ขนส่งทางบกพอใจผลตรวจเข้มรถโดยสารช่วงสงกรานต์


กรุงเทพฯ 19 เม.ย. – เผยผลติดตามพฤติกรรมการขับรถผ่านระบบ GPS Tracking และการสแกนรถโดยสารสาธารณะเข้มข้นช่วงสงกรานต์ ไม่มีอุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะรุนแรง   

นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก พร้อมด้วย พลตำรวจเอกอำนาจ อันอาตม์งาม กรรมการบริษัทฯ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด, พันเอกสุวิทย์ เกตุศรี รองผู้บัญชาการ กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์, พลตำรวจตรีสมชาย เกาสำราญ ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง, นายชิดชัย ภู่อารีย์ผู้อำนวยการสำนักบริหารการเดินรถ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ร่วมแถลงถึงผลการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2560 โดยความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งบริษัท ขนส่ง จำกัด, ทหาร, ตำรวจ, กระทรวงสาธารณสุข, สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา, จังหวัด, ท้องถิ่น รวมถึงเครือข่ายหน่วยงานเพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน สำนักงานขนส่งจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ  ที่มีส่วนสำคัญในการอำนวยความสะดวก ดูแลความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนของประชาชน ผู้โดยสารรถโดยสารสาธารณะ ตั้งแต่ต้นทาง ระหว่างทาง จนถึงจุดหมายปลายทาง ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2560 (ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2560) ทำให้ไม่มีผู้โดยสารตกค้างที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร สามารถส่งประชาชนกลับบ้านได้ครบทุกคน รวมถึงรองรับการเดินทางกลับหลังเทศกาลสงกรานต์อย่างสะดวกและปลอดภัยทั้งเที่ยวไปและกลับ 


นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า สำหรับการดำเนินงานช่วงสงกรานต์ 2560 กรมการขนส่งทางบกกำหนดเป้าหมายลดสถิติอุบัติเหตุและความสูญเสียที่เกิดจากรถโดยสารสาธารณะเป็นต้นเหตุให้เหลือน้อยที่สุด โดยเฉพาะจำนวนผู้เสียชีวิตที่มากับรถโดยสารสาธารณะที่เป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุต้องเป็นศูนย์ ผ่านนโยบายเพื่อการควบคุม กำกับ ติดตามพฤติกรรมการขับรถและการใช้ความเร็วภายใต้ที่กฎหมายกำหนด ตลอดการเดินทางด้วยระบบ GPS Tracking พร้อมเข้มข้นมาตรการ “สแกนรถโดยสาร” ตรวจความพร้อมรถ ตรวจความพร้อมพนักงานขับรถ ในระบบรถโดยสารประจำทาง ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารและจุดจอดที่ทางราชการกำหนดรวม 212 แห่งทั่วประเทศ ตามรายการตรวจสอบที่กรมการขนส่งทางบกจัดทำขึ้น (Checklist) ตั้งแต่ต้นปี ต่อเนื่องช่วงเทศกาลสงกรานต์ตั้งแต่วันที่ 5 – 24 เมษายน 2560 สอดคล้องกับมาตรการความปลอดภัย 7+7+7 ของกระทรวงคมนาคม รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายเพื่อความปลอดภัย อาทิ การกำหนดให้ผู้โดยสารคาดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง ทุกคนก่อนออกจากสถานีขนส่งผู้โดยสารและตลอดการโดยสาร ส่งผลให้อุบัติเหตุของรถโดยสารสาธารณะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2560 (11 – 17 เมษายน 2560) มีความรุนแรงลดลง โดยพบว่าในจำนวนอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับรถโดยสารสาธารณะทั้งหมด 20 ครั้ง เกิดจากรถโดยสารสาธารณะเป็นต้นเหตุ 5 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บที่มากับรถโดยสาร 5 ราย แต่ไม่มีผู้โดยสารเสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่รถโดยสารสาธารณะเป็นต้นเหตุ  และไม่มีผู้โดยสารเสียชีวิตในการเดินทางทั้งไปกลับกรุงเทพฯ-ต่างจังหวัดทุกเส้นทาง ซึ่งถือเป็นความสำเร็จในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนที่กรมการขนส่งทางบกมุ่งมั่นดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง

