การบินไทยชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีสหภาพฯ ยื่นหนังสือร้องเรียนกระทรวงแรงงาน

กรุงเทพฯ  21 มิ.ย. – การบินไทยชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีสหภาพแรงงานฯ ยื่นหนังสือร้องเรียนกระทรวงแรงงาน  ถูกปรับลดเงินเดือน-ละเมิดสิทธิ์สภาพการจ้าง


ตามที่มีสื่อหลายฉบับลงข่าวเกี่ยวกับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยได้ไปยื่นหนังสือถึงปลัดกระทรวงแรงงาน เพื่อร้องเรียนเกี่ยวกับการที่บริษัทฯ ออกข้อบังคับฉบับใหม่ และอ้างว่าข้อบังคับดังกล่าวได้ลดทอนสิทธิประโยชน์และสวัสดิการของพนักงาน รวมถึงร้องเรียนเรื่องการปรับลดเงินเดือนของพนักงานว่าไม่เป็นไปตามข้อกฎหมายนั้น

นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล รองประธานกรรมการคนที่ 2 รักษาการแทนกรรมการผู้อํานวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จํากัด (มหาชน) ชี้แจงว่า ตามที่บริษัทฯ ได้พ้นจากความเป็นรัฐวิสาหกิจและมีสถานะเป็นบริษัทเอกชน เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2563 บริษัทฯ จึงมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายด้านแรงงานของบริษัทเอกชนหลายฉบับ รวมทั้งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ซึ่งกำหนดให้บริษัทฯ ต้องจัดทำข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานให้สอดคล้องกับมาตรฐานเกี่ยวกับการจ้างงาน และประกาศใช้ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่บริษัทฯ พ้นจากความเป็นรัฐวิสาหกิจ ทั้งนี้ ระหว่างการจัดทำข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานฉบับดังกล่าว บริษัทฯ ได้หารือกับเจ้าหน้าที่ของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานอย่างใกล้ชิด และบริษัทฯ ทราบดีว่าสิทธิประโยชน์ของพนักงานที่มีอยู่ก่อนการพ้นจากความเป็นรัฐวิสาหกิจจะยังมีอยู่ตามเดิมจนกว่าบริษัทฯ และพนักงานจะได้ดำเนินกระบวนการแก้ไขเปลี่ยนแปลงตามวิธีการและขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด


ส่วนกรณีที่บริษัทฯ ออกประกาศที่ 046/2563 เรื่อง ขอความร่วมมือให้พนักงานทุกคนสมัครใจปรับลดเงินเดือนลงในอัตราร้อยละ 10 – 50 นั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อขอความยินยอมจากพนักงานทุกคนให้ลดเงินเดือนลงบางส่วนด้วยความสมัครใจ ในสภาวะที่บริษัทฯ อยู่ระหว่างการหยุดทำการบินเป็นการชั่วคราว (จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2563) โดยให้พนักงานลงชื่อแสดงเจตนารมณ์ช่วยเหลือบริษัทฯ และยินยอมให้บริษัทฯ ลดเงินเดือนด้วยความสมัครใจของพนักงานเอง แต่ในส่วนของพนักงานที่ไม่ได้ให้ความยินยอมให้ลดเงินเดือนนั้น บริษัทฯ จะยังคงจ่ายค่าจ้างในอัตราที่พนักงานคนนั้นได้รับ โดยจะไม่หักค่าจ้างตามประกาศบริษัทฯ ดังกล่าวแต่อย่างใด

ทั้งนี้ การดำเนินการทั้ง 2 กรณีของบริษัทฯ จึงเป็นการกระทำที่ไม่ได้ขัดต่อกฎหมายแรงงานแต่อย่างใด และบริษัทฯ ยังได้ดำเนินการต่าง ๆ ตามที่กฎหมายกำหนด โดยไม่กระทบกระเทือนต่อสิทธิ์ของพนักงานที่พึงได้รับตามขอบเขตของกฎหมายบริษัทฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าสื่อมวลชนจะเข้าใจในข้อเท็จจริงที่ได้ชี้แจงมาข้างต้นและเผยแพร่ให้สาธารณชนได้รับทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง