รทสช.ขอชาวร่อนพิบูลย์เทคะแนน

นครศรีธรรมราช 11 พ.ค.-“พล.อ.ประยุทธ์” อ้อนขอคะแนน ส.ส.เขต จากชาวร่อนพิบูลย์ ชี้ถ้าได้น้อย “ลุงตู่” กลับบ้านนอนแน่ ย้ำยังจำเป็นต้องมีทหาร เหน็บจะให้เอาเรือประมงไปสู้รบไม่ได้ พร้อมชูแก้ปัญหายางพารา-ปาล์มสำเร็จ


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงที่โรงเรียนวัดพิศาลนฤมิต อ.ร่อนพิบูลย์  โดยระบุว่า วันนี้ดีใจที่ได้มาพบกัน เอากำลังใจมาฝาก ตนเป็นคนหน้าดุ ไม่ปากหวานแต่จริงใจ และตนรักแผ่นดินนี้ รักษาแผ่นดินนี้มาด้วยชีวิตตลอด 40 ปี ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงใดๆ ก็ตาม ถ้าจะให้เกิดความมั่นคงยั่งยืน จะต้องร่วมมือกัน อะไรก็ตามที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง จะเปลี่ยนแปลงไม่ได้ เราทะเลาะกันไม่ได้อีกแล้ว

“ความหล่อไม่ถาวร ความจริงใจถาวรกว่า ส่งความรักและความสามัคคีมาให้กัน ผมรักทุกคน มาวันนี้ รู้สึกดีใจ พยายามทำให้ดีที่สุด และได้เป็นรัฐบาลก็จะทำต่อ ขอให้กาเบอร์ 22 เลือก “พี่ตู่” และขอให้เลือก ส.ส.เขตในพื้นที่ด้วย เพราะถ้าได้ ส.ส.เขตน้อย “ลุงตู่” กลับบ้านนอนแน่” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้แก้ปัญหาสินค้าเกษตร ปรับสมดุล ความต้องการตลาด โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาราคายางพารา ได้พยายามทำอย่างเต็มที่ และจะดูแลให้ดีที่สุด ยืนยันความต้องการของประชาชน ดังนั้น จะต้องหาเงินเข้าประเทศให้มากที่สุด ซึ่งได้ดำเนินการมาแล้ว ทั้งการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก รวมถึงการเพิ่มมูลค่าสินค้าทางการเกษตร โดยทุกอย่างจะต้องผ่านมาตรฐาน เพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศ และจะทำให้สำเร็จ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนการแก้ปัญหาราคาปาล์ม จะต้องดูความต้องการของตลาด วันนี้ขอพูดความจริง ทุกอย่างจะต้องมีการรวมกลุ่มกัน เพื่อให้เกิดการช่วยเหลือได้ง่ายขึ้น ยืนยันแก้ปัญหาเรื่องปุ๋ย ซึ่งจะต้องผลิตเองในประเทศและต้องได้รับความยินยอมในพื้นที่ด้วย เพราะทุกอย่างอยู่ที่ประชาชนตามระบอบประชาธิปไตย ยืนยันจะทำให้เร็วที่สุด แต่ขอทุกคนให้มีเหตุผล วันนี้ทางกายภาพ โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานทำได้ดีแล้ว ขอยืนยันว่า ผมทำได้ดีกว่ารัฐบาลที่ผ่านมาถึง 3 เท่า และมากกว่า 200 โครงการ ยืนยันทำเพื่อชาวบ้าน นึกถึงทุกคน เดินหน้าอุตสาหกรรมใหม่

“ขอคนไทยอย่าทะเลาะกัน ผมไม่ต้องการให้คนไทยขัดแย้งกัน ผมมีความภาคภูมิใจเกียรติยศของตนเองที่เคยป้องกันชายแดน ยืนยันทหารมีความจำเป็น ช่วยเหลือประชาชนทุกด้าน เพราะทหารเป็นความมั่นคงของประเทศ งบประมาณที่ใช้ไปในด้านนี้ก็เพื่อดำเนินการให้อยู่ได้ เมื่อถึงเวลาแล้วจะนำเรือประมงมาสู้รบแทนคงไม่ได้ หลายคนบอกไม่ต้องซื้อเรือรบก็ได้ เอาเรือประมงมาสู้กับเรือดำน้ำ หมายถึงเวลามีการรบกันกลางทะเล​ ผมขอเรือประมงพี่น้องมาด้วยก็แล้วกัน แล้วเอาปืนใหญ่ใส่เรือ แล้วให้คนพูดขับเรือไปสู้กับเขา​ การจะพูดอย่างนี้ไม่ได้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีบางพรรคการเมืองจะยกเลิกบำนาญข้าราชการว่า ข้าราชการเสียภาษีเต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะหัก ณ ที่จ่าย ควรมีเงินบำนาญ​ใช่หรือไม่​ เขาทำงานมา 40 ปี อยู่ๆ จะไปยกเลิกเขา บอกเขาเป็นช้างป่วยใช่หรือไม่ ดูถูกกลุ่มนี้ไม่ได้ การพูดแบบนี้ทำให้เกิดความบาดหมางซึ่งกันและกัน เพราะฉะนั้น ช้างเราจะต้องไม่ป่วย ช้างเราต้องแข็งแรง ช้างเราต้องเป็นช้างศึก เขาเป็นพ่อแม่ของเราทั้งสิ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการหาเสียงเป็นไปด้วยความคึกคัก ประชาชนมารอต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ จำนวนมาก