สำหรับภาพรวมสถิติอุบัติเหตุที่เกิดกับรถโดยสารสาธารณะทั้งหมดในช่วงสงกรานต์ 7 วัน เกิดขึ้นทั้งหมด 20 ครั้ง เพิ่มขึ้นจากสงกรานต์ปีก่อน 1 ครั้ง โดยช่วงเวลาที่เกิดเหตุมากที่สุดเป็นช่วงเวลากลางคืน ระหว่างเวลา 16.01 – 08.00 น. สาเหตุทั้งหมดมาจากพฤติกรรมการขับขี่ของผู้ขับรถ ได้แก่ การขับรถตัดหน้าในระยะกระชั้นชิด การขับรถตามหลังในระยะกระชั้นชิดเปลี่ยนช่องทางกะทันหัน การขับรถเร็ว หลับใน ตลอดจนการไม่ใช้อุปกรณ์ความปลอดภัยในการลดความรุนแรงของอุบัติเหตุ ได้แก่ การไม่สวมหมวกนิรภัย การไม่คาดเข็มขัด เป็นต้น ทั้งนี้ แม้ว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับรถโดยสารจะเพิ่มขึ้นจากสงกรานต์ปีก่อน 1 ครั้ง และมีผู้เสียชีวิต 7 ราย  แต่พบว่าจำนวนผู้บาดเจ็บมีเพียง 17 ราย ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนถึง 45 ราย และไม่มีผู้โดยสารเสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่รถโดยสารสาธารณะเป็นต้นเหตุ แสดงให้เห็นว่าอุบัติเหตุยังคงเกิดขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลที่มีการใช้รถใช้ถนนจำนวนมาก แต่ความรุนแรงของการเกิดอุบัติเหตุแนวโน้มลดลง เมื่อเทียบจากจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บที่ลดลงจากช่วงสงกรานต์ปีก่อน สืบเนื่องมาจากมาตรการเข้มข้น สแกนความพร้อมรถ ความพร้อมคนก่อนออกเดินทาง รวมถึงยังเป็นผลมาจากการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด จริงจัง ซึ่งได้มีการประชาสัมพันธ์รณรงค์มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงก่อนเทศกาล จนกระทั่งเข้าสู่ช่วงการเดินทาง และเป็นผลการการได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการขนส่งในการปรับปรุงสภาพรถและกำกับดูแลพนักงานขับรถอย่างเข้มงวดตามนโยบายของรัฐบาล กระทรวงคมนาคม และกรมการขนส่งทางบก – สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ชาวบ้าน-พระ เดือดร้อน

สุโขทัย 28 ส.ค. – หลายพื้นที่เมืองสุโขทัย จมอยู่ใต้น้ำและขยายวงกว้าง แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ด้านหลังวัดปากแคว พระและชาวบ้าน ช่วยกันขนสิ่งของหนีน้ำ ภาพมุมสูง เผยให้เห็นสภาพน้ำท่วมสูงภายในวัดปากแคว และบริเวณโดยรอบ ทหารนำกำลังพล 22 นาย ลงพื้นที่ช่วยเหลือ พระวัดปากแคว ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 2 หมู่ 4 ต.ปากแคว 4 ชุมชน ในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ถูกน้ำท่วมขยายวงกว้าง รถยนต์จมน้ำหลายคัน ด้านหลังวัดปากแคว อำเภอเมือง แม่น้ำยมผนังกั้นน้ำล้นตลิ่ง มวลน้ำมหาศาล ทะลักเข้าท่วมเต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงรอบวัดเกือบ 2 เมตร ทะลักเข้าท่วม ไหลข้ามถนนจรดวิถีถ่อง ระยะทางกว่า 500 เมตร ต้องปิดกั้นถนนห้ามสัญจรไปมา พระครูปลัดสุวัฒนสาธุคุณ (พระอาจารย์นาค) เจ้าคณะตำบลบ้านกล้วย เจ้าอาวาสวัดพายชุมพล หลังทราบข่าว ระดับน้ำท่วม ในวัดปากแคว รีบนำอาหารกล่องพร้อมทั้งถุงยังชีพ เข้าไปถวายพระสงฆ์ 18 รูป ที่จำพรรษาอยู่ในวัดปากแคว เร่งหาผู้สูญหายที่แม่ฮ่องสอน […]

