข้าเยี่ยมคำนับ ดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งเป็นประธานอาเซียนในขณะนี้และเป็นเจ้าภาพของสถานที่การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป(General Border Committee: GBC) ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชาเข้าร่วมด้วย ซึ่งเป็นโอกาสแรกที่ฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาได้พบกันในระดับรัฐมนตรีก่อนที่จะเข้าร่วมประชุม GBC สมัยวิสามัญ ที่จะมีขึ้นในช่วงบ่ายของวันนี้ Deputy Minister of Defence pays courtesy call on Malaysian Prime Minister before Extraordinary Session […]

“บิ๊กเต่า” ลุยค้น 3 จุด จับอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร – อดีตเจ้าอาวาส

กทม. 7 ส.ค.-“บิ๊กเต่า” ลุยค้น 3 จุด บุกจับอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร – อดีตเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ก๊วนกิ๊กเก่า “สีกากอล์ฟ” หลังพบทุจริตยักยอกเงินวัด เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 7 ส.ค. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปาตแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาฯ ป.ป.ท. นำกำลังตำรวจ บก.ปปป. และ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เปิดปฏิบัติการ “กอล์ฟทีม EP.1” บุกค้นเป้าหมาย 3 จุด ใน จ.สุราษฎร์ธานี จ.พิจิตร และ จ.สมุทรสงคราม เพื่อจับกุมอดีตพระชั้นผู้ใหญ่ และ คนใกล้ชิด ที่เคยพัวพันสัมพันธ์ฉาวสีกากอล์ฟ หลังพบกระทำผิดทุจริตยักยอกเงินวัดมาใช้ดูแลสีกา เป้าหมายจุดแรกที่เข้าตรวจค้นเป็นสถานปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่ง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นบ้านพักของนายทิวากร ดีไพร หรือ […]