เตรียมเสนอศาลอนุมัติหมายจับเครือข่าย “ซินแสโชกุน”

16 เม.ย. – ตำรวจกองปราบปราม เตรียมเสนอศาล อนุมัติหมายจับเครือข่าย “ซินแสโชกุน” เพิ่มอีก 8 คน ในวันพรุ่งนี้ ขณะเดียวกันในวันอังคารนี้  ทหารจะนำตัวเครือญาติที่ควบคุมอยู่ที่มณฑลทหารบกที่ 11 ส่งให้กองปราบปรามสอบสวนเพิ่มเติม 


ความคืบหน้าคดี นางสาวพสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือ “ซินแสโชกุน” หลอกลวงประชาชนให้สมัครสมาชิก บริษัทขายอาหารเสริม แถมทริปเดินทางไปญี่ปุ่นในราคา 1 หมื่นบาท ระหว่างวันที่ 11-16 เมษายน แต่กลับลอยแพลูกทัวร์นับพันคน ล่าสุดผู้บริหารบริษัท จำนวน 6 คน  ซึ่งเป็นกรรมการบริษัท และรองประธานกรรมการบริหารบริษัทเวลล์ เอฟเวอร์ เดินทางเข้าพบ  พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล  รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ที่กองปราบปราม  เพื่อมอบข้อมูล และเอกสารที่เกี่ยวข้องให้    

นางสาวธัญวลัย น้ำแก้ว  1 ในกรรมการ บริษัทเวลล์ เอฟเวอร์ กล่าวว่า  ได้รับการชักชวนจาก “ซินแสโชกุน” ให้สมัครสมาชิกซื้ออาหารเสริม  ซึ่งตัวเองเป็นสมาชิกรุ่นแรก จึงถูกชักชวนให้เป็นกรรมการบริษัทเพื่อร่วมบริหารงานเมื่อ 2 เดือนก่อน  แต่ไม่ได้ลงทุน  โดยได้รับปันผลในอนาคตหากบริษัทมีกำไร และไม่มีการเรียกประชุมผู้บริหารเพียงใช้ชื่อตัวเองเป็นกรรมการเท่านั้น อย่างไรก็ตาม  เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาได้ไปท่องเที่ยวฮ่องกงและประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากสั่งซื้อสินค้าและสะสมคะแนนครบตามยอดที่กำหนดไว้ คือ 150 พีวี หรือประมาณ  8,380 บาท   ซึ่ง “ซินแสโชกุน” อ้างว่าเป็นโปรโมชั่นพาเที่ยว  โดยนำงบด้านโฆษณามาใช้ และเมื่อเดินทางไปท่องเที่ยวจะต้องถ่ายภาพคู่กับสินค้าเพื่อใช้โปรโมท  พร้อมยืนยันว่า “ซินแสโชกุน” ไม่ได้บังคับให้หาสมาชิก หรือเครือข่ายเพิ่มขึ้น  ยอมรับด้วยว่าไม่มีการอบรมประโยชน์ของคุณสินค้า จะให้การชักชวนปากต่อปาก  ซึ่งหากมีสมาชิกเพิ่มก็จะได้รับค่าคอมมิชชั่น เช่นเดียวกับบริษัทอื่นๆ สำหรับทริปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งนี้  ตนเองตกเป็นผู้เสียหายเช่นกันเนื่องจากถูกลอยแพที่สนามบินสุวรรณภูมิ ด้วย


ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์  ระบุว่าทั้ง 6 คน ขณะนี้ยังอยู่ในฐานะพยานที่เข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน ซึ่งจากสอบสวนพบว่าทั้งหมดได้สมัครสมาชิกเพื่อซื้ออาหารเสริมแต่มีเพียง 1 คน ที่ได้รับสินค้าครบ  สำหรับความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 หรือ ข้อหาอื่น ๆ  ขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มกับ “ซินแสโชกุน” โดยอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน  รวมถึงออกหมายจับผู้ที่ร่วมกระทำความผิดเพิ่มเติม  ส่วนผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความกับกองปราบปรามฯ มีจำนวนกว่า 200 คน คิดเป็นความเสียหาย มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท  คาดว่าทั่วประเทศ จะมีผู้เสียหายรวมกว่า 1,000 คน โดยผู้เสียหายสามารถเข้าแจ้งความได้ที่สถานีตำรวจทั่วประเทศ  หากสถานีตำรวจใดไม่รับแจ้งความถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