จากนั้น พล.ประยุทธ์​ ขึ้นเวทีปราศรัยย่อยทุ่งสง ระบุว่า ขอบคุณทุกคนที่ได้มาในวันนี้ ​เห็นถึงความรักความจริงใจของคนได้ทั้งหมด ทุกคนเป็นคนดี ตนรักแรง รักชาวทุ่งสงทุกคน​ พร้อมกับกล่าวย้ำว่า ผมเป็นลูกน้องของท่านเป็นลูกน้องของประชาชน เพราะต้องทำงานให้ท่าน ที่ผ่านมาเราผ่านอะไรกันมาตั้งเยอะแยะ​ นอกจากนี้ได้เขียนโครงการภาคใต้ไว้พอสมควร ถ้าไม่ได้เป็นนายกฯ ​ก็แปลว่ากันเอาใหม่แล้วกัน ไม่ได้หาเสียงนะ แต่เล่าเรื่องจริงให้ฟัง​ การที่จะเข้าไปเป็นนายกรัฐมนตรี​ ต้องเป็น ส.สให้ได้มากที่สุดจากพรรครวมไทยสร้างชาติ หากเลือกทั้งสองคนสำเร็จแน่

พล.อ.ประยุทธ์​ ยังกล่าวอีกว่า​ แผ่นดินนี้เป็นแผ่นดินอันศักดิ์สิทธิ์​ เราเกิดแล้วตายที่นี่ไม่ได้ไปตายนอกประเทศ​ เราตายที่นี่ ไม่ได้ว่าใครนะ บางคนเขาไปประกอบการธุรกิจต่างประเทศ อาจจะตายที่นอกประเทศก็ได้ ไม่ยุ่งกับใครอยู่แล้ว​ เพราะต้องการให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยขึ้นมา ทำอะไรต้องระมัดระวัง​ บ้านเมืองเราไม่สงบอีกไม่ได้แล้ว เรามีปัญหามากกว่า 10 ปีแล้ว จะกลับไปที่เดิมไม่ได้อีกเด็ดขาด​

ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ ยังย้ำเรื่องนี้เป็นเวทีที่ 4 โดยระบุว่า เราต้องทำให้ทหารของเราเข้มแข็ง จะให้เอาเรือประมงไปรบกับเรือดำน้ำไม่ได้ ซึ่งตนไม่เข้าใจว่า คิดได้อย่างไร แล้วยังมา กล่าวหาว่าข้าราชการบำนาญเป็นช้างป่วย ทั้งที่ความจริง เราเป็นช้างศึก​ ตัวใหญ่ตายยาก ฉลาดด้วย พร้อมกับยังกล่าวอีกว่า​ หากมี ส.ส.มาก​ ตนจะมีแต้มต่อในการเป็นรัฐบาลได้ ดังนั้นจะต้องเลือก รวมไทยสร้างชาติทั้ง 2 ใบ ขณะเดียวกันยังย้ำว่าทหารเป็นผู้เสียสละ​ ตนเป็นทหารเก่า​ ทหารหลายคนเสียสละอยู่ชายแดนวันนี้ 4 หมื่นกว่าคน อยู่ชายแดนรอบประเทศ​ เสียสละให้พวกเรามีชีวิตอยู่รอด​ เสียสละทำมาหากิน ดังนั้นต้องปกป้องทหาร. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” เผยเห็นภาพชัดขึ้น หลังลงพื้นที่เสียหาย จ.สุรินทร์

