กรมธนารักษ์ 10 เม.ย. – กรมธนารักษ์เตรียมเสนอ ครม.ทบทวนเกณฑ์บ้านธนารักษ์ประชารัฐ ตัดเงื่อนไข “บ้านหลังแรก” จับมือธนาคารกรุงไทยเพิ่มช่องทางชำระค่าเช่าผ่านอิเล็กทรอนิกส์ หรืออี-เพย์เม้นท์
นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า ภายหลังการลงนามความร่วมมือกับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ในโครงการเพิ่มประสิทธิภาพช่องทางชำระค่าเช่าทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อขยายช่องทางรับชำระค่าเช่าที่ราชพัสดุผ่านระบบออนไลน์ต่าง ๆ จากปัจจุบันมี 4 ช่องทาง ประกอบด้วย ผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส บัตรเครดิต บัตรเดบิต โดยหักบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย และรับชำระเงินต่างพื้นที่ทั่วประเทศ
สำหรับการขยายช่องทางครั้งนี้ เพื่อลดปัญหายอดค้างจ่ายค่าเช่าสะสมในอดีตไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้เช่ารายย่อยและเกษตรกร และอาศัยอยู่ในจังหวัดห่างไกล เมื่อค่าเช่าไม่แพงเพียงหลักร้อยบาทต่อปี ทำให้ชาวบ้านไม่สนใจมาจ่ายค่าเช่า ทางกรมธนารักษ์ได้มีมาตรการต่าง ๆ เพิ่มมาดูแลในขณะนี้ ปัจจุบันมีประชาชนเช่าที่ราชพัสดุประมาณ 160,000 ราย จัดเก็บรายได้จากค่าเช่ารายย่อย 2,000 ล้านบาทต่อปี ทั้งนี้ เพื่อต้องการขยายช่องทางการชำระค่าเช่าและอำนวยความสะดวกให้กับรายย่อย
นายจักรกฤศฏิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เสนอบรรจุวาระ ครม.รอการพิจารณาปรับหลักเกณฑ์ โครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ เพื่อเปิดโอกาสให้คนมีบ้านหลังแรกเข้าอยู่อาศัย หลักเกณฑ์ทั้งหมดยังใช้เงื่อนไขเดิม เช่น รายได้ไม่เกิน 20,000 บาทต่อเดือน แต่ข้อเสนอให้ ครม.ทบทวน คือ การตัดเงื่อนไข “บ้านหลังแรก” หาก ครม.พิจารณาเห็นชอบจะครอบคลุมไปถึงผู้จองโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ จังหวัดเพชรบุรี เฟสแรก จะได้รับประโยชน์จากการแก้ไขสิทธิ์ดังกล่าวด้วย และหากต้องการเปิดรับผู้จองซื้อเพิ่มจะคัดเลือกจากผู้จองที่เหลืออยู่ได้เพิ่มเติม หลังเปิดให้ประชาชนจองสิทธิ์ 700 ยูนิต เพื่อช่วยเหลือรายย่อยให้ครอบคลุมมากขึ้น. – สำนักข่าวไทย