พันเอกบุรินทร์  ทองประไพ   เสนาธิการผู้บังคับบัญชาฝ่ายกฎหมาย คสช. ระบุว่า พนักงานสอบสวนกองปราบปราม จะนำพยานหลักฐานยื่นต่อศาลเพื่อขออนุมัติออกหมายจังเครือข่าย “ซินแสโชกุน” ในวันที่ 17 เมษายนนี้ โดยมีรายงานว่าจะเสนอออกหมายจับทั้ง 8 คน  ซึ่งเป็นญาติและแม่ข่าย ที่เจ้าหน้าที่ทหารได้ควบคุมตัวไว้แล้ว  จากนั้นวันที่ 18 เมษายน  ทหารจะคุมตัวทั้ง 8 คน ส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อสอบปากคำและข้อกล่าวหาดำเนินคดี 

นายนิติศักดิ์ มีขวด ทนายความของซินแสโชกุน เผยว่า  ขณะนี้ยังไม่ได้เข้าเยี่ยมซินแสโชกุนที่ทัณฑสถานหญิงกลาง เนื่องจากติดวันหยุดช่วงเทศกาลสงกรานต์  และ เตรียมเข้าเยี่ยมในช่วงเช้าวันที่ 18 เม.ย. วันเปิดทำการตามปกติเป็นวันแรก เพื่อพูดคุยถึงความชัดเจนและแนวทางการต่อสู้คดี ถึงการจัดเตรียมหลักทรัพย์ที่จะใช้ยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากหลักทรัพย์ที่มีอยู่ไม่สามารถนำมาใช้ได้  ส่วนกลุ่มผู้ต้องสงสัยที่ถูกควบคุมตัว อยู่ที่มณฑลทหารบกที่ 11 ซึ่งเป็นญาติและบุคคลใกล้ชิดของซินแสโชกุน  มีกลุ่มญาติบางส่วนพยายามติดต่อขอเข้าเยี่ยม แต่ยังไม่ได้รับอนุญาต เนื่องจากอยู่ในการควเนื่องจากอยู่ในการควบคุมตามคำสั่ง คสช. 


ส่วนความเคลื่อนไหวของซินแสโชกุนหลังถูกส่งตัวไปทัณฑสถานหญิงกลาง นางชฎาพร รักษาทรัพย์ ผอ.ทัณฑสถานหญิงกลาง เผยว่า หลังจาก ซินแสโชกุน ถูกส่งตัวมายังเรือนจำทัณฑสถานหญิงกลาง เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 14 เม.ย. เบื้องต้นนำไปอยู่แดนแรกรับ ตรวจร่างกาย ทำประวัติ และตรวจสุขภาพผู้ต้องขังตามมาตรการปกติของเรือนจำ น.ส.พสิษฐ์ มีอาการเครียดบ้างเล็กน้อย หลังเข้าเรือนจำวันแรกเป็นเรื่องปกติของผู้ต้องขังใหม่ แต่มีเจ้าหน้าที่ดูแลและให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม. เพื่อลดความเครียด โดยรวมสุขภาพร่างกายเจ้าตัวแข็งแรงดี หากมีอาการเจ็บป่วยที่นี่มีสถานพยาบาลของเรือนจำดูแลตลอด สำหรับการเข้าเยี่ยมของญาติ ทางทัณฑสถานหญิงกลางเปิดให้เข้าเยี่ยมได้ทุกวันในเวลาราชการ ยกเว้นวันหยุด. -สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์

เร่งล่าฆาตกรโหดตัดนิ้วชิงทรัพย์หญิงวัย 67 ทิ้งศพกลางสวนปาล์ม

ตำรวจเร่งล่าฆาตกรโหดฆ่าตัดนิ้วหญิงวัย 67 ปี ชิงทรัพย์ ก่อนทิ้งศพกลางสวนปาล์ม อ.วังจันทร์ จ.ระยอง ชาวบ้านเผยพบรถเก๋งต้องสงสัยสีขาววิ่งเข้าไปในจุดพบศพ

จับนายก อบต.นาบัว

คอมมานโดบุกจับนายก อบต.นาบัว-พวก รวม 16 คน

คอมมานโดกองปราบฯ บุกจับฟ้าผ่า! นายก อบต.นาบัว อ.นครไทย ประธาน “ธนาคารหมู่บ้าน” พร้อมพวก รวม 16 คน ฐานร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันกู้ยืมเงิน มูลค่าความเสียหายนับร้อยล้านบาท