สุรินทร์ 9 ส.ค.- “มาริษ” เผยเห็นภาพชัดขึ้น หลังลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ สำรวจความเสียหายจากการโจมตีของกัมพูชา เตรียมใช้เป็นข้อชี้แจงนานาชาติ กัมพูชาใช้อาวุธระยะไกลโจมตีพื้นที่พลเรือน ยันพร้อมประสานให้ ICRC – UN มาดูพื้นที่ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนภายหลังการลงพื้นที่สำรวจความเสียหายที่จังหวัดสุรินทร์ จากเหตุการณ์ปะทะกันตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา ว่า เรื่องข้อมูลของการละเมิดสิทธิ และละเมิดกฎสหประชาชาติกฎหมายระหว่างประเทศของกัมพูชา เรามีข้อมูลครบถ้วนอยู่แล้ว เมื่อวันนี้ได้มาเห็นสภาพจริง และมาเก็บข้อมูลเพิ่มเติม ได้เห็นภาพนอกเหนือจากข้อมูล ก็เป็นภาพที่เห็นชัดเจน รวมถึงการบรรยายสรุปของผู้ว่าราชการจังหวัด เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ที่อธิบายให้เห็นการโจมตีเป้าหมายที่ห่างไกลออกจากเขตแดน ซึ่งตนเองใช้เป็นข้อชี้แจงกับนานาชาติ และองค์กรสหประชาชาติว่าการใช้ประเภทอาวุธระยะไกลของฝ่ายกัมพูชาจะทำให้เกิดปัญหา และจะทำให้ประชาชนพลเรือนได้รับผลกระทบโดยตรง ซึ่งเป็นการโจมตีเป้าหมายไปยังพลเรือน แต่ยังไม่สามารถเข้าไปดูพื้นที่กับระเบิด และวันนี้ทราบว่ามีทหารเหยียบกับระเบิดที่วางอยู่ตามแนวชายแดน โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศชี้แจง และแสดงความผิดหวัง และไม่ปราถนาที่จะเห็นผลกระทบที่เกิดขึ้นในช่วงการเจรจา เพื่อแก้ไขปัญหาระหว่างกันให้สำเร็จอย่างยั่งยืน ส่วนนี้เราจะแสดงจุดยืนที่ไม่เห็นด้วยกับการใช้อาวุธ หรือทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ที่ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา อย่างชัดเจน นายมาริษ กล่าวว่าการเดินทางมาครั้งนี้ ได้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้นในสิ่งที่เราเรียกร้องมาโดยตลอด ว่าเราทำตนอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว และได้แสดงตนให้ประชาคมโลก […]

ทหารเหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวน เจ็บ 3 นาย

ศรีสะเกษ 9 ส.ค. – กำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวน บาดเจ็บ 3 นาย โดย “จ.ส.อ.ธานี” หัวหน้าชุด ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 แถลงสถานการณ์การตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ประจำวันที่วันที่ 9 สิงหาคม 2568 ถึงเวลา 11.00 น. โดยมีรายละเอียด ดังนี้ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. ร้อย.ร.111 ได้นำกำลังพลลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อวางลวดหนามป้องกันพื้นที่ บริเวณรอยต่อ โดนเอาว์-กฤษณา จ.ศรีสะเกษ โดยมี จ.ส.อ.ธานี พาหา เป็นหัวหน้าชุด และกำลังพล 2 นาย โดยระหว่างตรวจสอบเส้นทางได้เหยียบกับระเบิด เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 นาย (ส.1 […]

“ภูมิธรรม” เยี่ยมให้กำลังใจชาวสุรินทร์ ประสานนำผู้อพยพกลับบ้าน

สุรินทร์ 9 ส.ค.-“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจชาวสุรินทร์ ประสานคมนาคม นำผู้อพยพกลับบ้านโดยเร็วที่สุด สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด ดูแลประชาชนเป็นอย่างดี ให้ใช้งบเต็มที่ พร้อมประสานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการประปาส่วนภูมิภาค ละเว้นค่าไฟ ค่าน้ำ ในช่วงที่เกิดการปะทะ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนในพื้นที่ เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยจุดแรกเดินทางไปที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ โดยเมื่อเดินทางถึง นายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วย นายชูชัย มุ่งเจริญพร สส.เขต 2 พรรคเพื่อไทย มาให้การต้อนรับ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรามาด้วยความห่วงใย และทราบดีว่าประชาชนทุกคนมีความยากลำบากในสิ่งที่ไม่ใช่ความผิดของเราเลย เป็นเรื่องที่ส่วนอื่นนอกประเทศ โดยเฉพาะเรื่องที่เป็นคู่ขัดแย้งของเราทำขึ้น สร้างขึ้น และทำให้ประชาชนเดือดร้อน ในขั้นต้น พวกเราทุกคนหน่วยหลัง ได้ทำการดูแลแผนพิทักษ์ส่วนหลังทั้งหมด พยายามดูแลทุกส่วนอย่างเต็มที่ […]

รถไฟด่วนพิเศษ ตกรางย่านสถานีกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์

ประจวบคีรีขันธ์ 9 ส.ค.-รถไฟขบวนรถด่วนพิเศษ ตกรางย่านสถานีกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ช่วงเช้ามืดวันนี้ จนท.นำผู้โดยสารที่บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลแล้ว ขบวนรถสายใต้เดินขบวนรถได้ตามปกติ แต่ล่าช้า เฟซบุ๊กทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย รายงานวันนี้ (9 สิงหาคม 2568) เวลา 05.15 น. เกิดเหตุขบวนรถด่วนพิเศษ ขบวนที่ 38/46 (สุไหงโก-ลก – กรุงเทพอภิวัฒน์) คันที่ 10-12 ตกรางย่านสถานีกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ – เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บ นำตัวส่งโรงพยาบาล– ขนถ่ายผู้โดยสาร คันที่ 10-12 ทางรถยนต์– นำตู้โดยสารที่ไม่ได้ตกราง ทำขบวนต่อถึงสถานีปลายทาง ทั้งนี้ ขบวนรถสายใต้เดินขบวนรถได้ตามปกติ (ล่าช้า) การรถไฟฯ ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์สายด่วน 1690 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุดังกล่าวมีผู้บาดเจ็บ 9 ราย เป็นพระภิกษุ 1 รูป เด็กหญิง […]