เร่งค้นหาอีก 3 ผู้สูญหายดินถล่มปางอุ๋ง ท่ามกลางความหวังของญาติ

28 ส.ค. – เข้าสู่วันที่ 2 ของเหตุดินโคลนถล่มบ้านปางอุ๋ง หมู่บ้านกลางหุบเขา อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายอีก 3 ราย โดยระดมกำลังนับร้อยนายพร้อมเครื่องจักรเดินหน้าค้นหา ท่ามกลางบรรดาญาติที่เฝ้ารอด้วยความหวัง ล่าสุดวันนี้พบร่างผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้เพิ่มเป็น 6 ราย และยังสูญหายอีก 3 คน ขณะที่หลายครอบครัวต้องสูญเสียบ้านที่อยู่มาหลายสิบปีและยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นสร้างขึ้นใหม่ได้อย่างไร.-สำนักข่าวไทย

ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. โผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด

กทม. 28 ส.ค.-ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. หลัง “ภูมิธรรม” ถกลับ ผบ.ตร. นานหลายชั่วโมง เหตุมีหนังสือร้องเรียนจำนวนมาก ทำโผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. เป็นประธานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 7/2568 ณ ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 มีระเบียบวาระการประชุม 5 วาระ ประกอบด้วย วาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ /วาระที่ 2 รับรองรายงานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 6/2568 /วาระที่ 3 เรื่องที่เสนอเพื่อทราบ เรื่องที่ 1 รายงานการดำเนินการของ อ.ก.ตร.สืบสวนสอบสวน ที่ ก.ตร. มอบหมายให้ทำการแทน […]

กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา เขต อ.อรัญประเทศ

สระแก้ว 23 ส.ค.-กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา จุดแรกบริเวณหลักเขตที่ 50-51 เขต อ.อรัญประเทศ ระยะทาง 10 กม. เชื่อเริ่มดำเนินการได้เป็นรูปธรรมภายในปีนี้ พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทยพร้อมคณะลงพื้นที่เพื่อสำรวจแนวชายแดนตั้งแต่หลักเขตที่สี่ 48 ต่อเนื่องถึง 51 บริเวณพื้นที่บ้านป่าไร่ ถึงบ้านท่าข้าม ในเขต อ.อรัญประเทศ โดยการสำรวจดังกล่าวเพื่อเตรียมสร้างแนวกำแพงแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ข้อสรุปเบื้องต้นบริเวณหลักเกณฑ์ที่ห้า 50 และ 51 ซึ่งไทยและกัมพูชาเห็นตรงกันแล้วในเรื่องเขตแดน จะสร้างเป็นรั้วถาวรเป็นจุดแรกระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ขณะบริเวณอื่นๆ ซึ่งยังมีการอ้างสิทธิ และยังไม่มีข้อสรุปเรื่องเขตแดนที่ชัดเจน เบื้องต้นก็จะสร้างเป็นแนวรั้วชั่วคราวด้วยวิธีการตัดถนนเลียบตลอดแนวชายแดนและวางรั้วลวดหนามหีบเพลงสามชั้น พร้อมติดกล้องวงจรปิดในจุดที่สามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้เชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะเกิดประโยชน์ในการเคลื่อนย้ายกำลัง รวมไปถึงการลาดตระเวนตรวจตรา นอกจากนี้การปรับพื้นที่ให้โล่งก็จะทำให้การลักลอบผ่านแดนตามช่องทางธรรมชาติยากขึ้น ซึ่งถือเป็นการสกัดกั้นทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์และปัญหาสแกมเมอร์ ได้ โดยการดำเนินการจะเริ่มต้นทันทีที่นำเรื่องเข้าขออนุมัติจากสภาความมั่นคงแห่งชาติและไม่ได้ติดขัดในเรื่องงบประมาณแต่อย่างใด เชื่อว่าภายในปีนี้น่าจะเห็นแนวรั้วกำแพงชายแดนไทย-กัมพูชา เริ่มต้นเกิดขึ้นได้ ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้จะมีการลงในรายละเอียดพื้นที่ต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนตามแนวชายแดนที่บางส่วนอาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่ก็เชื่อว่าประชาชนพร้อมที่จะเสียสละเพื่อความมั่นคงปลอดภัยของส่วนรวม พลตรี วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำรั้วตลอดแนวชายแดนไทยกัมพูชาเกิดขึ้นจากข้อเรียกร้องของประชาชน […]