New Zealanders march towards Wellington to protest Indigenous treaty bill

ชาวเมารีเต้นฮากาประท้วงร่าง กม.นิวซีแลนด์

เวลลิงตัน 15 พ.ย.- ผู้คนในหลายเมืองทั่วนิวซีแลนด์เข้าร่วมการเดินขบวนมุ่งหน้าไปยังกรุงเวลลิงตัน เพื่อประท้วงร่างกฎหมายลิดรอนสิทธิของชนพื้นเมือง โดยมีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารีในระหว่างการประท้วงด้วย รัฐสภานิวซีแลนด์ผ่านความเห็นชอบในเบื้องต้นเมื่อวานนี้ เรื่องการตีความใหม่สนธิสัญญาอายุ 184 ปี ที่มกุฎราชกุมารอังกฤษกับหัวหน้าชาวเมารีมากกว่า 500 คนลงนามในปี พ.ศ.2383 กำหนดเรื่องการปกครองนิวซีแลนด์ร่วมกัน ซึ่งเป็นแนวทางในการออกกฎหมายและนโยบายของประเทศมาจนถึงปัจจุบัน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เกิดการชุมนุมประท้วงตามเมืองต่าง ๆ ทั่วนิวซีแลนด์ โดยมีการจัดเดินขบวนเป็นเวลา 9 วันมุ่งไปยังกรุงเวลลิงตัน คาดว่าขบวนจะถึงเมืองหลวงในวันที่ 19 พฤศจิกายน ตำรวจแถลงวันนี้ว่า มีคนประมาณ 10,000 คน เข้าร่วมการเดินขบวนในเมืองโรโตรัว ห่างจากกรุงเวลลิงตันไปทางเหนือราว 450 กิโลเมตร ผู้ประท้วงแต่งกายในชุดชนพื้นเมือง มีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารี โดยได้รับการต้อนรับจากคนจำนวนมากที่มาโบกธงเมารีและร่วมร้องเพลง.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ลิงลพบุรีแหกกรง กว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพัก

ลิงลพบุรีกรงแตก เพ่นพ่านกว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพักท่าหิน ตำรวจปิดประตูหน้าต่างวุ่น ล่าสุดกลับมากินอาหารในกรงแล้วกว่า 100 ตัว กรมอุทยานฯ เร่งลุยจับ คาดใช้เวลา 2-3 วัน

มนุษย์ ภัยคุกคามพะยูน ?

ช่วงนี้พบพะยูนในทะเลฝั่งอันดามันตายเพิ่มขึ้นแบบถี่ยิบ จนน่าเป็นห่วงว่าพะยูนอาจสูญพันธุ์ไปในอนาคต โดยเฉพาะล่าสุดเมื่อมีการพบพะยูนตายในทะเลภูเก็ต อยู่ในสภาพถูกตัดหัว คาดนักล่าหวังเอาเขี้ยว

typhoon Man-Yi barrels through the Philippines

ซูเปอร์ไต้ฝุ่น “หม่านหยี่” เข้าฟิลิปปินส์

มะนิลา 17 พ.ย.- ซูเปอร์ไต้ฝุ่นหม่านหยี่ พัดเข้าเกาะลูซอนที่เป็นเกาะหลักและมีประชากรอยู่หนาแน่นที่สุดของฟิลิปปินส์แล้วในวันนี้ เสี่ยงทำให้เกิดฝนตกหนักในกรุงมะนิลาที่เป็นเมืองหลวง หม่านหยี่ เป็นภาษาจีนกวางตุ้ง เป็นชื่อของอ่างเก็บน้ำในฮ่องกง นับเป็นพายุลูกที่ 6 ที่พัดเข้าฟิลิปปินส์ในรอบ 1 เดือน มีความเร็วลม 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อ่อนกำลังลงเล็กน้อยหลังจากขึ้นฝั่งเมืองปางานีบัน จังหวัดคาตันดัวเนส ที่เป็นเกาะขนาดเล็ก เมื่อคืนวันเสาร์ ข้ามมาจนถึงจังหวัดคามารีเนส นอร์เต บนเกาะลูซอน ในเช้าวันนี้ ไต้ฝุ่นลูกนี้มีแนวโน้มจะทำให้เกิดฝนตกหนักทั่วเขตมหานครมะนิลา ซึ่งมีการอพยพประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงแล้วกว่า 1 ล้านคน แต่ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต แม้ว่ากระแสลมแรงได้สร้างความเสียหายให้แก่สิ่งปลูกสร้างในจังหวัดคาตันดัวเนสก็ตาม.-820(814).-สำนักข่าวไทย

ดอยอินทนนท์คึกคักรับลมหนาว สัมผัสหมอกหนายามเช้า

นักท่องเที่ยวแห่ขึ้นดอยอินทนนท์รับลมหนาว สัมผัสหมอกหนายามเช้าวันหยุด หลายคนบอกไม่ผิดหวัง เพราะพระอาทิตย์สาดแสงเป็นประกายประทับใจ